ไทยอนุญาต รถตู้สินค้าเมียนมา เข้า “แม่สาย” ได้แล้ว หลังขู่ปิดด่าน

ไทยอนุญาตรถตู้สินค้าเมียนมาเข้า ”แม่สาย” ได้แล้ว หลังขู่ปิดด่าน ไทยไม่อนุญาตให้รถขนสินค้าฝั่งเมียนมาขับล้ำเข้ามารับสินค้าตามโกดังต่างๆ ในเขต อ.แม่สาย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันที่ 16 มิ.ย. 2563 นายประจญ ปรัชญ์สกุล ผู้ว่าราชการ จ.เชียงราย ได้มีคำสั่งคณะกรรมการโรคติดต่อ จ.เชียงราย ฉบับที่ 22 โดยมีเนื้อหาอนุญาตให้รถตู้ขนสินค้าที่มาจากฝั่ง จ.ท่าขี้เหล็ก ประเทศเมียนมา สามารถเดินทางข้ามพรมแดนไทย-เมียนมา ตรงสะพานข้ามลำน้ำสายแห่งที่ 2 รับสินค้าในเขต อ.แม่สาย จ.เชียงราย ได้โดยกำหนดระยะเวลาให้อยู่ได้ 1 วัน และจำกัดให้รถข้ามมาได้ไม่เกิน 168 คัน โดยรถให้มีคนขับและคนติดตามมากับรถไม่เกิน 1 คน

คำสั่งดังกล่าวยังกำหนดให้เปลี่ยนคนขับเป็นคนไทย หรือคนเมียนมาที่พักอาศัยอยู่ในประเทศไทย และไม่เคยกลับประเทศเมียนมา โดยเมื่อรถมาถึงด่านพรมแดนฝั่งไทยด้วย จากนั้นเมื่อไปรับสินค้าตามโกดังเก็บต่างๆ เฉพาะในเขต อ.แม่สาย ก็จะอยู่ภายใต้การควบคุมของศูนย์ปฏิบัติการควบคุมโรค อ.แม่สาย (ศปก.อ.แม่สาย) เมื่อรับสินค้าเสร็จก็จะเปลี่ยนเป็นคนขับรายเดิมที่รออยู่ที่ด่านพรมแดนต่อไป

คณะกรรมการโรคติดต่อ จ.เชียงราย ยังได้มอบหมายให้ทางสำนักงานสาธารณสุข อ.แม่สาย ได้เข้าร่วมคัดกรองและทำความสะอาดรถทุกคันที่เดินทางมาจากประเทศเมียนมา และมีการกำหนดโทษด้วยว่า หากผู้ใดฝ่าฝืนมีโทษจำคุกเป็นเวลาไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และคำสั่งนี้มีผลตั้งแต่วันที่ 17 ก.ย.นี้เป็นต้นไป

ทั้งนี้ล่าสุดทางการท้องถิ่นของเมียนมาเห็นด้วยกับการดำเนินการดังกล่าวของฝั่งไทย

ขณะที่รถบรรทุกสินค้าจากประเทศไทยนั้น ยังคงข้ามไปได้ตามปกติแต่ทางด่านศุลกากรแม่สายกำหนดให้อยู่ในเขต จ.ท่าขี้เหล็ก ได้ไม่เกิน 7 ชั่วโมง และห้ามค้างแรม

ปัจจุบันการค้าระหว่างไทย-เมียนมา ด้าน อ.แม่สาย มีมูลค่าการส่งออกปีละมากกว่า 10,000 ล้านบาท ส่วนใหญ่เป็นน้ำมันเชื้อเพลิง วัสดุก่อสร้าง สินค้าอุปโภคบริโภคเกือบทุกชนิด ฯลฯ โดยรถบรรทุกสินค้าจะไปจากประเทศไทยเพื่อส่งสินค้าหนัก ส่วนรถตู้ของผู้ประกอบการเมียนมาจะข้ามมาซื้อสินค้าอุปโภคบริโภคเป็นหลัก ขณะที่จุดชายแดนด้านอื่นปิดทั้งหมด และห้ามคนข้ามไปมาตามมาตรการป้องกันไวรัสโควิด-19 ของทั้ง 2 ประเทศ

ซึ่งคำสั่งใหม่ของคณะกรรมการโรคติดต่อ จ.เชียงราย ดังกล่าวมีขึ้นหลังเกิดปัญหากรณี จ.เชียงราย ได้กำหนดมาตรการห้ามรถตู้จาก จ.ท่าขี้เหล็ก ขับผ่านด่านพรมแดนเข้าสู่ชั้นในของประเทศไทย เพื่อไปรับสินค้าตามโกดังต่างๆ ในเขต อ.แม่สาย และให้มีการขนถ่ายสินค้าจากรถที่ไปรับสินค้าจากโกดังไปเปลี่ยนถ่ายกันบริเวณด่านพรมแดนแทน

แต่ในการประชุมระหว่างนายประสงค์ หล้าอ่อน นายอำเภอแม่สายและนายซาน เมี่ยซอ นายอำเภอท่าขี้เหล็ก เมื่อวันที่ 14 ก.ย. 2563 ณ ห้องประชุมที่ว่าการ อ.แม่สาย ไม่สามารถหาข้อยุติได้ เพราะทางการเมียนมาอ้างว่าจะทำให้ต้นทุนสินค้าสูงขึ้นจนราคาสินค้าใน จ.ท่าขี้เหล็ก พุ่งสูงขึ้นตามมา

และหากมีการใช้มาตรการนี้ ทางเมียนมาก็อาจจะห้ามคนไทยขับรถบรรทุกสินค้าหนักเข้าสู่ชั้นในของประเทศเมียนมา หรือหากตกลงกันไม่ได้อาจเสนอให้มีการปิดด่านพรมแดนฝั่งเมียนมาด้วย

อย่างไรก็ตามหลังมีคำสั่งใหม่จาก จ.เชียงราย ดังกล่าวก็มีรายงานจากเจ้าหน้าที่ จ.ท่าขี้เหล็ก ว่าเห็นด้วยกับมาตรการของไทย และไม่มีข้อขัดแย้งเพิ่มเติมแต่อย่างใด

นายประจญ กล่าวว่าทางเจ้าหน้าที่จะยังคงมีการเข้มงวดในมาตรการป้องกันไวรัสโควิด-19 อย่างเข้มข้นต่อไป โดยจะมีการฉีดพ่นน้ำยาฆ่าเชื้อรถทุกค้นที่ผ่านด่านพรมแดนและมาตรการอื่นๆ ซึ่งจะเข้มข้นเหมือนช่วงแรกๆ ที่เริ่มมีการใช้มาตรการ

นอกจากนี้จะมีการตรวจสอบซ้ำหรือรี-เอ๊กซเรย์ พื้นที่ภายในเพื่อป้องกันการหลบหนีเข้ามาแล้วไปพักอาศัยหรือทำงานอยู่ด้วย อย่างไรก็ตาม จากการประสานงานก้บประเทศเพื่อนบ้านตามแนวชายแดนด้านรัฐฉานตะวันออก ก็ได้รับแจ้งว่ายังไม่พบผู้ติดเชื้อตามแนวชายแดนแต่อย่างใด