ภูเก็ตสั่งปิดอีก 3 ตำบล เร่งค้นหาผู้ติดเชื้อโควิด-19 เผยต่างชาติกระจายอยู่เต็มทุกพื้นที่

เมื่อวันที่ 7 เม.ย.63 นายภัคพงศ์ ทวิพัฒน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต ในฐานะผู้กำกับการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินในเขตพื้นที่จังหวัดภูเก็ต ลงนามคำสั่งจังหวัดภูเก็ต รวม 3 ฉบับในการปิดพื้นที่ ต.กะทู้, ต.ฉลอง, ต.ศรีสุนทร

คำสั่งที่ 1831/2563 เรื่อง ปิดสถานที่และกำหนดมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด19 พื้นที่ตำบลกะทู้ อำเภอกะทู้ จังหวัดภูเก็ต

สาระสำคัญในคำสั่งฉบับดังกล่าว ระบุว่า จากการติดตามสถานการณ์การแพร่ระบาดในจังหวัดภูเก็ต พบว่า ยังคงมีจำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ประกอบกับเทศบาลเมืองกะทู้มีหนังสือมาตรการแนวทางการแก้ไขปัญหาดังกล่าว ตามมติที่ประชุมโดยความเห็นชอบของคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดภูเก็ต ครั้งที่ 17/2563 จึงออกคำสั่งฉบับดังกล่าวนี้ เนื่องจากพื้นที่ตำบลกะทู้ อำเภอกะทู้ เป็นพื้นที่เสี่ยงต่อการติดเชื้อไวรัสโคโรนา2019หรือโรคโควิด19 เพื่อป้องกันมิให้โรคนั้นแพร่โดยทางตรงหรือทางอ้อมไปยังผู้อื่นจึงห้ามประชาชนเข้าไปหรือออกจากพื้นที่ดังกล่าว

กำหนดจุดตรวจคัดกรองโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 จุดตรวจคัดกรองบริเวณรอยต่อตำบลกะทู้-ตำบลรัษฎา ถนนพระภูเก็จแก้ว ,จุดตรวจคัดกรองบริเวณรอยต่อตำบลกะทู้-ตำบลวิชิต ถนนวิชิตสงคราม ,จุดตรวจคัดกรองบริเวณรอยต่อตำบลกะทู้-ตำบลวิชิต ถนนเหมืองเจ้าฟ้า,จุดตรวจคัดกรองบริเวณรอยต่อตำบลกะทู้-ตำบลเกาะแก้ว ถนนกะทู้ -นาเกาะ

ให้สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดภูเก็ตร่วมกับอำเภอกะทู้ และเทศบาลเมืองกะทู้จัดบุคลากรเข้าตรวจวัดไข้ประชาชน หากพบผู้ใดมีอาการเข้าข่ายต้องถูกส่งไปแยกกัก กักกัน หรือคุมไว้สังเกตอาการยังสถานที่ที่จังหวัดกำหนด ให้เทศบาลกะทู้ ทำความสะอาดสถานที่สาธารณะ ถนน บ้านพักอาศัยร้านค้าในเขตพื้นที่ตำบลกะทู้ โดยการฉีดฆ่าเชื้อทั้งหมดทุกหลังคาเรือน ขอความร่วมมือประชาชนมิให้ออกนอกเคหสถานหรือบริเวณสถานที่พำนักของตน เพื่อป้องกันตนเองจากการรับเชื้อและอาจเป็นพาหะในการกระจายของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด19

หากผู้ใดฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามคำสั่งฉบับนี้ อาจเป็นความผิดตามมาตรา 52 แห่ง พ.ร.บ.โรคติดต่อ พ.ศ.2558 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาทหรือทั้งจำทั้งปรับและอาจได้รับโทษตามมาตรา 18 แห่ง พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินพ.ศ.2548 ตามข้อกำหนดตามความในมาตรา9 แห่งพ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548(ฉบับที่ 1) ตั้งแต่วันที่ 7 เมษายน 2563 เป็นต้นไป จนกว่าจะมีคำสั่งเป็นอย่างอื่น

คำสั่งที่ 1832/2563 เรื่อง ปิดสถานที่และกำหนดมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด19พื้นที่ตำบลฉลอง อำเภอเมือง จังหวัดภูเก็ต

สาระสำคัญ คำสั่งฉบับดังกล่าว ระบุว่า จากการติดตามสถานการณ์การแพร่ระบาดในจังหวัดภูเก็ต พบว่ายังคงมีจำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ประกอบกับเทศบาลตำบลฉลองมีหนังสือเสนอมาตรการแนวทางแก้ไขปัญหาดังกล่าว

ตามมติที่ประชุมโดยความเห็นชอบของคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดภูเก็ต ครั้งที่ 17/2563 จึงออกคำสั่งฉบับดังกล่าวนี้ เนื่องจากพื้นที่ตำบลฉลอง อำเภอเมืองภูเก็ต เป็นพื้นที่เสี่ยงต่อการติดเชื้อไวรัสโควิด19 เพื่อป้องกันมิให้โรคนั้นแพร่โดยทางตรงหรือทางอ้อมไปยังผู้อื่นจึงห้ามประชาชนเข้าไปหรือออกจากพื้นที่ดังกล่าว

กำหนดจุดตรวจจุดคัดกรองโรคติดเชื้อโควิด19 บริเว๊รอยต่อตำบลฉลอง-ตำบลวิชิต ถนนเจ้าฟ้า ,บริเวณซอยตาชัย ถนนเจ้าฟ้าตะวันตก,บริเวณซอยตาเอียด ถนนซอยตาเอียด,บริเวณซอยป่าหล่าย ถนนซอยป่าหล่าย,บริเวณเขื่อนวังกระทะ ถนนหลังวัดหลวงปู้สุภา,บริเวณทางขึ้นเขาพระใหญ่ ถนนยอดเสน่ห์ ,บริเวณีอยต่อตำบลกะรน -ตำบลฉลอง ถนนปฎัก ,บริเวณซอยสุกี้ ถนนซอยสุกี้

