เชียงรายเข้มแนวชายแดนกันโควิด หลังพบเมียนมา-ลาว-จีนลักลอบเข้าไทยนับร้อย

เชียงรายเข้มตลอดแนวชายแดนป้องกันโควิดจากเมียนมา หลังพบเมียนมา-ลาว-จีน ลักลอบเข้าไทย ยันขนสินค้าไม่กระทบ ขีดเส้นวิ่งส่งไม่เกิน7ชม.ให้กลับไทย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าจากกรณีเกิดการระบาดของโรคไวรัสติดเชื้อโควิด-19 รอบใหม่ในประเทศเมียนมานั้น ล่าสุดนายประจญ ปรัชญ์สกุล ผู้ว่าราชการ จ.เชียงราย มอบหมายให้นายภาสกร บุญญลักษม์ รองผู้ว่าราชการ จ.เชียงราย เป็นประธานติดตามคณะทำงานป้องกันไวรัสโควิด-19 จ.เชียงราย โดยให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องใช้มาตรการควบคุมอย่างเข้มงวดอีกครั้ง

ทั้งนี้ทางจังหวัดได้รับรายงานจากนายแพทย์ทศเทพ บุญทอง นายแพทย์สาธารณสุข จ.เชียงราย ว่าทางกระทรวงสาธารณสุขของประเทศเมียนมาได้แจ้งเป็นทางการว่า พบผู้ติดเชื้อสะสมในเขตรัฐฉานเขตแดนติดกับภาคเหนือและ จ.เชียงราย เท่าเดิมจำนวน 3 ราย ซึ่งเป็นตัวเลขเดิมตั้งแต่เดือนเมษายน 2563 แต่ทางเจ้าหน้าที่เจ้าหน้าที่สาธารณสุขของไทยได้ทำการสุ่มตรวจประชากรตามแนวชายแดนจำนวน 3 รอบๆ ละ 50 ราย ยังไม่พบผู้ติดเชื้อ

นายภาสกร กล่าวว่าล่าสุดยังไม่มีคำสั่งหรือประกาศใหม่ แต่ให้ทุกหน่วยงานใช้คำสั่งและประกาศเดิมเกี่ยวกับการควบคุมโรคไปก่อน เพียงแต่ที่ผ่านมาได้มีการผ่อนปรนลงไปบ้าง ให้กลับมาเข้มงวดกันใหม่

โดยทางฝ่ายทหาร ด่านตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) ศุลกากร ฯลฯ ยังคงรับหน้าที่เป็นฝ่ายตรวจตราตามจุดผ่านแดนถาวรที่อนุญาตให้มีการเปิดใช้เพื่อการขนส่งสินค้าโดยเฉพาะด้านที่ติดกับประเทศเมียนมาคือตรงสะพานข้ามลำน้ำสายแห่งที่ 2 และยังมีจุดผ่อนปรนและช่องทางธรรมชาติต่างๆ ตลอดแนวที่มักมีการลักลอบข้ามฝั่งมา

โดยหากเป็นคนต่างด้าวที่ลักลอบข้ามมาจะดำเนินคดีและผลักดันกลับออกไปทันที โดยไม่มีนโยบายให้มีการกักตัว แต่หากเป็นคนไทยก็นำส่งกองร้อยอาสารักษาดินแดน (อส.) จ.เชียงราย เพื่อกักดูอาการ 14 วัน และหากเข้ามาอย่างถูกต้องตามกฎหมายจะนำส่งศูนย์กักดูอาการที่โรงแรมในเขต อ.เมืองเชียงราย ตามขั้นตอนต่อไป

ด้าน พ.อ.จักรกริศน์ เจริญโชติกาญจน์ ผู้แทนผู้บัญชาการกองกำลังผาเมือง พ.อ.ชาตรี สงวนธรรม ผบ.ฉก.ม.2 กองกำลังผาเมือง เปิดเผยว่า ทางเจ้าหน้าที่ทหารยังคงเข้มงวดโดยมีการวางกำลังตั้งจุดตรวจบนถนนสายต่างๆในเขต 3 อำเภอคือ อ.แม่ฟ้าหลวง อ.แม่จัน และ อ.แม่สาย จ.เชียงราย ที่มีพรมแดนติดกับประเทศเมียนมา การติดตั้งกล้องวงจรปิด โดรนถ่ายภาพกลางคืน ไฟส่องสว่างแบบโซล่าเซลล์ ฯลฯ

ระหว่างวันที่ 23 มี.ค.-26 ส.ค.มีการจับกุมผู้บักลอบเข้ามาได้ 56 ครั้ง เป็นผู้ต้องหา 147 ราย เป็นชาวเมียนมา 79 ราย ไทย 54 ราย ลาว 12 ราย และจีน 2 ราย ปัจจุบันได้มีการวางกำลังและตั้งจุดตรวจตามถนนสายต่างๆ รวมเพิ่มเติมกำลังไปสนับสนุนหน่วยที่ปฏิบัติอยู่ตลอดแนวแล้ว

