ชาวประมงปัตตานี วอนรัฐซื้อเรือเฟสแรก 220 ลำ ไปจมน้ำทำปะการังเทียม สร้างแหล่งท่องเที่ยว สร้างอาชีพใหม่ต่อลมหายใจชาวประมง
วันที่ 19 กันยายน 2563 นางอันน์เกตุ ลีลไพบูลย์ นายกสมาคมการประมงจังหวัดปัตตานี เปิดเผยว่า จากปัญหาที่เรือประมงต้องปฏิบัติตามมาตรการแก้ไขปัญหาการทำประมงผิดกฎหมาย ขาดการรายงาน และไร้การควบคุม (ไอยูยู) ของสหภาพยุโรปแลกกับการยกเลิกแบนสินค้าประมงไทย เป็นปัญหาเรื้อรังสร้างความเดือดร้อนสาหัส
- สมชัย เลิศสุทธิวงค์ ซีอีโอ “เอไอเอส” สละโสดในวัย 62 ปี
- กองทุนประกันวินาศภัยถังแตก แจ้งชะลอจ่ายคืนหนี้ตั้งแต่ มี.ค.2567
- เรือชนสะพานถล่มในสหรัฐ กระทบเศรษฐกิจ การขนส่งสินค้าเป็นอัมพาต
ส่งผลให้ปัจจุบันกองเรือประมงปัตตานี 1,016 ลำ มีเพียง 40% ที่ยังประคองตัวและออกทะเลได้ ส่วนอีก 60% ไม่พร้อมออกทะเล ซึ่งต้องรับแบกภาระค่าใช้จ่าย ต่างๆ อาทิ ค่าเช่าท่าจอดเรือ ค่าไฟที่ใช้ในการปั่นน้ำออกจากเรือไม่ให้เรือจม ฯลฯ ตอนนี้ชาวประมงกว่า 514 ลำ ไม่สามารถแบกรับภาระในส่วนนี้ได้ จึงจะขอเลิกกิจการ
จึงอยากขอให้รัฐเข้ามาช่วยเหลือในการรับซื้อเรือ เฟสแรกจำนวน 220 ลำ ในงบประมาณ 700 ล้านบาท เพื่อนำไปทำปะการังเทียมใต้ทะเล เป็นแหล่งสร้างบ้านปลา สร้างแลนด์มาร์คแหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่
“ ข้อเสนอนี้ภาครัฐสามารถทำได้ เพราะในแต่ละปีรัฐจะมีงบประมาณ 1,000 ล้าน/ปี เพื่อซื้อแท่นปูนหรือวัตถุทิ้งทะเลเพื่อสร้างปะการังเทียมใต้ทะเล “
ซึ่งถ้าหากรัฐรับซื้อประมงที่ประสบปัญหาไปทำกองเรือปะการังเทียมใต้ทะเลของปัตตานี จะถือว่าเป็นการนำร่องและต้นแบบให้พื้นที่ทะเลอื่นได้ เกิดการสร้างอาชีพเกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยว อาทิ อาชีพสอนดำน้ำ สอนขับเรือ มัคคุเทศก์ ไกค์นำเที่ยวและสร้างความยั่งยืนต่ออาชีพประมง