“ธานี ช่วงชู” แม่ทัพใหญ่ นำ “สนามบินภูเก็ต” ฝ่าโควิดสู่ปีที่ 33

อุตสาหกรรมการบินของประเทศไทยก่อนการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ถือเป็นธุรกิจที่มีขนาดค่อนข้างใหญ่ โดยสถิติจากสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) ปี 2562 ระบุว่า ประเทศไทยมีจำนวนผู้โดยสารทางการบินทั้งภายในและต่างประเทศรวม 165 ล้านคน/ปี

แบ่งเป็น ผู้โดยสารระหว่างประเทศ 89 ล้านคน/ปี และผู้โดยสารภายในประเทศ 76 ล้านคน/ปี คิดเป็นจำนวนเที่ยวบิน 1.43 ล้านเที่ยวบิน แบ่งเป็น เส้นทางการบินภายในประเทศ 67 เส้นทาง และเส้นทางการบินระหว่างประเทศอีก 382 เส้นทาง

แต่เมื่อเกิดการแพร่ระบาดของโควิด-19 ทำให้ตัวเลขผู้โดยสารระหว่างประเทศลดลงจำนวนมาก กพท.ได้ปรับตัวเลขคาดการณ์ผู้โดยสารใหม่ทุกท่าอากาศยานใน 5 ปีข้างหน้า (2563-2568) โดยคาดการณ์ไปในทางเลวร้ายที่สุด (worst case scenario) ในปี 2563 อยู่ที่ 52 ล้านคน ลดลง 60% จากปี 2562 จะเป็นตัวเลขผู้โดยสารภายในประเทศประมาณ 36 ล้านคน ผู้โดยสารระหว่างประเทศประมาณ 16 ล้านคน

32 ปีสนามบินภูเก็ต

“ท่าอากาศยานภูเก็ต” บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) (ทภก.ทอท.) ถือเป็นหนึ่งในท่าอากาศยานนานาชาติหลักที่รองรับผู้โดยสาร ในภาวะปกติมีเที่ยวบินหนาแน่นเป็นอันดับ 3 ของประเทศ รองจากท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ และท่าอากาศยานนานาชาติดอนเมือง มีเที่ยวบินทั้งในและต่างประเทศบินมาลงทุกวัน เนื่องด้วย “เกาะภูเก็ต” เป็นแหล่งท่องเที่ยวอันซีนระดับโลก ที่มีนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกบินมาเยือนปีละกว่า 10 ล้านคน และนักท่องเที่ยวไทยปีละ 3.9 ล้านคน

แต่ภายใต้สถานการณ์โควิด-19 ที่ยังแพร่ระบาดในหลายประเทศทั่วโลก “ท่าอากาศยานภูเก็ต” ดำเนินงานมา “ครบรอบ 32 ปี” และกำลังจะก้าวย่างสู่ปีที่ 33 “เรืออากาศตรี ธานี ช่วงชู” ผู้อำนวยการท่าอากาศยานภูเก็ต ยอมรับว่า ในปีนี้ทั่วโลกได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 เป็นวงกว้าง ส่งผลให้ท่าอากาศยานภูเก็ตถูกระงับการให้บริการท่าอากาศยานตามคำสั่งของ กพท.

ในช่วงที่เกิดการแพร่ระบาดเป็นเหตุให้ในปีงบประมาณ 2563 ท่าอากาศยานภูเก็ตมีจำนวนเที่ยวบินรวมทั้งสิ้น 59,647 เที่ยวบิน ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 48.73 แบ่งเป็น เที่ยวบินระหว่างประเทศ 30,222 เที่ยวบิน ลดลงร้อยละ 52.38 และเที่ยวบินภายในประเทศ 29,425 เที่ยวบิน ลดลงร้อยละ 43.49 มีผู้โดยสารใช้บริการรวมทั้งสิ้น 9,089,577 คน ลดลงร้อยละ 49.09 โดยแบ่งเป็น ผู้โดยสารระหว่างประเทศ 5,126,522 คน ลดลงร้อยละ 50.34 และผู้โดยสารภายในประเทศ 3,963,055 คน ลดลงร้อยละ 47.39

