“เจียงอินเตอร์เนชั่นแนล”กระทบจากโควิด ยกโรงแรมให้เป็นโรงพยาบาลสนาม

ธุรกิจในเครือเจียงอินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 โดยเฉพาะธุรกิจโรงแรม และศูนย์การค้า เน้นการขายผ่านโซเชียลมากขึ้น และมีปรับตัวและประคับประคอง เพื่อให้ผ่านวิกฤติครั้งนี้ให้ได้ พร้อมยกโรงแรมอัศวรรณ เปิดห้องพัก 119 เตียง ให้บุคลากรทางการแพทย์พักเบื้องต้น ปรับเป็นโรงพยาบาลสนามได้ทันทีหากสถานการณ์รุนแรงขึ้น

จากสถานการณ์โรคโควิด 19 ในพื้นที่ จ.หนองคาย ที่ขณะนี้มีผู้ป่วยติดเชื้อแล้ว 1 ราย เป็นหญิงอายุ 30 ปี ทำงานสถานบันเทิงที่กรุงเทพมหานคร สอบสวนโรคแล้วพบว่าติดเชื้อจากเพื่อนร่วมงาน ก่อนจะเดินทางกลับบ้านสามีที่ อ.โพนพิสัย จ.หนองคาย ขณะนี้พักรักษาตัวที่โรงพยาบาลโพนพิสัย ซึ่งเมื่อมีการตรวจพบผู้ป่วยแล้วทางจังหวัดหนองคายได้ยกระดับมาตรการเข้มงวดมากขึ้น และได้รับความร่วมมือจากหลายภาคส่วนร่วมทั้งภาคเอกชนด้วย จากมาตรการณ์ในการป้องกันการแพร่ระบาด ได้ส่งผลกระทบในวงกว้าง ทั้งในกรุงเทพฯและต่างจังหวัด ทำให้ผู้ประกอบการต้องมีการปรับตัว เพื่อให้ธุรกิจของตนสามารถผ่านวิกฤติครั้งนี้ให้ได้


นายอนุชิต สกุลคู กรรมการบริหารบริษัทเจียงอินเตอร์เนชั่นแนลจำกัด ผู้ดูแลธุรกิจในกลุ่มอัศวรรณทั้งหมด ซึ่งเป็นนักธุรกิจที่มีธุรกิจหลากหลายในพื้นที่ จ.หนองคาย และ สปป.ลาว รวมถึงธุรกิจโรงแรมอัศวรรณ เปิดเผยว่า ภาพรวมธุรกิจในเครือก็ได้รับผลกระทบ โดยเฉพาะโรงแรม และศูนย์การค้า ส่วนธุรกิจอื่น ๆ ก็ได้รับผลกระทบเช่นเดียวกัน เนื่องจากประชาชนส่วนใหญ่ได้เก็บตัวกันอยู่ที่บ้าน ไม่ออกมาในสถานที่เสี่ยงหรือตามชุมชนที่มีคนเป็นจำนวนมาก ซึ่งในส่วนของโรงแรมหลังจากที่ได้ประกาศตัวให้เป็นบุคลกากรทางการแพทย์ได้พัก โดยจัดสรรห้องได้รองรับจำนวน 25 ห้อง พร้อมประกาศให้เป็นโรงพยาบาลสนาม ก็ทำให้ลูกค้าลดลงเกือบทั้งหมด ซึ่งขณะนี้ทางโรงแรมก็ยังเปิดให้บริการปกติด

ในส่วนของศูนย์การค้านั้นได้รับผลกระทบอย่างมากเช่นเดียวกัน ทั้งจากการที่ประชาชนเก็บตัวอยู่ในบ้าน และจากการที่มีการปิดด่านพรมแดนสะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 1 จังหวัดหนองคาย ทำให้ลูกค้าชาวลาวที่ถือเป็นลูกค้าที่มียอดซื้อสูง ไม่สามารถเดินทางข้ามมาจับจ่ายซื้อหาสินค้าในจังหวัดหนองคายและในจังหวัดใกล้เคียงได้ ส่งผลให้ยอดขายลดลงกว่า 50%

