ของดีจังหวัด! ผู้ว่าฯหนองคายชวนเที่ยว”สวนอินทผลัม” ใหญ่ 200 ไร่

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (27 มิ.ย. 63) นายรณชัย จิตรวิเศษ ผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย , นางวัชรินทร์ จิตรวิเศษ นายกเหล่ากาชาดจังหวัดหนองคาย , นายเตชิด ทรงบุญศาสตร์ นายอำเภอสระใคร พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และชาวอำเภอสระใคร ได้ร่วมกันเปิดไร่วิทยาอินทผลัม ที่ บ้านนาไหม หมู่ 12 ตำบลสระใคร อำเภอสระใคร จังหวัดหนองคาย เพื่อเป็นการประชาสัมพันธ์ของดีของจังหวัดหนองคาย

สำหรับไร่วิทยาอินทผลัม มีพิธีเปิดอย่างเป็นทางการในครั้งนี้ เป็นของนายวิทยา กลางรักษ์ อายุ 59 ปี ที่มีอาชีพเป็นทนายความมาเป็นเวลากว่า 30 ปี ก่อนจะมาทำสวนยางพารา มะยมชิด ทุเรียน และสวนอินทผลัม ซึ่งถือสวนอินผลัมแห่งแรกและเป็นสวนอินทผลัมที่ใหญ่ที่สุดในจังหวัดหนองคาย มีการปลูกอินทผลัมทั้งหมด 350 ต้น ปลูกมาแล้ว 3 ปีครึ่งก็เริ่มให้ผลผลิต ผลผลิตที่ได้มีคุณภาพใกล้เคียงกับต้นกำเนิด ที่ขนาดที่รสชาติ ราคาขายผลสดที่ตัดเป็นทลาย กิโลกรัมละ 400 บาท หากตัดเอาเฉพาะผล กิโลกรัมละ 450 บาท

นายรณชัย จิตรวิเศษ ผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย กล่าวว่า อินทผลัม ถือเป็นพืชชนิดใหม่ที่มีการปลูกในหลายพื้นที่ของจังหวัดหนองคาย ซึ่งได้ผลดีโดยเฉพาะที่สวนแห่งนี้ อินทผลัมเป็นพืชที่กำลังมีการปลูกและกำลังมีกระแส แต่การปลูกอินทผลัม ผู้ที่ปลูกต้องมีความรู้ มีประสบการณ์ ผลผลิตที่สวนแห่งนี้ ให้รสชาติดีใกล้เคียงกับอินทผลัมที่มาจากทางตะวันออกกลาง ให้ผลดก อินทผลัมเป็นพืชที่กำลังเป็นที่นิยม ราคาขายก็ดี แต่ถ้าจะให้ได้ผลดีต้องมีการปลูกจากเนื้อเยื่อ และต้นพันธุ์ที่เป็นเนื้อเยื่อจึงจะไปกลายพันธุ์

ผู้ที่จะปลูกต้องมีการศึกษาหาความรู้ในเรื่องของการปลูก การดูแล ต้นทุนที่ต้องใช้ และในเรื่องของตลาดในอนาคต ขณะนี้ยังมีปริมาณผลผลิตออกมายังไม่มาก ราคากิโลกรัมละหลายร้อยบาท หากมีการปลูกมากขึ้นก็อาจจะมีราคาที่ลดลง จึงควรมีการปลูกผสมผสานกับพืชชนิดอื่นให้มีความหลากหลาย

นายวิทยา กลางรักษ์ เจ้าของไร่วิทยาอินทผลัม กล่าวว่า ก่อนจะมาทำสวนอินทผลัม ได้ทำสวนยางพาราพื้นที่เกือบ 200 ไร่ แต่ราคายางพาราตกต่ำ จึงได้คิดที่จะปลูกพืชชนิดอื่น เพราะตนเองก็มีความชำนาญในเรื่องการเกษตร จึงได้คิดที่จะปลูกอินทผลัม ประกอบกับเพื่อน ๆ หลายคนมีการปลูกอินทผลัมอยู่ที่จังหวัดกาญจนบุรี โดยนำต้นที่เป็นเนื้อเยื่อมาจากต่างประเทศ ซึ่งต้นพันธุ์ที่เป็นเนื้อเยื่อเวลานำมาปลูกจะไม่การกลายพันธุ์ เป็นต้นพันธุ์ตัวเมีย ปลูกแล้วจะให้ผลผลิตเลย จึงได้ไปศึกษากับเพื่อน ๆ ที่มีการปลูกอินทผลัมจนให้ผลิตแล้ว จึงได้นำต้นพันธุ์ที่มีการนำเข้าจากต่างประเทศ เป็นพันธุ์บาฮีมาปลูกที่สวนของตน ซึ่งในภาคอีสาน เป็นพื้นที่ ๆ สามารถปลูกอินทผลัมได้

เนื่องจากภาคอีสานมีแสงแดดที่อินทผลัมชอบ และมีช่วงที่มีอากาศหนาวในช่วงฤดูหนึ่ง ที่จะทำให้อินทผลัมออกดอก ถ้าหากอากาศไม่หนาวจะไม่ออกดอก พื้นที่การปลูกอินทผลัม จะต้องมีแสงแดด มีน้ำ และมีปุ๋ย ขาดอย่างใดอย่างหนึ่งไม่ได้ เพราะจะทำให้อินทผลัมไม่เจริญเติบโต ดังนั้นต้นทุนในการดูแลรักษาจะค่อนข้างสูง แต่ผลผลิตที่ได้ กับราคาขายในขณะนี้ถือว่าดีมาก แต่ในอนาคตผลผลิตมากขึ้น ใน 5 – 6 ปีข้างหน้าตนก็คิดว่าราคาขายก็ยังคุ้มค่ากับการลงทุน