นางมนทิรา เชิดชู นายด่านศุลกากรแม่สาย เปิดเผยว่าปัจจุบนด่านศุลกากรแม่สายมีหน่วยกักดูอาการอยู่บริเวณจุดผ่านแดนถาวรแม่สาย ตรงสะพานมิตรภาพไทย-เมียนมา แห่งที่ 2 ซึ่งใช้เป็นจุดขนส่งสินค้าระหว่างไทย-เมียนมา ด้าน จ.เชียงราย ส่วนยานพาหนะที่เดินทางผ่านเข้ามาจะได้รับการฆ่าเชื้อทุกคัน

กรณีคนขับรถขนส่งสินค้าจะไม่ให้ล้ำเข้ามาจากด่านพรมแดนดังกล่าวโดยเมื่อเสร็จการขนส่งให้เดินทางกลับ ขณะเดียวกันกรณีสินค้าขาออกนั้นได้มีการกำหนดให้ข้ามไปยังฝั่งประเทศเพื่อนบ้านได้นานประมาณ 7 ชั่วโมง จึงได้นัดหมายให้มีการทำพิธีการต่างๆ ให้แล้วเสร็จก่อนเวลา 15.00 น.เพื่อจะได้เดินทางกลับมาได้ทันเวลาปิดด่านประมาณ 21.00 น.ส่วนกรณีจะล่วงเวลาเข้าสู่ช่วงค่ำ มีการขอให้ค้างแรมก่อนเพื่อรอการขนส่งในวันถัดไปด้วย

สำหรับตัวเลขการค้าชายแดนพบว่าตั้งแต่ต้นปีจนถึงเดือน มี.ค.มีการนำเข้าสินค้ามูลค่า 625,091,753.82 บาท ส่งออกมูลค่า 6,578,110,495.39 รวมมูลค่า 7,203,202,249.21 บาท และในปี 2562 มีการนำเข้ามูลค่า 471,389,141.84 บาท ส่งออกมูลค่า 11,175,291,815.48 บาท รวมมูลค่า 11,646,680,957.32 บาท

รายงานข่าวจากฝ่ายปกครอง อ.เชียงแสน แจ้งว่าในปัจจุบันด้าน อ.เชียงแสน มีจุดติดกับชายแดนประเทศเมียนมาโดยมีลำน้ำรวกที่ติดต่อกับลำน้ำสายด้าน อ.แม่สาย ทำให้มีช่องทางตรงบ้านวังลาวเป็นช่องทางเข้าออกและที่ผ่านมาเคยมีผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านรายหนึ่งนำพาชาวต่างด้าวเข้ามาจึงถูกไล่ออกไปแล้ว

ทั้งนี้ในฝั่งตรงกันข้ามสามเหลี่ยมทองคำ บ้านสบรวก ต.เวียง พบว่ามีโครงการคิงส์โรมันในเขตเศรษฐกิจพิเศษสามเหลี่ยมคำ แขวงบ่อแก้ว สปป.ลาว ตั้งอยู่ปัจจุบันมีผู้คนที่ตกค้างอยู่ภายในช่วงเกิดไวรัสโควิด-19 เกือบ 10,000 คน และพยายามจะลักลอบเข้ามาฝั่งไทยเพื่อให้จับกุมด้วย ส่งผลงให้ช่วงเดือน ก.ค.ที่ผ่านมาสามารถจับกุมผู้ลักลอบข้ามาได้แล้ว 18 ราย

ล่าสุดทางนายภาสกรจึงแจ้งให้ทางกองกำลังผาเมืองได้ขยายพื้นที่การตรวจเข้มงวดไปด้านชายแดน อ.เชียงแสน เพิ่มเติมและแจ้งให้แต่ละอำเภอชายแดนให้ร่วมกับฝ่ายทหารและสาธารณสุขติดตามสถานการณ์ในประเทศเพื่อนบ้าน

แหล่งข่าวจากฝั่ง จ.ท่าขี้เหล็ก ประเทศเมียนมา ตรงกันข้าม อ.แม่สาย พบว่ายังคงเป็นไปตามปกติโดยผู้คนยังคงใช้ชีวิตไปตลาดและสถานที่ต่างๆ เหมือนเดิม แต่ทางการเมียนมาได้มีการสั่งปิดโรงเรียน สถานบันเทิง เช่น ผับ ร้านคาราโอเกะ ฯลฯ ทุกจุดแต่ยังไม่มีการห้ามออกจากเคหะสถานเหมือนช่วงแรกแต่อย่างใด

ล่าสุดทาง พล.ต.ถนัดพล โกศัยเสวี ผู้บัญชาการกองกำลังผาเมือง ได้เดินทางไปตรวจสอบพื้นที่โดยได้ขอความร่วมมือนายอำเภอทั้ง 4 อำเภอชายแดนที่ติดกับประเทศเมียนมาให้ชาวบ้านได้ช่วยสอดส่องบุคคลที่อาจจะแปลกปลอมเข้ามายังหมู่บ้านตามแนวชายแดนอย่างเข้มงวดด้วย