ชาวโคราชแห่ซื้ออาหาร และของใช้อุปโภคบริโภค หลังมีคำสั่งปิดเมืองสกัดโควิด-19

หลังจากที่นายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา ได้มีคำสั่งให้ปิดห้างสรรพสินค้า และตลาดทุกแห่ง รวมไปถึงสถานที่ต่างๆ ที่เป็นแหล่งรวมคนทั่วทั้ง 32 อำเภอของจังหวัดนครราชสีมา โดยให้เปิดขายได้เฉพาะส่วนของซูเปอร์มาร์เก็ต ร้านขายยา และร้านอาหารให้เปิดได้เฉพาะบริการการสั่งกลับบ้านเท่านั้น ห้ามนั่งรับประทานอาหารที่ร้านตั้งแต่วันที่ 22 มีนาคม ไปจนถึงวันที่ 12 เมษายน 2563 เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด 19 หลังขณะนี้ในพื้นที่พบผู้ติดเชื้อแล้วจำนวน 5 ราย ซึ่งหากผู้ใดฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามคำสั่งนี้ ถือเป็นความผิดตามมาตรา 52 แห่ง พ.ร.บ.โรคติดต่อ พ.ศ. 2558 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 1 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

ล่าสุดวันนี้ (22 มีนาคม 2563) ประชาชนในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมาจำนวนมากได้เริ่มหวั่นวิตกว่า สินค้าอุปโภคบริโภคจะขาดแคลน จึงได้แห่พากันเข้าไปเลือกซื้อสินค้าในซุปเปอร์มาเก็ตต่างๆ เพื่อซื้ออาหารกักตุนไว้ อย่างเช่นที่ ห้างสรรพสินค้าเทสโก้โลตัส สาขาถนนมิตรภาพ อ.เมือง จ.นครราชสีมา มีประชาชนทั้งจากต่างอำเภอ และในอำเภอเมืองนครราชสีมา พากันไปเลือกซื้อของอุปโภคบริโภค ส่วนใหญ่ได้เน้นไปที่ของใช้จำเป็น เช่น บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป น้ำมันพืช อาหารกระป๋อง กระดาษชำระ น้ำดื่ม และอาหารแช่แข็ง เป็นต้น ส่งผลให้สินค้าบางชนิดเริ่มหมดจากชั้นวางของอย่างรวดเร็ว จนพนักงานต้องนำสินค้ามาเติมบนชั้นวางของอย่างต่อเนื่อง

นางวรรณา พิลาพรรณ อายุ 50 ปี ชาว อ.สูงเนิน จ.นครราชสีมา เปิดเผยว่า ภายหลังจากที่ทราบข่าวการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด 19 ก็ทำให้ครอบครัวรู้สึกหวาดกลัวเป็นอย่างมาก แทบจะไม่กล้าออกมาจับจ่ายซื้อของเหมือนปกติทั่วไป ขณะเดียวกันเมื่อทราบว่ามีการสั่งปิดห้าง และร้านอาหารต่างๆ ทำให้ต้องซื้อของไปกักตุนไว้ เพราะกลัวว่าจะขาดแคลนอาหาร และหลังจากนี้ถ้าไม่จำเป็นก็จะไม่พากันออกไปไหนเด็ดขาด เพราะไม่รู้ว่าใครจะนำเชื้อไวรัสโควิด 19 มาติดเราได้บ้าง