อสังหาฯ เชียงใหม่อัดโปรฯ ดึงกำลังซื้อ อยู่ฟรี 1-3 ปี

อัดแคมเปญ - ผู้ประกอบการธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในจังหวัดเชียงใหม่หลายรายต่างอัดโปรโมชั่นลดแลกแจกแถม เพื่อดึงให้คนตัดสินใจซื้อที่อยู่อาศัยเร็วขึ้น หลังวิกฤตโควิด-19 ส่งผลให้ภาวะเศรษฐกิจถดถอย กระทบต่อยอดขายอสังหาฯชะลอตัว

บิ๊กอสังหาฯเชียงใหม่อัดแคมเปญหนักดึงกำลังซื้อปี”63 หลังกำลังซื้อแผ่วจากพิษโควิด “เดอะ พรอมิเน้นซ์” อัดโปรโมชั่นแรง “อยู่ฟรี 1 ปี ใจดีผ่อนให้” พร้อมปรับลดราคาขายลง 10-15% เผยกำลังซื้อเดือนกรกฎาคมอ่อนลง 50% ด้าน “กาญจน์กนก” ยังเดินหน้าลงทุนโครงการบ้านสร้างเสร็จพร้อมขายทั้งแนวราบและแนวสูง ชูจุดแข็งราคา 2 ล้านต้น ๆ อัดโปรฯหนัก อยู่ฟรี 3 ปี ลดสูงสุด 3 แสน เน้นคอนโทรลสต๊อกตามดีมานด์ตลาด

นายวโรดม ปิฏกานนท์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท รีเกิล แอสเสท จำกัด เจ้าของโครงการ “เดอะ พรอมิเน้นซ์” โครงการบ้านจัดสรรแนวราบรายใหญ่ในจังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า ภาพรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์ของจังหวัดเชียงใหม่ในปี 2563 กำลังซื้ออ่อนลงมากในช่วง 3 ไตรมาสแรก โดยเฉพาะเดือนกรกฎาคม 2563 กำลังซื้อลดลงถึง 50% จากผลกระทบของโควิดและเศรษฐกิจที่ชะลอตัวทำให้กำลังซื้อในตลาดระมัดระวังการใช้จ่ายมากขึ้น โดยพบว่าดีเวลอปเปอร์หลายรายมีการชะลอเปิดโครงการใหม่ในปีนี้ และส่วนใหญ่เร่งระบายสต๊อกเป็นหลัก

สำหรับโครงการเดอะ พรอมิเน้นซ์ ได้เร่งปรับตัวและปรับกลยุทธ์การขายให้สอดรับกับสถานการณ์ของกำลังซื้อที่แผ่วลงและการแข่งขันที่สูงขึ้น โดยตั้งแต่เกิดสถานการณ์โควิด ทางโครงการได้ปรับลดราคาขายลง 10-15% เพื่อกระตุ้นกำลังซื้อ

พร้อมปรับโปรโมชั่นพิเศษ “อยู่ฟรี 1 ปี ใจดีผ่อนให้” เข้าอยู่วันนี้ ผ่อนอีกทีปีหน้าโดยทางโครงการจะผ่อนบ้านให้ลูกค้า 1 ปีสำหรับโครงการเดอะ พรอมิเน้นซ์ พราวด์ (THE PROMINENCE PROUD) ซึ่งเป็นบ้านเดี่ยวคุณภาพ มีจำนวนทั้งหมด 75 ยูนิตเท่านั้น ขณะนี้มียอดขายอยู่ที่ 20 หลัง

นายวโรดมกล่าวต่อว่า โครงการเดอะ พรอมิเน้นซ์ พราวด์ ตั้งอยู่บนทำเลศักยภาพใกล้แยกรวมโชค สันทราย ใช้เวลาเดินทาง 5 นาทีจากแยกรวมโชค จากสามเส้นทางหลัก วงแหวนรอบสอง, วงแหวนรอบสาม และแยกสันคะยอม และเดินทางเพียง 5 กิโลเมตรจากเซ็นทรัลเฟสติวัล บิ๊กซีเอ็กซ์ตร้า, โรงพยาบาลกรุงเทพ, สถานีขนส่งอาเขต และเพียง 15 กิโลเมตรจากสนามบินเชียงใหม่

นอกจากนี้ จุดเด่นของโครงการคือ บ้านนวัตกรรม (smart innovation) เช่น นวัตกรรมบ้านเย็น นวัตกรรมปรับปรุงคุณภาพอากาศ (active airflow),นวัตกรรมผลิตภัณฑ์สำหรับผู้สูงอายุ ช่วยทำให้ผู้อยู่อาศัยมีสุขภาพดีและมีความสะดวกสบายในการใช้ชีวิต บ้านปลอดภัย ไร้ฝุ่นพิษ (PM 2.5) ซึ่งนอกเหนือจากราคาที่เข้าถึงได้ โปรโมชั่นที่จูงใจ การเน้นคุณภาพบ้านที่เป็นนวัตกรรมทั้งระบบ ก็จะช่วยทำให้การตัดสินใจของลูกค้าง่ายมากขึ้น

