นาทีทองแพง! คนเชียงรายแห่ไถ่ถอนจากโรงจำนำ ขายเก็บเงินสด

ไถ่ถอน - สถานการณ์การระบาดไวรัสโควิด-19 ส่งผลให้โรงเรียนเลื่อนการเปิดเทอมขณะที่ราคาทองพุ่ง ทำให้หลายคนแห่ไถ่ถอนทองจากโรงรับจำนำไปขาย

โรงรับจำนำเชียงรายเผยคนแห่ไถ่ถอนทองคำจากโรงรับจำนำคึกคัก หลังราคาทองพุ่งบาทละ 26,000 บาท วิกฤตโควิด-19 โรงเรียนเลื่อนเปิดเทอม คนหันเก็บเงินสดเอาไว้กับตัวดีกว่าเป็นทรัพย์สิน พร้อมเตรียมเงินสำรองกว่า 70 ล้านบาทรองรับ เผยเป็นปรากฏการณ์แตกต่างไปจากปีก่อน ๆ คนจะแห่เอาทรัพย์สินมาจำนำ เพราะใกล้เปิดภาคเรียน

นางนงรัตน์ จักขุเรือง ผู้จัดการสถานธนานุบาล หรือโรงจำนำ เทศบาลนครเชียงราย อ.เมืองเชียงราย จ.เชียงราย เปิดเผยว่า ช่วงนี้พบว่ามีผู้ใช้บริการโรงรับจำนำเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะช่วงกลางเดือนเมษายนพบว่ามีผู้ไปใช้บริการ โดยการไถ่ถอนทรัพย์สินประเภททองคำรูปพรรณกันอย่างคึกคักวันละอย่างน้อย 30 ราย ซึ่งสถานการณ์ดังกล่าวถือว่าแตกต่างจากปีที่ผ่าน ๆ มาอย่างมาก เนื่องจากในอดีตผู้คนมักจะนำทรัพย์สินส่วนใหญ่เป็นทองคำรูปพรรณทั้งสร้อยคอ สร้อยข้อมือ แหวน ฯลฯ เข้าไปจำนำที่โรงรับจำนำกันอย่างคับคั่งเพราะเป็นช่วงใกล้เปิดภาคเรียนที่ประชาชนมีความจำเป็นต้องใช้เงินทองกันมาก แต่ปรากฏว่าบรรยากาศปีนี้กลับเป็นการเข้าไปไถ่ถอนเอาทองคำรูปพรรณที่ตัวเองเคยนำไปจำนำเอาไว้คืนไปมากกว่า

นางนงรัตน์กล่าวว่า ที่ผ่านมาทรัพย์สินที่ประชาชนนำไปจำนำไว้กับสถานธนานุบาลเทศบาลนครเชียงรายจะเป็นทองคำรูปพรรณกว่า 80-90% ของบรรดาทรัพย์สินทั้งหมด รองลงมาคือประเภทเครื่องใช้ไฟฟ้าและอื่น ๆ ทำให้ทางสถานธนานุบาลได้จัดเตรียมเงินสำรองเอาไว้รองรับประมาณ 70 ล้านบาท เพื่อให้เพียงพอต่อความต้องการของประชาชนกรณีมีการนำทรัพย์สินไปหมุนเวียนจำนำและไถ่ถอนออกไปดังกล่าวแล้ว ซึ่งไม่มีปัญหาใด ๆ โดยเจ้าหน้าที่จะให้บริการเป็นอย่างดี โดยเฉพาะการดูแลทรัพย์สินเพื่อให้ตรงกับความต้องการของประชาชนต่อไป

ด้านนายอนุรัตน์ อินทร ประธานหอการค้า จ.เชียงราย กล่าวว่า สถานการณ์ปัจจุบันพบว่าประชาชนนำทองคำรูปพรรณที่เคยเก็บเอาไว้หรือเอาไปจำนำกับโรงรับจำนำไปจำหน่ายให้กับร้านรับซื้อทองคำรูปพรรณกันอย่างคึกคัก โดยจากการศึกษาข้อมูลแล้วพบว่าเกิดจากหลายเหตุปัจจัยโดยหลัก ๆ คือ เกิดจากราคาทองคำที่สูงขึ้น ณ วันนี้อยู่ที่บาทละกว่า 26,600 บาท ซึ่งในอดีตอาจจะหาซื้อมาหรืออยู่ที่ประมาณ 20,000 กว่าบาท ทำให้เห็นว่าได้กำไรดีกว่าเดิมจึงได้นำไปขายดังกล่าว และอีกปัจจัยสำคัญคือปัญหาทางเศรษฐกิจอันเกิดจากภาวะเศรษฐกิจของโลก วิกฤตการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 การประกาศใช้ พ.ร.ก.บริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน การประกาศห้ามออกนอกเคหสถานหรือเคอร์ฟิว และอื่น ๆ

“ด้วยสถานการณ์หลาย ๆ อย่างที่ส่งผลต่อให้ภาวะเศรษฐกิจจึงทำให้ผู้คนต้องดิ้นรนเพื่อความอยู่รอด ดังนั้น จึงพากันหันมาเก็บเงินสดเอาไว้กับตัวดีกว่าเป็นทรัพย์สิน เพื่อจะได้นำมาใช้จ่ายพยุงชีวิตให้อยู่รอดในช่วงนี้ไปให้ได้ นอกจากนี้ ยังมีปัจจัยเสริมอื่น ๆ เช่น ปีนี้ไม่มีการเปิดภาคเรียนในเดือน พ.ค.นี้ เพราะมีการเลื่อนเปิดภาคเรียนออกไปด้วยสาเหตุของการป้องกันการระบาดของไวรัสโควิด-19 ทำให้ผู้ปกครองไม่จำเป็นต้องใช้เงินเพื่อส่วนนี้ แต่จำเป็นต้องนำไปใช้เลี้ยงครอบครัวด้านอาหารการกินและอื่น ๆ เสียมากกว่า” นายอนุรัตน์กล่าว