ท่องเที่ยวเชียงรายกลับมาคึกคัก ยอดจองพุ่ง 60% ช่วงวันหยุดยาว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าในช่วงวันหยุดยาวติดต่อกัน 4 วันตั้งแต่วันที่ 25-28 ก.ค.นี้นั้น พบว่าได้มีประชาชนและนักท่องเที่ยวจำนวนมากพากันเดินทางไปยังสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ใน จ.เชียงราย เป็นจำนวนมากซึ่งถือเป็นปรากฎการณ์นักท่องเที่ยวทะลักเป็นครั้งแรกในรอบหลายเดือน นับตั้งแต่มีการป้องกันไวรัสโควิด-19 ตั้งแต่เดือน มี.ค.ที่ผ่านมา 

แม้ที่ผ่านมาเริ่มมีนักท่องเที่ยวทะยอยเดินทางไปเยือนแต่ก็มีจำนวนไม่มากนัก แต่พบว่าในช่วงวันหยุดยาวนี้มีนักท่องเที่ยวไปเยือนสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ อย่างล้นหลาม โดยเฉพาะที่วัดร่องขุ่น ต.ป่าอ้อดอนชัย อ.เมืองเชียงราย ซึ่งเป็นสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญทางเจ้าหน้าที่ระบุว่ามีนักท่องเที่ยวไปเยือนวันละกว่า 7,000-8,000 คนแล้วโดยทะยอยเดินทางไปกันมากตั้งแต่วันเสาร์เป็นต้นมา ถึงปัจจุบันยังคงมีผู้คนเดินทางไปแวะเวียนเป็นจำนวนมากซึ่งคาดว่าจะมากกว่าช่วงวันเสาร์และอาทิตย์ด้วย

น.ส.ผกายมาศ เวียร์รา รองประธานหอการค้า จ.เชียงราย กล่าวว่าในช่วงวันหยุดยาวนี้ได้มีนักท่องเที่ยวเดินทางไปเยือนเชียงรายเป็นจำนวนมากโดยนอกจากจะไปเยือนสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ภายในจังหวัดแล้วยังทะลักไปยังชายแดนไทย-เมียนมา ตรงตลาด อ.แม่สาย อีกด้วย ทั้งนี้ปัจจุบันหลายฝ่ายกำลังจัดเตรียมความพร้อมเพื่อรองรับการเปิดด่านพรมแดน หากในอนาคตทางรัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณาให้เปิดได้ ภายใต้มาตรการที่จัดวางเอาไว้เพื่อป้องกันไวรัสโควิด-19 เช่น กำหนดจุดนักท่องเที่ยว ระยะเวลา จำนวนคน ฯลฯ จะทำให้การท่องเที่ยวคึกคักขึ้นไปอีกและเศรษฐกิจการค้าชายแดนจะดีขึ้น

ด้านนางนงเยาว์ เนตรประสิทธิ์ นายกสมาคมสหพันธ์ท่องเที่ยวภาคเหนือ จ.เชียงราย กล่าวว่าในช่วงวันหยุดยาว 4 วันนี้พบว่ามีนักท่องเที่ยวเดินทางไปเยือนสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ หลากหลายโดยส่วนใหญ่จะขึ้นภูเขาเพื่อชมทิวทัศน์และสถานที่ที่งดงามต่างๆ ทำให้บรรยากาศดีขึ้นมากโดยเฉพาะร้านกาแฟแทบจะมีนักท่องเที่ยวไปใช้บริการกันเต็ม 

ทั้งนี้จากการสอบถามไปยังผู้ประกอบการโรงแรมขนาดใหญ่จำนวน 12 รายพบว่ายอดจอดห้องพักเพิ่มมากขึ้นจากเดิมอยู่ในอัตราประมาณ 20% ก็เพิ่มขึ้นเป็นกว่า 40-60% ถือว่าดีกว่าเดิมมาก สำหรับกลุ่มนักท่องเที่ยวพบว่าเกือบทั้งหมดเป็นคนไทยและเดินทางไปเป็นลักษณะครอบครัวทำให้ธุรกิจร้านอาหารต่างๆ ได้รับผลดีตามไปด้วย ซึ่งสภาพเช่นนี้ไม่ได้มีเฉพาะที่เชียงรายโดยที่ จ.เชียงใหม่ และพะเยา ที่อยู่ข้างเคียงก็คึกคักเช่นกัน