นายมีน เชี่ยวศิลปธรรม ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัท กาญจน์กนก พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด ผู้ประกอบการโครงการบ้านจัดสรรแนวราบและแนวสูงรายใหญ่ในจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวกับ “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า แม้ดีมานด์ในตลาดขณะนี้ค่อนข้างแผ่วบาง แต่กาญจน์กนกยังคงเดินหน้าลงทุนในปีนี้ (2563) ทั้งโครงการแนวราบและแนวสูง

โดยแนวราบเป็นโครงการบ้านจัดสรร 3 โครงการ และแนวสูงเป็นคอนโดมิเนียม 1 โครงการ ซึ่งการที่บริษัทยังสามารถลงทุนภายใต้สถานการณ์ปัจจัยลบหลายด้าน ด้วยเพราะบริษัทมีแลนด์แบงก์ที่ยังสามารถพัฒนาโครงการได้อย่างต่อเนื่อง โดยจะเน้นทำบ้านสร้างเสร็จพร้อมขาย 100% เท่านั้น

พร้อมปรับกลยุทธ์ควบคุมสต๊อกแต่ละโครงการ โดยจะทยอยสร้างบ้านไม่เกิน 30 หลังให้สอดรับกับดีมานด์ตลาดจริง ซึ่งจากภาพรวมของยอดขายตั้งแต่เดือนมกราคม-สิงหาคม 2563 พบว่ายอดขายยังเป็นบวกอยู่ที่ 15-20% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา

โดยในสถานการณ์ปัจจุบัน บริษัทได้เร่งปรับโปรโมชั่นให้หลากหลายและจูงใจถึงวันที่ 30 กันยายน 2563 อาทิ ช่วยผ่อนสูงสุด 3 ปี ช่วยค่าส่วนกลางสูงสุด 3 ปี ฟรี-แอร์และทุกค่าใช้จ่ายวันโอน ทั้งบ้าน ทาวน์โฮม และคอนโดมิเนียม ขณะที่บ้านจัดสรรบางโครงการ ได้แก่ กาญจน์กนกวิลล์ 20 (บ่อสร้าง-สันกำแพง) มีส่วนลดสูงสุด 100,000 บาท หรือโครงการบ้านกาญจน์กนก 2 เฟส 3 (วงแหวนรอบนอกสันกำแพง-ดอยสะเก็ด) รับส่วนลดสูงสุด 300,000 บาท และคอนโดฯวันพลัส มหิดล 6 (มหิดล-เลียบทางรถไฟ) จองลดสูงสุด 50,000 บาท เป็นต้น

อย่างไรก็ตาม ภาพรวมของตลาดถือว่าการขายไม่หวือหวา ด้วยภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวมาก ทำให้การตัดสินใจซื้อบ้านหรือคอนโดฯยากขึ้น แต่ไม่หยุดชะงัก ซึ่งสินค้าของบริษัททั้งบ้านจัดสรรและคอนโดฯมีจุดแข็งเรื่องราคา โดยเฉพาะบ้านจัดสรรในระดับ 2 ล้านต้น ๆ กับบ้านคุณภาพที่มีสไตล์และวัสดุเกรดพรีเมี่ยมทำให้ง่ายต่อการตัดสินใจซื้อ โดยปีนี้บริษัทได้พัฒนาโปรดักต์ใหม่ ทำบ้านแฝด 4 ห้องนอน ขายราคา 2 ล้านต้น ๆ เพื่อกระจายกำลังซื้อให้กว้างขึ้น เพิ่มลูกเล่นใหม่ ๆ ในตลาดให้ลูกค้าตัดสินใจ

นายมีนกล่าวต่อว่า ในช่วงจังหวะนี้ทั้งดีมานด์และซัพพลายในตลาดลดลง ผู้ประกอบการอสังหาฯหลายรายชะลอและปรับรูปแบบการลงทุน แต่ดีมานด์จริงคือคนที่ต้องการบ้านอยู่อาศัยยังคงมีอยู่ เมื่อกำลังซื้อชะลอจึงตัดสินใจละเอียดขึ้น

ทั้งนี้ บริษัทมองว่าการลงทุนพัฒนาโครงการอย่างต่อเนื่องจะมีความได้เปรียบมีสินค้าอยู่ในสต๊อกที่พอดีกับความต้องการที่แท้จริงของตลาด โดยบริษัทมีความได้เปรียบเรื่องต้นทุนที่ดินที่มีแลนด์แบงก์เก็บไว้หลายทำเลในจังหวัดเชียงใหม่มากกว่า 1,000 ไร่ และมีแผนพัฒนาโครงการทั้งแนวราบและแนวสูงอย่างต่อเนื่อง

ขณะที่ข้อมูลจากธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) สำนักงานภาคเหนือ ระบุถึงภาวะเศรษฐกิจและการเงินภาคเหนือ ไตรมาส 2 ปี 2563 ว่า การลงทุนภาคเอกชนยังคงหดตัว ภาคธุรกิจส่วนใหญ่ชะลอแผนการลงทุนออกไป หลังได้รับผลกระทบจากโรคโควิด-19 โดยเฉพาะอสังหาริมทรัพย์เพื่อที่อยู่อาศัย กำลังซื้อหดตัว ทำให้การลงทุนเปิดโครงการใหม่ชะลอตัวทั้งบ้านแนวราบและอาคารชุด แต่บางทำเลที่มีศักยภาพยังคงมีการลงทุนอยู่บ้าง