ปิดแหล่งท่องเที่ยว “ตรัง” พบสัตว์ทะเลหายากเพียบ

การปิดแหล่งท่องเที่ยวทางทะเลจังหวัดตรัง หลังการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ส่งผลดี ทำให้ท้องทะเลกลับมาสู่ความอุดมสมบูรณ์อีกครั้ง โดยเฉพาะการสำรวจพบสัตว์ทะเลหายาก ทั้งพะยูน โลมา ฉลามวาฬ เต่าทะเล เป็นจำนวนมากในรอบหลายปี

โดย ณรงค์ คงเอียด หัวหน้าอุทยานแห่งชาติหาดเจ้าไหม จ.ตรัง เปิดเผยว่า ปัจจุบันพื้นที่ทางทะเลของจังหวัดตรัง มีความอุดมสมบูรณ์ขึ้นเป็นอย่างมาก มีการพบสัตว์ทะเลหายากหลายชนิด จากที่ไม่เคยพบมาก่อนในรอบหลายปี ล่าสุดเมื่อเร็ว ๆ นี้ เจ้าหน้าที่ศูนย์ปฏิบัติการอุทยานแห่งชาติทางทะเลที่ 3 จังหวัดตรัง และอุทยานหาดเจ้าไหม ได้สำรวจติดตามประเมินสถานภาพพะยูน และสัตว์ทะเลหายากในพื้นที่อุทยานแห่งชาติตะรุเตา และอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะเภตรา

เบื้องต้นจากการเฝ้าสังเกตทางเรือ และการบิน drone สำรวจในพื้นที่อุทยานแห่งชาติตะรุเตา พบฝูงโลมาหลังโหนก ประมาณ 10 ตัว บริเวณเกาะแลน และพบเต่าทะเลจำนวน 3 ตัว บริเวณอ่าวตะโละวาว และอ่าวขาม ส่วนในพื้นที่อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะเภตรา พบเต่าทะเลจำนวน 1 ตัว บริเวณเกาะลิดี ซึ่งสัตว์ทะเลหายากทั้ง 2 ชนิด มีพฤติกรรมว่ายน้ำโผล่ขึ้นมาหายใจ นอกจากนี้ยังพบร่องรอยการกินหญ้าทะเลของพะยูนบริเวณแนวหญ้าทะเลอ่าวตะโละวาว และบริเวณแนวหญ้าทะเลเกาะลิดีอีกด้วย

“จากการสอบถามข้อมูลคนในพื้นที่และชาวประมง มีการพบเห็นโลมากระจายอยู่หลายแห่ง ได้แก่ บริเวณอ่าวตะโละวาว จนถึงเกาะสาหร่าย บริเวณอ่าวสน บริเวณเกาะลิดี และบริเวณเกาะเขาใหญ่ โดยส่วนใหญ่ที่ชาวประมงพบเห็นมักอยู่รวมตัวกันเป็นฝูง ประมาณ 10 ตัว มีพฤติกรรมว่ายน้ำโผล่ขึ้นมาหายใจ”

นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ศูนย์ปฏิบัติการอุทยานแห่งชาติทางทะเลที่ 3 จังหวัดตรัง ยังได้สำรวจติดตามประเมินสถานภาพพะยูนและสัตว์ทะเลหายาก โดยการเฝ้าสังเกตบนหน้าผาและการบิน drone สำรวจในช่วงก่อนน้ำขึ้นสูงสุด บริเวณแหล่งหญ้าทะเลเขาแบนะ จนถึงแหล่งหญ้าทะเลหาดหยงหลำ ในเขตพื้นที่อุทยานแห่งชาติหาดเจ้าไหม เบื้องต้นพบพะยูนจำนวน 3 ตัว และเต่าทะเลจำนวน 4 ตัว โดยพะยูน 2 ตัวแรกมีพฤติกรรมไล่ต่อสู้กัน และพะยูนอีก 1 ตัวมีพฤติกรรมว่ายน้ำหากินตามลำพัง ส่วนเต่าทะเลทั้ง 4 ตัว มีพฤติกรรมว่ายน้ำโผล่ขึ้นมาหายใจ

ในขณะเฝ้าสังเกตไม่พบเรือแล่นตัดผ่านแหล่งแนวหญ้าทะเลในช่วงเวลาน้ำขึ้น ทำให้กิจกรรมต่าง ๆ ที่ใช้เรือในการเดินทางหยุดชะงักลง เช่น กิจกรรมการท่องเที่ยวทางทะเล กิจกรรมประมง ฯลฯ ส่งผลให้บริเวณแหล่งแนวหญ้าทะเลหาดหยงหลำสงบ ปราศจากปัจจัยรบกวน ทำให้พบพะยูนและเต่าทะเลในช่วงเวลาดังกล่าว ซึ่งแตกต่างจากการสำรวจในเดือนกุมภาพันธ์ 2563 ที่มีเรือจำนวนมากแล่นตัดผ่านแหล่งแนวหญ้าทะเลเพื่อร่นระยะทางในการเดินเรือ

“วันต่อมาเจ้าหน้าที่ศูนย์ปฏิบัติการอุทยานแห่งชาติทางทะเลที่ 3 จังหวัดตรัง ร่วมกับอุทยานแห่งชาติหาดเจ้าไหม ได้สำรวจติดตามประเมินสถานภาพพะยูนและสัตว์ทะเลหายาก โดยการเฝ้าสังเกตทางเรือและการบิน drone สำรวจบริเวณแหล่งหญ้าทะเลหาดหยงหลำ หาดหยงหลิง และเกาะมุกด์ ในเขตพื้นที่อุทยานแห่งชาติหาดเจ้าไหม เบื้องต้นพบพะยูน 4 ตัว โลมา 4 ตัว และเต่าทะเล 8 ตัว โดยพะยูนพบบริเวณระหว่างหัวแหลมหาดหยงหลำกับเกาะมุกด์ ขณะที่เต่าทะเลพบแพร่กระจายตั้งแต่หาดหยงหลำจนถึงสะพานเกาะมุกด์ มีพฤติกรรมว่ายน้ำโผล่ขึ้นมาหายใจ ส่วนโลมาพบบริเวณหาดหยงหลิง มีพฤติกรรมว่ายน้ำโผล่ขึ้นมาหายใจและบิดตัวขณะกระโดด”

นอกจากนี้ จากสำรวจติดตามประเมินสถานภาพพะยูนและสัตว์ทะเลหายาก พื้นที่เชื่อมโยง (เขตห้ามล่าสัตว์ป่าหมู่เกาะลิบง) ได้แก่ บริเวณหาดยาว แหล่งหญ้าทะเลหาดมดตะนอย และแหลมจูโหย เกาะลิบง เบื้องต้นแหลมจูโหย เกาะลิบง พบฝูงพะยูน 30 ตัว และเต่าทะเล 2 ตัว บริเวณหาดมดตะนอย พบพะยูน 1 ตัว และเต่าทะเล 2 ตัว บริเวณหาดยาว พบโลมา 2 ตัว โดยพะยูนที่พบแหลมจูโหย มีพฤติกรรมรวมฝูงในการออกหากินหญ้าทะเล ขณะที่พะยูนที่พบบริเวณหาดมดตะนอย ออกหากินตามลำพัง ส่วนเต่าทะเลและโลมามีพฤติกรรมว่ายน้ำและโผล่ขึ้นมาหายใจ