“ซันสวีท” รุกส่ง “มันม่วงญี่ปุ่นเผา” เข้าเซเว่น

“ซันสวีท” ก้าวอีกสเต็ป รุกอาหารพร้อมรับประทาน Ready to Eat เต็มสูบ เร่งขยายตลาดให้กว้างขึ้น นำสินค้าใหม่ออกสู่ตลาดอย่างต่อเนื่องส่ง “มันม่วงญี่ปุ่นเผา” เจาะช่องทางร้านสะดวกซื้อทั่วประเทศ หวังเพิ่มทางเลือกที่หลากหลายให้ผู้บริโภคยุค New Normal วางกำลังการผลิตระยะแรกวันละ 10,000 ชิ้น เผยผลประกอบการ Q1 มีกำไร 10.44 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 20.9%

นายองอาจ กิตติคุณชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซันสวีท จำกัด (มหาชน) (SUN) ผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรแปรรูปภายใต้แบรนด์ “KC” เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า บริษัทเร่งเดินหน้าตามแผนธุรกิจปี 2563 ที่วางไว้อย่างต่อเนื่อง โดยเน้นผลิตอาหารพร้อมรับประทานภายใต้แบรนด์ “KC” โดยในช่วงไตรมาสที่ 2 นี้ ได้แตกไลน์เพิ่มสินค้าใหม่ออกสู่ตลาดในช่วงเวลาที่ผู้บริโภคมีการปรับเปลี่ยนวิถีชีวิต (new normal) เน้นให้ความสำคัญกับเรื่องอาหารสุขภาพและสุขอนามัย ความสะอาด ความปลอดภัยของอาหารมากยิ่งขึ้น

ล่าสุดได้เปิดตัวสินค้าใหม่คือ “มันม่วงญี่ปุ่นเผา” มุ่งกระตุ้นตลาดภายในประเทศเป็นหลัก ด้วยการคัดสรรวัตถุดิบมันม่วงสายพันธุ์ญี่ปุ่นชั้นดี ให้พลังงานสูง แคลอรี่ต่ำ และมีคุณประโยชน์ต่อร่างกาย เพื่อตอบโจทย์คนยุคใหม่ที่ใส่ใจสุขภาพ โดยเริ่มวางจำหน่ายในร้านสะดวกซื้อทั่วประเทศตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน 2563 เป็นต้นไป

ทั้งนี้ แม้ปัจจุบันเศรษฐกิจในประเทศจะชะลอตัว เนื่องจากสถานการณ์การระบาดของไวรัสโควิด-19 แต่ธุรกิจด้านอาหารยังมีทิศทางที่ดี และสามารถดำเนินต่อไปได้อย่างต่อเนื่อง โดยบริษัทเริ่มนำเข้าวัตถุดิบผลผลิตมันม่วงญี่ปุ่นจากประเทศเวียดนาม ซึ่งเป็นแหล่งปลูกมันม่วงญี่ปุ่นแหล่งใหญ่ เบื้องต้นในช่วงแรกนี้นำเข้ามาวันละ 2 ตัน และนำมันม่วงญี่ปุ่นมาผ่านกระบวนการผลิตตามขั้นตอน ในส่วนการผลิตเฉพาะ ready to eat ของโรงงานซันสวีท ที่อำเภอสันป่าตอง จังหวัดเชียงใหม่ โดยตั้งเป้าวางจำหน่าย “มันม่วงญี่ปุ่นเผา” ในร้านสะดวกซื้อวันละ 10,000 ชิ้น ในราคาที่จับต้องได้ ซึ่งมันม่วงญี่ปุ่นมีคุณประโยชน์ต่อร่างกาย อาทิ ช่วยชะลอความเสื่อมของเซลล์ผิว ลดอาการท้องร่วง ลดการก่อตัวของเซลล์มะเร็ง บำรุงสายตา สร้างภูมิคุ้มกันให้แก่ร่างกาย เป็นต้น


นายองอาจกล่าวว่า แม้ภาพรวมเศรษฐกิจจะชะลอตัวตั้งแต่ปลายปี 2562 จนถึงปี 2563 เนื่องจากปัจจัยแวดล้อมต่าง ๆ รวมถึงสถานการณ์การระบาดของไวรัสโควิด-19 ซึ่งบริษัทมุ่งมั่นผลักดันองค์กรให้เติบโตอย่างเต็มที่ ทำให้ผลประกอบการไตรมาส 1เติบโตและมีทิศทางที่ดี โดยมีกำไร 10.44 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 20.9% ทั้งนี้ กระแสการดูแลห่วงใยสุขภาพได้รับความนิยมมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง ดังนั้นสินค้าเกษตรแปรรูปพร้อมรับประทานที่ยังคงความสดใหม่และมีคุณค่าทางโภชนาการ จึงเป็นทางเลือกที่ดีและสามารถตอบโจทย์การบริโภคของผู้บริโภคในปัจจุบัน ซึ่งบริษัทได้ให้ความสำคัญต่อกระบวนการผลิตสินค้าโดยนำนวัตกรรมและเทคโนโลยีใหม่ ๆ มาใช้ในกระบวนการผลิตและการแปรรูป รวมถึงมีทีมวิจัยและพัฒนาธุรกิจที่เข้มแข็ง ทีมตรวจสอบคุณภาพสินค้าให้เป็นไปตามมาตรฐาน เพื่อให้ผู้บริโภคมั่นใจว่าจะได้รับประทานสินค้าที่สะอาดและปลอดภัย