“อนุทิน” รับฟังปัญหาท่องเที่ยวเชียงใหม่ เอกชนชี้ Q1 สูญเสียรายได้กว่าหมื่นล้าน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (13 พฤษภาคม 2563) นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วยนายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ร่วมประชุมและรับฟังข้อมูลจากหน่วยงานด้านการท่องเที่ยวในจังหวัดเชียงใหม่ ณ ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้าค้านานาชาติ เฉลิมพระเกียรติ 7 รอบพระชนมพรรษา จังหวัดเชียงใหม่

นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า แม้วันนี้ตัวเลขผู้ติดเชื้อในประเทศไทยมีตัวเลขเป็นศูนย์ แต่ก็ยังต้องเฝ้าระวังต่อไปอย่างเข้มข้น เพราะสิ่งที่จะได้คือระบบมาตรฐานการป้องกันที่จะทำให้นักท่องเที่ยวเชื่อถือประเทศไทย แต่ช่วงเวลานี้ไม่ใช่เวลาที่การเดินทางของคนในโลกจะมีความเสรีได้เหมือนที่ผ่านมา เนื่องจากทุกประเทศมีกฎระเบียบ มีมาตรการเหมือนที่ประเทศไทยมี ดังนั้น นักท่องเที่ยวต่างชาติก็คงยังไม่เดินทางมาในช่วงนี้

ทั้งนี้ สิ่งที่มีความเป็นไปได้ในส่วนของภาคการท่องเที่ยวของประเทศไทยคือ การส่งเสริมการเที่ยวในประเทศ ซึ่งเป็นการมองระยะสั้นถึงปานกลาง ที่จะส่งเสริมและกระตุ้นการท่องเที่ยวในภาพรวม จะทำให้เกิดการหมุนเวียนของเงิน ซึ่งเงินออมในเมืองไทยยังมี เมื่อถึงเวลาจะมีการนำออกมาใช้ โดยต้องสร้างดีมานด์การเที่ยวในประเทศ ซึ่งจังหวัดเชียงใหม่มีความพร้อมด้านการท่องเที่ยว และจะเป็นที่ๆคนนึกถึง โดยในวันที่ 17 พฤษภาคมนี้ รัฐบาลจะเริ่มมีการผ่อนคลายมาตรการบางส่วน

นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า คาดว่าภายในเดือนมิถุนายนนี้ การขับเคลื่อนในประเทศไทยจะเริ่มขับเคลื่อนได้มากขึ้น จากตัวเลขผู้ติดชื้อที่ลดลงเป็นหลักหน่วย ด้วยมาตรการที่เข้มข้นของรัฐบาล ในส่วนของภาคการท่องเที่ยวนั้น จะมีการเร่งขับเคลื่อนให้เร็วที่สุด โดยจะมุ่งเน้นกระตุ้นการท่องเที่ยวภายในประเทศเป็นหลัก ด้วยสถานการณ์การแพร่ระบาดของหลายประเทศที่ยังวิกฤต และประเทศไทยเองก็ยังต้องเฝ้าระวังต่อไป ช่วงเวลานี้จึงไม่พร้อมรับนักท่องเที่ยงต่างชาติ

ด้านนายพัลลภ แซ่จิว รองประธานหอการค้าจังหวัดเชียงใหม่ และที่ปรึกษาสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวจังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งเป็นตัวแทนผู้ประกอบการในการรายงานข้อเสนอการเปิดเมืองเชียงใหม่ โดยระบุว่า จังหวัดเชียงใหม่เป็นจังหวัดที่พึ่งพิงภาคบริการท่องเที่ยวถึง 65% ล่าสุด ได้มีการประเมินว่าในช่วงไตรมาสแรกปี 2563 ภาคการท่องเที่ยวของเชียงใหม่สูญเสียรายได้ไปแล้วราว 10,650 ล้านบาท จากสถานการณ์วิกฤตโควิด-19 โรงแรมในจังหวัดเชียงใหม่ที่มีราว 60,000 ห้อง ต้องปิดกิจการชั่วคราว ไกด์ที่มีจำนวนราว 12,000 คน ต้องว่างงาน ธุรกิจสปาได้รายงานตัวเลขของการสูญเสียรายได้ราว 1,500 ล้านบาท และปางช้างที่มีกว่า 900 เชือกในจังหวัดเชียงใหม่ รายได้หายไปราว 3,000-4,000 ล้านบาท

โดยผู้ประกอบการด้านการท่องเที่ยวจังหวัดเชียงใหม่ ขอเสนอให้รัฐบาลเร่งการเยียวยา และช่วยผ่อนคลายมาตรการ โดยเฉพาะการดูแลผู้ประกอบการรายย่อย ซึ่งจากการสำรวจของหอการค้าจังหวัดเชียงใหม่ พบว่า ผู้ประกอบการรายเล็ก-รายย่อยกว่า 20%ได้รับมาตรการสนับสนุนด้านการเงินจากภาครัฐ ขณะที่ผู้ประกอบการอีกกว่า 70% ยังไม่ได้รับการเยียวยาใดๆ ทั้งนี้ คาดว่าผู้ประกอบการรายย่อยจะมีทุนสำรองอยู่ได้อีกไม่เกิน 3 เดือน แบะหากสถานการณ์ยังไม่ดีขึ้น ภายในไตรมาส 3 คาดว่าอาจจะเหลือผู้ประกอบการด้านการท่องเที่ยวในจังหวัดเชียงใหม่ไม่ถึง 40%

นอกจากนี้ อยากเรียกร้องและเสนอให้รัฐบาลเร่งขับเคลื่อนและส่งเสริมการท่องเที่ยวภายในประเทศ โดยให้ภาครัฐเป็นผู้นำในการขับเคลื่อนจัดสรรงบประมาณให้หน่วยงานภาครัฐ อาทิ อสม.ฯลฯ มีกิจกรรมศึกษาดูงานในพื้นที่ต่างๆ ซึ่งจะช่วยให้เกิดการเดินทางและมีการใช้จ่าย และจะทำให้องค์กรเอกชนและบุคคลทั่วไป มีความมั่นใจที่จะเดินทางท่องเที่ยวในประเทศมากขึ้น