โรงงานเชือด-แปรรูปไก่ “เซนทาโก” ในจังหวัดสระบุรี เตรียมเดินหน้า ท่ามกลางเสียงค้านทำประชาพิจารณ์ในวันที่ 30 มิ.ย.63
เครือเซนทาโก ดันตั้งโรงงานเชือดไก่-แปรรูปครบวงจรมูลค่าหลายพันล้าน บนพื้นที่เฉียด 300 ไร่ “ชุมชนหนองยาว-ปากข้าวสาร” พร้อมเตรียมเปิดประชาพิจารณ์ 30 มิถุนายนนี้ ด้านชาวบ้าน 2 ตำบล คัดค้านอีกรอบ หวั่นก่อมลพิษกลิ่นเหม็น-น้ำเสีย จี้หน่วยงานภาครัฐเข้ามาช่วยดูแล หลังคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนเมิน บอกโรงงานยังไม่ได้ละเมิดสิทธิ ด้าน ส.ส. “กัลยา รุ่งวิจิตรชัย” ย้ำ กมธ.อุตฯบอกชัดพื้นที่ไม่เหมาะสมตั้งโรงงาน พร้อมบอก “สตผ.” เตรียมลงพื้นที่ตรวจสอบในเร็ว ๆ นี้
- ประกาศแล้ว! พระราชกฤษฎีกาเงินช่วยค่าครองชีพผู้รับเบี้ยหวัดบำนาญ รับ 11,000 บาทต่อเดือน
- บังคับใช้แล้ว! หลักเกณฑ์การดำเนินงาน 30 บาทรักษาทุกที่ ด้วยบัตรประชาชนใบเดียว
- กีรติ รัชโน ปลัดกระทรวงพาณิชย์ เสียชีวิต อายุ 56 ปี
หลังจากชาวบ้าน ต.หนองยาว และ ต.ปากข้าวสาร อ.เมือง จ.สระบุรี ประมาณ 1,000 คน ได้ร่วมกันลงชื่อเพื่อคัดค้าน และขอความเป็นธรรมไปยังศูนย์ดำรงธรรม จ.สระบุรี องค์การบริหารส่วนตำบลหนองยาว นายอำเภอเมือง ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี กระทรวงอุตสาหกรรม รวมถึงคณะกรรมาธิการอุตสาหกรรม (กมธ.) สภาผู้แทนราษฎร ให้ช่วยตรวจสอบกรณี “บริษัท สยามเซ็นทาโกฟาร์ม จำกัด” หนึ่งในผู้ประกอบการปศุสัตว์ครบวงจรได้ยื่นขออนุญาตประกอบกิจการโรงงานฆ่าและชำแหละเนื้อไก่ โรงงานผลิตอาหารแปรรูป และอื่น ๆ มูลค่ารวมหลายพันล้านบาท บนพื้นที่ 287 ไร่ บริเวณติดริมถนนพหลโยธิน ประมาณหลักกิโลเมตรที่ 102-103 อยู่ห่างจากใจกลางเมืองสระบุรีเพียง 2.5 กม. กินพื้นที่ 2 ตำบล คือ หนองยาว และปากข้าวสาร ตั้งแต่ช่วงต้นปี 2563 นั้น
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ล่าสุดเมื่อวันที่ 24 มิถุนายน 2563 ชาวบ้านทั้ง 2 ตำบลได้คัดค้านอีกครั้ง เพื่อยืนยันเจตนารมณ์และมีความกังวลต่อผลกระทบทั้งด้านสิ่งแวดล้อม ส่งผลกระทบกับชาวบ้านกว่า 2,000 ครัวเรือน
โดยบริษัทได้ส่งหนังสือ ลงวันที่ 15 มิถุนายน 2563 ถึงกำนัน ต.หนองยาว และ ต.ปากข้าวสาร เรื่องการจัดรับฟังความคิดเห็นของประชาชนตามโครงการก่อสร้างอาคารโรงฆ่าและชำแหละไก่ โรงผลิตอาหารแปรรูป โรงงานผลิตอาหารปรุงสุก และโรงงานอื่น ๆ ที่เกี่ยวเนื่องกันเนื่อง ในวันที่ 30 มิถุนายน 2563 นี้