ให้สาธารณสุขจังหวัดร่วมอำเภอและเทศบาลตำบลฉลองจัดบุคลากรตรวจวัดไข้ประชาชนในพื้นที่ตำบลฉลองทุกคน หากพบผู้ใดอาการเข้าข่ายจะต้องถูกส่งไปแยกกัก กักกัน หรือคุมไว้สังเกตอาการยังสถานที่ที่จังหวัดกำหนด ให้เทศบาลตำบลฉลอง ทำความสะอาดสถานที่สาธารณะ ถนน บ้านพักอาศัยร้านค้าในเขตพื้นที่ตำบลฉลอง โดยการฉีดฆ่าเชื้อทุกหลังคาเรือน ขอความร่วมมือประชาชนมิให้ออกนอกเคหสถานหรือบริเวณสถานที่พำนักของตน เพื่อป้องกันตนเองจากการรับเชื้อและอาจเป็นพาหะในการกระจายของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด19 ไปยังบุคคลอื่นอีก

หากผู้ใดฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามคำสั่งฉบับนี้ อาจเป็นความผิดตามมาตรา 52 แห่ง พ.ร.บ.โรคติดต่อ พ.ศ.2558 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาทหรือทั้งจำทั้งปรับและอาจได้รับโทษตามมาตรา 18 แห่ง พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินพ.ศ.2548 ตามข้อกำหนดตามความในมาตรา9 แห่งพ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548(ฉบับที่ 1) ตั้งแต่วันที่ 7 เมษายน 2563 เป็นต้นไป จนกว่าจะมีคำสั่งเป็นอย่างอื่น

คำสั่งที่ 1833/2563 เรื่อง ปิดสถานที่และกำหนดมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อโควิด19 พื้นที่ตำบลศรีสุนทร อำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต

สาระสำคัญ คำสั่งฉบับดังกล่าว ระบุว่า จากการติดตามสถานการณ์การแพร่ระบาดในจังหวัดภูเก็ต พบว่ายังคงมีจำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ประกอบกับเทศบาลตำบลศรีสุนทร มีหนังสือเสนอมาตรการแนวทางแก้ไขปัญหาดังกล่าว

ตามมติที่ประชุมโดยความเห็นชอบของคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดภูเก็ต ครั้งที่ 17/2563 จึงออกคำสั่งฉบับดังกล่าวนี้ เนื่องจากพื้นที่ตำบลศรีสุนทร อำเภอถลาง เป็นพื้นที่เสี่ยงต่อการติดเชื้อไวรัสโคโรนา2019หรือโรคโควิด19 เพื่อป้องกันมิให้โรคนั้นแพร่โดยทางตรงหรือทางอ้อมไปยังผู้อื่นจึงห้ามประชาชนเข้าไปหรือออกจากพื้นที่ดังกล่าว

กำหนดจุดตรวจคัดกรอง โรคติดเชื้อไวรัสโควิด19 บริเว๊สามแยกหมู่บ้านบางโจ ถนนศรีสุนทร ,บริเวณรอยต่อบ้านบางโจ -บ้านป่าสักซอย 8 บริเวณรอยต่อตำบลป่าคลอก-ตำบลศรีสุนทร

ให้สาธารณสุขจังหวัดร่วมอำเภอถลางและเทศบาลตำบลศรีสุนทร จัดบุคลากรตรวจวัดไข้ประชาชนในพื้นที่ตำบลฉลองทุกคน หากพบผู้ใดอาการเข้าข่ายจะต้องถูกส่งไปแยกกัก กักกัน หรือคุมไว้สังเกตอาการยังสถานที่ที่จังหวัดกำหนด ให้เทศบาลตำบลศรีสุนทร ทำความสะอาดสถานที่สาธารณะ ถนน บ้านพักอาศัยร้านค้าในเขตพื้นที่ตำบลฉลอง โดยการฉีดฆ่าเชื้อทุกหลังคาเรือน

ขอความร่วมมือประชาชนมิให้ออกนอกเคหสถานหรือบริเวณสถานที่พำนักของตน เพื่อป้องกันตนเองจากการรับเชื้อและอาจเป็นพาหะในการกระจายของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด19 ไปยังบุคคลอื่นอีก หากผู้ใดฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามคำสั่งฉบับนี้ อาจเป็นความผิดตามมาตรา 52 แห่ง พ.ร.บ.โรคติดต่อ พ.ศ.2558 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาทหรือทั้งจำทั้งปรับและอาจได้รับโทษตามมาตรา 18 แห่ง พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินพ.ศ.2548 ตามข้อกำหนดตามความในมาตรา9 แห่งพ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548(ฉบับที่ 1) ตั้งแต่วันที่ 7 เมษายน 2563 เป็นต้นไป จนกว่าจะมีคำสั่งเป็นอย่างอื่น

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การประกาศปิดอีก 3 ตำบล เนื่องจากองค์กรท้องถิ่นในพื้นที่ดังกล่าวประสานมายังผู้ว่าราชการจังหวัดให้ช่วยสั่งปิด เนื่องจากยังมีนักท่องเที่ยวต่างชาติกระจายอยู่ทุกพื้นที่ เพื่องป้องกันความเสี่ยง โดยเฉพาะต.กะทู้ อ.ป่าตองเป็นพื้นที่เชื่อมโยงกับบางลา