นายอนุชิต เปิดเผยอีกว่า สถานการณ์ในขณะนี้ บริษัทในเครือเจียงอินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ก็ต้องมีการปรับตัวเองเพื่อให้ผ่านสถานการณ์นี้ไปให้ได้ โดยได้เน้นการขายผ่านโซเชียลให้มากขึ้น โดยเฉพาะพนักงานขายที่หากออกไปพบลูกค้าโดยตรงก็จะมีความเสี่ยงที่จะติดเชื้อได้ เพื่อเป็นการป้องกันให้กับพนักงานจึงให้เน้นการขายและการติดต่อลูกค้าผ่านโซเชียลแทน ประกอบกับจำนวนลูกค้าที่จะเข้ามาหาถึงร้านนั้นน้อยลง เนื่องจากความกลัวที่อาจจะติดเชื้อได้หากออกมาตามที่สาธารณะ ห้างร้าน และชุมชนที่มีความแออัด จึงต้องติดต่อลูกค้าผ่านโซเชียลแทน

ส่วนการเตรียมพร้อมในการรับมือสถานการณ์ที่อาจจะยืดเยื้อนั้น ก็คงจะทำอะไรไม่ได้มาก แต่จากการติดตามสถานการณ์การแพร่ระบาดในประเทศจีน เห็นว่าจะต้องเผชิญกับโรคโควิด-19 ประมาณ 3 เดือน ซึ่งจะต้องประคับประคองและมีการปรับตัวตามสถานการณ์เพื่อให้สามารถผ่านวิกฤติตรงนี้ไปให้ได้ เช่นมีการปรับเปลี่ยนพนักงานในโรงแรม ที่ช่วงนี้ไม่ค่อยมีลูกค้าให้ไปช่วยในธุรกิจอื่น เป็นต้น

อย่างไรก็ตามสถานการณ์ของโรคโควิด 19 ทุกภาคส่วนต้องร่วมมือกัน ซึ่งตนได้หารือกับประธานกรรมการบริหารของบริษัทในเครือเห็นว่าควรทำประโยชน์เพื่อชาวหนองคายเป็นการตอบแทน ประกอบกับเห็นว่ามีเจ้าของโรงแรมปัญจดารา ที่นครราชสีมา ยกโรงแรมให้เป็นโรงพยาบาลสนาม และตนก็ทำโรงแรมอัศวรรณอยู่แล้ว จึงพร้อมที่จะทำเช่นกัน โดยได้หารือกับนายรณชัย จิตรวิเศษ ผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย และ นพ.วิศณุ วิทยาบำรุง นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดหนองคาย ถึงแนวทางการดำเนินการ ซึ่งทุกฝ่ายเห็นดีด้วย

ดังนั้นในช่วงวิกฤติโควิด 19 โรงแรมอัศวรรณ จะเป็นที่พักรองรับบุคลากรทางการแพทย์ หากต้องการมาพัก อาบน้ำ ชำระล้างร่างกาย พักผ่อน รับประทานอาหาร หรือรับบริการของทางโรงแรมก็พร้อมตลอด 24 ชั่วโมง โดยทางสาธารณสุขจังหวัดหนองคายจะพิจารณาจัดส่งแพทย์ บุคลากรทางการแพทย์มาใช้สถานที่ หรือหากสถานการณ์ของโรคโควิด 19 รุนแรงมากขึ้น ถึงขั้นต้องยกระดับมาตรการขึ้น ทางโรงแรมอัศวรรณก็พร้อมที่จะยกให้เป็นโรงพยาบาลสนาม โดยมีห้องพักทั้งหมด 119 ห้อง มีพนักงานโรงแรมที่จะต้องผ่านการอบรมการดูแลตัวเอง การปฏิบัติตนทางด้านสุขอนามัยเช่นเดียวกับอาสาสมัครสาธารณสุข ให้เป็นผู้ช่วยบริการภายในโรงแรม


นายอนุชิต บอกว่า ขอความร่วมมือประชาชนทุกคนอยู่บ้าน งดเดินทาง งดเคลื่อนย้ายตัวเอง หากเดินทางไปในพื้นที่เสี่ยงขอให้กักตัวเองเพื่อลดความเสี่ยงของการแพร่เชื้อโควิด 19 ก็จะเป็นการช่วยเหลือประเทศชาติได้ ในช่วงนี้ธุรกิจทุกประเภทต้องยอมเจ็บตัว เพื่อช่วยกันแก้ไขสถานการณ์ของประเทศไทยให้ผ่านพ้นไปด้วยกัน