หนังสือดังกล่าว โดยมีใจความสรุปได้ว่า บจ.สยามเซ็นทาโกฟาร์ม มีความประสงค์จะก่อสร้างอาคารและประกอบกิจการโรงฆ่าและชำแหละเนื้อไก่ ฯลฯ โดยโรงงานมีพื้นที่บางส่วนอยู่ในเขต หมู่ 1 ต.ปากข้าวสาร จึงมอบอำนาจให้นางนปภา โชคตำบลชัย ดำเนินการจัดให้มีการรับฟังความคิดเห็นประชาชนให้ได้รับทราบข้อเท็จจริงที่ถูกต้อง ครบถ้วน และเปิดโอกาสให้ประชาชนได้ทราบถึงมาตรการป้องกัน ข้อกังวลต่าง ๆ ที่อาจส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมในชุมชน ตลอดจนรับทราบทิศทางความเจริญด้านเศรษฐกิจและสังคมต่อชุมชนท้องถิ่น เพื่อประกอบการพิจารณาของบริษัทต่อไปนั้น
ก่อนหน้านี้ ตัวแทนของบริษัท และนายหน้าที่ดินได้ลงพื้นที่มาพบปะกับชาวบ้านที่เป็นเจ้าของที่ดินเพื่อ เตรียมการเปิดรับฟังความคิดเห็นในวันที่ 30 มิถุนายนนี้
นางนปภา โชคตำบลชัย นายหน้าค้าที่ดิน ในฐานะผู้รับมอบอำนาจจากทางบริษัท สยามเซ็นทาโกฟาร์ม จำกัด กล่าวกับ “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า พื้นที่ดังกล่าวสามารถดำเนินการก่อสร้างโรงงานชำแหละไก่ได้ เนื่องจากเป็นการสร้างโรงงานผลิตอาหารแปรรูปเกษตร ซึ่งได้รับการยืนยันจากสำนักผังเมืองจังหวัดสระบุรี ปัจจุบันได้มีการวางมัดจำพื้นที่ทั้งหมดไปแล้ว 30% เหลือการโอนกรรมสิทธิ์เท่านั้น คาดว่าจะมีการโอนกรรมสิทธิ์ได้ในวันที่ 30 มิถุนายน 2563
นายประธีป นิลมูล ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 3 ต.หนองยาว อ.เมือง จ.สระบุรี เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า ขณะนี้ชาวบ้านใน ต.หนองยาว และ ต.ปากข้าวสาร ได้ร่วมกันคัดค้านการก่อสร้างโรงงานอีกครั้ง หลังจากเจ้าหน้าที่บริษัท สยามเซ็นทาโกฟาร์ม นายหน้าที่ดินและฝ่ายสนับสนุนลงพื้นที่เจรจากับชาวบ้านและเจ้าของที่ดิน เพื่อเตรียมความพร้อมการเปิดประชาพิจารณ์ในวันที่ 30 มิถุนายน 2563 ซึ่งก่อนหน้านี้ บริษัทได้ส่งนายหน้าเข้ามากว้านซื้อที่ดินตั้งแต่ช่วงปี 2559 ทั้งหมด 287 ไร่
นายประทีปกล่าวด้วยว่า ปัจจุบันมีการจ่ายเงินมัดจำค่าที่ดินแล้ว แต่ยังไม่มีการโอนกรรมสิทธิ์ทั้งหมด มีพื้นที่ทางเข้าโรงงานได้มีการซื้อขายโอนกรรมสิทธิ์เรียบร้อย โดยบริษัทบอกว่าจะมีการก่อสร้างระบบบำบัดน้ำเสีย แต่ชาวบ้านยังหวั่นเกรงว่าจะส่งผลกระทบต่อชุมชน เนื่องจากบริเวณดังกล่าวรายล้อมไปด้วยชุมชน โรงเรียน วัด บ้านจัดสรร รวมถึงคลองหนองยาว ซึ่งเป็นแหล่งน้ำสายหลักเพียงแห่งเดียวที่ชาวบ้านกว่า 2,000 ครัวเรือน ใช้ในการอุปโภค บริโภค รวมถึงใช้ในการทำเกษตร จึงอยากให้หน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้องเข้ามาช่วยดูแล