“ไตรมาสสุดท้ายของปี 2563 แทบไม่มีรายได้เข้ามาเลย ปีงบประมาณ 2564 อยู่ในขั้นตอนดำเนินการประคับประคองให้ธุรกิจการบินกลับสู่บริการปกติ ขณะนี้ให้บริการนักเดินทางภายในประเทศ ส่วนการเดินทางระหว่างประเทศยังไม่มีการเปิดบริการ ในห้วงเดือน มิ.ย.-ต.ค. 63 เปิดให้บริการเฉพาะภายในประเทศ มีผู้โดยสาร 7,000 คนต่อวัน ไฟลต์บิน 60-70 เที่ยวบินต่อวัน

ส่วนวันศุกร์-เสาร์-อาทิตย์ มีผู้โดยสาร 13,000 คนต่อวัน ไฟลต์บิน 80 เที่ยวบินต่อวัน สิ่งที่คาดการณ์จะเพิ่มขึ้นในช่วงการจัดงานประเพณีถือศีลกินเจ คาดการณ์ว่าจะมีผู้โดยสารคนไทยมาร่วมงาน วันละ 15,000 คน ไฟลต์บิน 90 เที่ยวบินต่อวัน หลังจากงานถือศีลกินเจแล้วอาจมีโครงการต่าง ๆ กระตุ้นให้เกิดการท่องเที่ยวในภูเก็ตเป็นระยะ”

สำหรับปี 2564 ประเมินว่า ยังอยู่ในช่วงประคับประคองให้ธุรกิจการบิน อากาศยานฟื้นกลับมาโดยเร็วที่สุด จะพยายามสร้างมาตรการเร่งรัดให้การช่วยเหลือประคับประคองสายการบิน เรามีความเห็นใจธุรกิจการบินที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ไม่คาดคิดว่าจะกระทบต่อธุรกิจการบิน ธุรกิจท่องเที่ยวและท่าอากาศยานอย่างมหาศาล คาดว่าต้นปี 2565 ทั่วโลกคงมีวัคซีนป้องกันโควิด หรือรัฐบาลได้ผ่อนคลายการเข้า-ออกประเทศไทย คาดว่าท่าอากาศยานภูเก็ตจะมีการเดินทางคับคั่งขึ้นมาพอสมควร อยู่บนพื้นฐานความปลอดภัยด้านสุขอนามัยเป็นหลัก

อย่างไรก็ตาม ในปีงบประมาณ 2563 ที่ผ่านมา ท่าอากาศยานภูเก็ตได้ดำเนินการตามโครงการพัฒนาท่าอากาศยานในระยะที่ 2 ตามแผนแม่บท ทอท.ปี 2561 โดยได้ก่อสร้างห้องโถงเช็กอินผู้โดยสารกรุ๊ปทัวร์ ซึ่งเป็นโครงการเร่งด่วนระยะสั้นเพื่อแก้ไขปัญหาความแออัดของผู้โดยสารภายในอาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศ และยังคงดำเนินการตามแผนพัฒนาท่าอากาศยานในระยะที่ 2 เพื่อให้มีขีดความสามารถในการรองรับผู้โดยสารได้ 18 ล้านคนต่อปี

รุกฝ่าวิกฤตโควิดสู่ปีที่ 33

หลังจากประเทศไทยสามารถควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในระดับเป็นที่ยอมรับได้แล้วนั้น คณะรัฐมนตรีได้มีแนวทางการเปิดรับนักท่องเที่ยวประเภทพิเศษ special tourist visa (STV) เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ซึ่งท่าอากาศยานภูเก็ตได้มีการเตรียมความพร้อมในการรองรับนักท่องเที่ยวกลุ่มดังกล่าว โดยมีการประสานงานกับทางจังหวัดภูเก็ต พร้อมจัดตั้งศูนย์ภาวะฉุกเฉิน ณ ท่าอากาศยานภูเก็ต เพื่อรายงานผลการปฏิบัติให้กับทางจังหวัดรับทราบ

