“เชียงราย” ปิดด่านแม่สายแรงงานพม่าตกค้าง300คน “หอการค้า” เสนอเปิดท่าเรือน้ำโขงขนส่งสินค้า

วันที่ 23 มี.ค.2563 ผู้สื่อข่าวรายงานว่าที่บริเวณหน้าด่านพรมแดนไทย-เมียนมา อ.แม่สาย จ.เชียงราย ตรงสะพานมิตรภาพไทย-เมียนมา ข้ามลำน้ำสายแห่งที่ 1 บรรยากาศเป็นไปด้วยความเงียบเหงา หลังจาก จ.เชียงราย มีการปิดด่านตั้งแต่วันที่ 22 มี.ค.ที่ผ่านมา และเปิดให้เฉพาะรถขนส่งสินค้าข้ามพรมแดนได้ตรงสะพานแห่งที่ 2 ห่างออกไปประมาณ 3 กิโลเมตร เพื่อสกัดกั้นโรคไวรัสโควิด-19

ขณะที่ตลาดและร้านค้าต่างๆ หน้าด่านทั้ง 2 ฝั่งมีสภาพซบเซาเพราะไม่มีผู้คนไปเยือน อย่างไรก็ตามพบว่าได้มีกลุ่มแรงงานชาวเมียนมาประมาณ 300 คน ซึ่งส่วนใหญ่เดินทางไปทำงานที่กรุงเทพฯ และปริมณฑลเดินทางไปบริเวณหน้าด่านเพื่อขอข้ามกลับไปยังภูมิลำเนา เนื่องจากช่วงคืนที่ผ่านมาเดินทางกลับไปไม่ทัน ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ด่านตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) จ.เชียงราย เจ้าหน้าที่สาธารณสุข และทหารกองกำลังผาเมือง เข้าไปดูแลและประสานงานกับฝั่งเมียนมาเพื่อให้รับตัวกลับไปแล้ว

ด้าน น.ส.ผกายมาศ เวียร์ร่า รองประธานหอการค้า จ.เชียงราย กล่าวว่ากรณีผู้คนตกค้างบริเวณหน้าด่านพรมแดนได้มีการขออนุโลมให้มีการข้ามกลับไปได้ เพราะถือว่าสุดวิสัย เพราะแรงงานเหล่านี้ต้องเดินทางไกลกว่าจะถึงด่านที่มีการปิดอย่างเร่งด่วน คาดว่ากรณีเรื่องการข้ามแดนไม่น่าจะมีปัญหาตกค้างอีก ส่วนภาคการค้านั้นคงจะกระทบยาว เพราะคาดว่าการปิดด่านพรมแดนจะใช้ระยะเวลาอีกนานกว่าสถานการณ์จะกลับมาปกติ

ดังนั้นจึงได้เสนอให้ทาง จ.เชียงราย ได้เปิดจุดผ่านแดนถาวรตรงท่าเรือแม่น้ำโขง อ.เชียงแสน เพื่อให้มีการขนส่งสินค้าจาก จ.เชียงราย ผ่านพิธีการทางศุลกากรอย่างถูกต้องส่งไปยังประเทศต่างๆ ลุ่มแม่น้ำโขงได้ หลังจากที่ในปัจจุบันมีการปิดจุดผ่านแดนถาวรทั้งหมดโดยคงเหลือที่ อ.แม่สาย ตรงสะพานข้ามลำน้ำสายแห่งที่ 2 เพียงแห่งเดียวดังกล่าว

น.ส.ผกายมาศ กล่าวอีกว่าเนื่องจากการเปิดท่าเรือให้ส่งออกสินค้าจะไม่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 เพราะสินค้าจะใช้การบรรทุกคอนเทนเนอร์หรืออื่นๆ จากนั้นถ่ายเทลงเรือแล้วส่งออกหรือนำเข้าอย่างรวดเร็ว เป้าหมายตลาดคือเมืองท่าต่างๆ โดยเฉพาะสบหรวย ประเทศเมียนมา และประเทศจีนซึ่งปัจจุบันได้เปิดทำการแล้วหลังจากภาวะไวรัสลดลง ซึ่งตนเห็นว่าการเปิดท่าเรือจะช่วยแบ่งเบาผลกระทบด้านเศรษฐกิจและไม่เกี่ยวของกับการแพร่ระบาดของโรคแตกต่างจากด่านทางบกที่มีผู้คนจำนวนมากดังกล่าว ทั้งนี้หลังการนำเสนอแล้วทางการอยู่ระหว่างพิจารณาอยู่

รายงานข่าวจากสำนักงานพาณิชย์ จ.เชียงราย แจ้งว่าที่ผ่านมาด่านการค้าชายแดน จ.เชียงราย ทำให้มีมูลค่าค้าชายแดนตลอดปี 2562 ตั้งแต่เดือน ม.ค.-ต.ค.มูลค่ารวมกันกว่า 43,952.92 ล้านบาท แยกเป็นการส่งออกมูลค่า 37,034.08 ล้านบาท และนำเข้ามูลค่า 6,918.79 ล้านบาท และเฉพาะด่านศุลกากรแม่สายเพียงแห่งเดียวมีมูลค่าการค้ารวม 11,646.7 ล้านบาท แยกเป็นการส่งออกมูลค่า 11,175.29 ล้านบาท และนำเข้ามูลค่า 471.38 ล้านบาท สินค้าส่งออกส่วนใหญ่เป็นเชื้อเพลิง อุปโภคบริโภค ฯลฯ ส่วนสินค้านำเข้าส่วนใหญ่เป็นสินค้าทางการเกษตร และหลายฝ่ายคาดว่าแม้จะมีการปิดด่านพรมแดนตรงจุดที่ใช้เพื่อการขนส่งสินค้าได้แต่ก็จะส่งผลทำให้มูลค่าการค้าลดลง

รายงานข่าวจากชายแดนแจ้งอีกว่าด้านคณะกรรมการบริหารจัดการระดับจังหวัดเมืองท่าขี้เหล็ก จ.ท่าขี้เหล็ก ได้แจ้งถึงประชาชนในฝั่งของตนว่ากรณีประเทศไทยได้ปิดด่านพรมแดนตั้งแต่คืนวันที่ 22 มี.ค.ที่ผ่านมานั้นทางการเมียนมาได้ประสานกับทางการไทยเพื่อให้ได้รับอนุญาตในการสั่งนำเข้าสินค้าที่มีความจำเป็นอื่นๆ โดยเฉพาะน้ำมันเชื้อเพลิงที่จำเป็นต้องใช้สำหรับท้องถิ่นท่าขี้เหล็กแล้วโดยจะขนส่งผ่านสะพานมิตรภาพไทย-เมียนมา ข้ามลำน้ำสายแห่งที่ 2 กระนั้นในส่วนของสมาคมน้ำมันเชื้อเพลิงท่าขี้เหล็ก ก็ไม่ได้ประมาทโดยปัจจุบันมีการสำรองน้ำมันเชื้อเพลิงเอาไว้ในปั้มต่างๆ ก่อนโดยประมาณคือน้ำมันดีเซลประมาณ 680,000 ลิตร น้ำมันเบนซินประมาณ 700,000 ลิตร โดยจะจำหน่ายในราคาคงเดิมต่อไป