นายประธีป กล่าวต่อไปว่า เมื่อวันที่ 17 พฤษภาคม 2563 ทางคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติได้มีหนังสือตอบกลับมาว่า ตามที่ได้มีการร้องเรียนขอให้ตรวจสอบกรณีการขออนุญาตประกอบกิจการโรงงาน ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม สุขภาพ การประกอบอาชีพ และดำเนินชีวิตประจำวันของประชาชนในพื้นที่นั้น ทางคณะกรรมการสิทธิฯได้พิจารณาแล้วเห็นว่า “ยังไม่ปรากฏว่ามีการกระทำหรือละเลยการกระทำอันเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชนจึงมีมติให้ยุติเรื่องนี้ไว้ก่อน เพราะทางผู้ประกอบการยังไม่ได้ดำเนินการละเมิดสิทธิมนุษยชนแต่อย่างใด”
นางสาวกัลยา รุ่งวิจิตรชัย สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดสระบุรี เขต 1 พรรคพลังประชารัฐ กล่าวว่า หลังจากได้รับเรื่องร้องเรียนจากทางชาวบ้านว่า บจ.สยามเซ็นทาโกฟาร์มจะก่อสร้างโรงงานชำแหละไก่ขนาดใหญ่ ซึ่งพื้นที่ดังกล่าวอยู่ระหว่างคลองส่งน้ำ ที่ชาวบ้านนำมาใช้ในการอุปโภคบริโภค ทั้งหมด 10 หมู่บ้าน ทำให้ชาวบ้านกังวลว่าจะส่งผลกระทบต่อชุมชน จึงได้พาชาวบ้านไปร้องเรียนที่คณะกรรมาธิการอุตสาหกรรม สภาผู้แทนราษฎร และสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน ซึ่งทางคณะกรรมาธิการได้มีการลงพื้นที่พร้อมกับหน่วยงานและตัวแทนชาวบ้าน และได้มีการบันทึกส่งไปยังหน่วยงานแล้วว่า พื้นที่ดังกล่าวไม่เหมาะสมกับการก่อสร้างโรงงาน เพราะว่าเป็นพื้นที่ชุมชนหนาแน่น มีผู้อาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก และในส่วนของสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) คาดว่าจะมีการลงพื้นที่ตรวจสอบในเร็ว ๆ นี้
“หากทางบริษัทสามารถรวบรวมพื้นที่ได้ครบ ต้องยื่นเรื่องขออนุญาตปลูกสร้างอาคาร อ.1 ที่ อบต.ปากข้าวสาร ซึ่งผู้ที่มีอำนาจในการเซ็นอนุมัติคือ นายก อบต. แต่ปัจจุบันได้ลาออกไปแล้ว แต่มีปลัดเทศบาลดำรงตำแหน่งรักษาการแทน แต่ก็ยังไม่แน่ใจในเรื่องของกฎหมายว่าจะดำเนินการแทนได้หรือไม่ ถ้าหากมีการเซ็นอนุมัติ ต้องยื่นเรื่องไปยังสำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดต่อไป ทั้งนี้ คณะกรรมาธิการอุตสาหกรรมฯได้มีการลงบันทึกไว้แล้วว่า พื้นที่ดังกล่าวไม่เหมาะสมต่อการก่อสร้างโรงงาน ซึ่งทางสำนักงานอุตสาหกรรมต้องแนบเอกสารฉบับนี้ไปพร้อมกับใบอนุญาต อ.1 ผ่านผู้ว่าราชการจังหวัด เพื่อส่งเรื่องไปถึงอธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม ซึ่งเป็นผู้มีอำนาจในการเซ็นอนุมัติให้มีการก่อสร้างโรงงานได้หรือไม่” นางสาวกัลยากล่าว