พร้อมทั้งกำหนดรูปแบบ กระบวนการ และให้การสนับสนุนพื้นที่ เพื่อใช้เป็นจุดคัดกรองและเก็บสารคัดหลั่งส่งตรวจ โดยได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจากด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศ และสำนักงานป้องกันโรคเขต 11 ในการสนับสนุนห้องเก็บสารคัดหลั่งส่งตรวจและปฏิบัติการชีวโมเลกุล พร้อมทั้งเจ้าหน้าที่มาดำเนินการคัดกรอง รวมถึงกรมควบคุมโรคได้สนับสนุนรถพระราชทานตรวจโควิด-19 มาประจำการ ณ ท่าอากาศยานภูเก็ต เมื่อมีการเปิดรับนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น

นอกจากการดำเนินงานด้านธุรกิจแล้วนั้น ท่าอากาศยานภูเก็ตยังให้ความสำคัญด้านความรับผิดชอบต่อสังคมควบคู่กันไป โดยในปีงบประมาณ 2563 ท่าอากาศยานภูเก็ตได้ดำเนินการจ่ายเงินชดเชยผลกระทบด้านเสียง รวมไปถึงการจัดซื้อที่ดินโดยรอบและพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบทางเสียงให้แก่ชุมชนโดยรอบท่าอากาศยาน

ซึ่งได้ดำเนินการไปแล้วทั้งสิ้น 63 อาคาร จาก 4 ชุมชน รวมมูลค่า 1,173,588,182 บาท และอยู่ระหว่างการดำเนินการสำรวจเพื่อจ่ายเงินชดเชยอีก 536 อาคาร ซึ่งการดำเนินการดังกล่าวเป็นไปตามแผนการพัฒนาอย่างยั่งยืน ตามพันธกิจของ ทอท.คือการประกอบและส่งเสริมกิจการท่าอากาศยาน รวมทั้งดำเนินการกิจการอื่นที่เกี่ยวข้อง หรือต่อเนื่องกับการประกอบกิจการท่าอากาศยานโดยคำนึงถึงการพัฒนาที่ยั่งยืน

“เราเติบโตมา 32 ปี มีศักยภาพพร้อมให้บริการผู้โดยสาร ประชาชนชาวไทยที่มาท่องเที่ยวให้บริการได้อย่างมีประสิทธิภาพ เราเป็นท่าอากาศยานภูมิภาคที่ใหญ่ที่สุดของไทย และเป็นตัวอย่างหลักของท่าอากาศยานในประเทศไทย เราพยายามรักษามาตรฐานไว้ โดยที่ผ่านมาทางองค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ (ICAO) ได้ตรวจประเมินมาตรฐานต่าง ๆ เป็นประจำ ซึ่งเราผ่านพ้นการตรวจประเมินได้อย่างสมบูรณ์แบบ และพยายามรักษามาตรฐานเหล่านี้ไว้ เรามีความภาคภูมิใจควบคู่กับจังหวัดภูเก็ต

แม้ประสบปัญหาต่าง ๆ เราพร้อมฝ่าฟันอุปสรรคให้ผ่านพ้นไปให้ได้ ขอให้เชื่อมั่นในท่าอากาศยานภูเก็ต ขอให้มั่นใจว่า หากรัฐบาลมีคำสั่งให้ปฏิบัติเช่นใด มีความพร้อมปฏิบัติ 100% ในทุกด้าน ทั้งอุปกรณ์ สถานที่ พนักงานทุกคนพร้อมรับนโยบายจากส่วนกลาง ทางผู้ว่าราชการจังหวัดได้เข้ามาตรวจดูการซักซ้อมการเตรียมความพร้อมเป็นระยะ

ซึ่งผู้ว่าราชการจังหวัดได้ขอให้ส่วนกลางผ่อนปรนการเข้ามาของคนต่างชาติไปก่อน เนื่องจากภูเก็ตมีงานประเพณีถือศีลกินผัก ถ้าจะมีนโยบายใดขอให้เป็นหลังวันที่ 25 ตุลาคม 2563 เพราะชาวไทยทั่วประเทศจองเข้ามาภูเก็ตในช่วงดังกล่าวจำนวนมาก”