“ภูเก็ต” พบผู้ติดเชื้อเพิ่ม 3 รายอาศัยและทำงานในบางเทา รวมยอดติดเชื้อสะสม 191 ราย

ภาพประกอบข่าว : PIERO CRUCIATTI/AFP via Getty Images)

วันที่ 15 เมษายน 2563 คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดภูเก็ต แจ้งสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) จังหวัดภูเก็ต ประจำวันที่ 15 เมษายน 2563 ข้อมูลตั้งแต่วันที่ 5 มกราคม – 14 เมษายน 2563 จังหวัดภูเก็ตมีผู้ป่วยยืนยันโรคโควิด-19 แล้วจำนวน 191 ราย (รายใหม่ 3 ราย) โดยผู้ป่วยรักษาหายกลับบ้าน 77 ราย จำหน่าย 1 ราย (จำหน่าย เนื่องด้วยเสียชีวิตจากอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์) กำลังรักษาพยาบาลอยู่ 113 ราย ในจำนวนนี้ อาการรุนแรง 3 ราย ไม่มีผู้เสียชีวิต ที่เหลืออาการอยู่ในเกณฑ์ที่ดี ผู้มีอาการเข้าเกณฑ์เฝ้าระวังสะสมทั้งหมด 2,471 ราย (รายใหม่ 70 ราย) โดยยังคงรักษาพยาบาล 177 ราย ในจำนวนนี้อยู่ระหว่างรอผลการตรวจทางห้องปฏิบัติการ 64 ราย กลับบ้านแล้ว 2,294 ราย

สำหรับผู้ป่วยยืนยันโรคโควิด-19 รายใหม่ทั้ง 3 ราย มีรายละเอียดดังนี้

ลำดับที่ 1 รายที่ 189 ชายไทย อายุ 33 ปี อาชีพ ช่างพนักงานร้านทำกระจกในบางเทา เป็นผู้สัมผัสใกล้ชิดของผู้ป่วยยืนยันรายที่ 187 พักอาศัยที่บางเทา ต.เชิงทะเล อ.ถลาง โดยเริ่มมีอาการป่วยวันที่ 2 เมษายน 2563 มีผู้สัมผัสเสี่ยงสูง จำนวน 15 ราย

ลำดับที่ 2 รายที่ 190 หญิงไทย อายุ 47 ปี อาชีพ ทำอาหารขายในบางเทา เป็นผู้สัมผัสใกล้ชิดของผู้ป่วยยืนยันรายที่ 177 พักอาศัยที่บางเทา ต.เชิงทะเล อ.ถลาง โดยเริ่มมีอาการป่วยวันที่ 28 มีนาคม 2563 มีผู้สัมผัสเสี่ยงสูง จำนวน 2 ราย

ลำดับที่ 3 รายที่ 191 เด็กหญิงไทย อายุ 12 ปี อาชีพ นักเรียน เป็นบุตรสาวของผู้ป่วยยืนยันรายที่ 190 และพักอาศัยที่บ้านหลังเดียวกันในบางเทา ต.เชิงทะเล อ. ถลาง เริ่มมีอาการป่วยวันที่ 14 เมษายน 2563 มีผู้สัมผัสเสี่ยงสูง จำนวน 2 ราย

ทั้งนี้ ผู้ป่วยทุกราย ทีมงานสาธารณสุขจังหวัดภูเก็ตและผู้เกี่ยวข้องได้ดำเนินการสอบสวน ควบคุม ป้องกันโรคตามแนวทางของกระทรวงสาธารณสุข

สำหรับผู้ป่วยยืนยันโรคโควิด-19 ที่พบเพิ่มในวันนี้ ทั้งหมดอาศัยและทำงานอยู่ในเขตบางเทา ต.เชิงทะเล อ.ถลาง และเป็นผู้สัมผัสใกล้ชิดที่มีความเสี่ยงสูงเช่นพักอาศัยในบ้านเดียวกัน ทำงานในที่เดียวกันกับผู้ป่วยยืนยันรายก่อนหน้านี้ในพื้นที่

จากข้อมูลข้างต้นนี้จะเห็นได้ว่าโรคโควิด-19 สามารถติดต่อจาก คนไปสู่คนได้ง่ายโดยเฉพาะบุคคลใกล้ชิด จึงขอเน้นย้ำ เรื่องมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคมถึงแม้จะไม่มีอาการป่วยก็ควรแยกตัวเองออกจากบุคคลอื่น งดกิจกรรมรวมกลุ่มที่ไม่จำเป็น ไม่เข้าไปในที่ชุมชน ใส่หน้ากากอนามัยตลอดเวลา หมั่นล้างมือด้วยสบู่หรือแอลกอฮอล์บ่อยๆ เพื่อป้องกันการแพร่กระจายเชื้อไปสู่บุคคลที่เรารัก และถ้าหากมีอาการไข้ ไอ น้ำมูก เจ็บคอ เหนื่อย จมูกไม่ได้กลิ่น ลิ้นไม่รับรส ปวดศีรษะ ถ่ายเหลวให้รีบไปพบแพทย์

สำหรับประชาชนทั่วไป ขอให้ปฏิบัติตามคำแนะนำของกระทรวงสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด