กฟผ.ตรังเตรียมรับมือหยุดจ่ายก๊าช 28 ต.ค.-30 พ.ย.ชี้ควรมีโรงไฟฟ้าหลักอีกแห่งรองรับความต้องการสูงขึ้น

เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 3 ตุลาคม นายสมบูรณ์ ดวงแก้ว ผจก.กฟผ.สํานักงานลําภูรา จ.ตรัง นําคณะสื่อมวลชน เข้ารับการอบรมเพื่อประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนได้รับทราบในการหามาตรการรองรับแหล่งก๊าชธรรมชาติพัฒนาร่วมไทย-มาเลเซียJDA-A18 หยุดจ่ายก๊าชธรรมชาติ ระหว่างวันที่ 28 ตุลาคม – 30 พฤศจิกายน นี้เพื่อบํารุงรักษาประจําปีมีผลให้โรงไฟฟ้าจะนะ ชุดที่ 2 ไม่สามารถเดินเครื่องได้ โดยมี นายมนตรี ศรีสมอ่อน ผอ.ฝ่ายปฎิบัติการภาคใต้ กฟผ.เป็นผู้ให้ข้อมูล

นายมนตรี กล่าว่า สําหรับมาตรการของ กฟผ.ประกอบด้วย ด้านระบบผลิตไฟฟ้า ปรับเปลี่ยนการใช้เชื้อเพลิงโรงไฟฟ้าจะนะชุดที่ 1 จากก๊าชธรรมชาติเป็นน้ำมันดีเซล ให้โรงไฟฟ้ากระบี่ใช้น้ำมันเตาเดินเครื่องสนับสนุนบางส่วน รวมทั้งตรวจสอบโรงไฟฟ้าภาคใต้ทั้งหมดให้พร้อมใช้งาน และประสานการไฟฟ้ามาเลเซียขอซื้อไฟฟ้าในกรณีฉุกเฉิน ด้านระบบส่งได้ตรวจสอบสายส่งและอุปกรณ์สําคัญในพื้นที่ รวมถึงระบบเชื่อมโยงภาคกลาง-ใต้ให้พร้อมใช้งานด้านเชื้อเพลิงได้สํารองน้ำมันเต็มความสามารถจัดเก็บก่อนเริ่มหยุดจ่ายก๊าชธรรมชาติ

นายมนตรี กล่าวอีกว่า กฟผ.ได้มีการเตรียมทีมงานติดตามสถานการณ์และประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพร้อมแก้ไชสถานการณ์ฉุกเฉินได้ทันที โดยคาดการณ์ความต้องการใช้ไฟฟ้าสูงสุดของภาคใต้ในช่วงหยุดจ่ายก๊าชธรรมชาติไว้ที่ 2,450เมกะวัตต์ มีความพร้อมด้านกําลังผลิตจากโรงไฟฟ้าภาคใต้2,254เมกะวัตต์ ในส่วนที่เหลือจะรับไฟฟ้าจากภาคกลาง พร้อมกับต้องขอความร่วมมือจากประชาชนให้ช่วยกันใช้ไฟฟ้าอย่างประหยัด เพื่อเสริมความมั่นคงในระบบไฟฟ้าอีกทางหนึ่ง

“ในอนาคตคาดว่าความต้องการใช้ไฟฟ้าในภาคใต้จะเพิ่มสูงขึ้น ดังนั้นหากภาคใต้มีโรงไฟฟ้าหลักเพิ่มขึ้นในพื้นที่จะช่วยให้เกิดความมั่นคงและลดความเสี่ยงได้” นายมนตรี กล่าว