ชายแดนไทย-เมียนมา ท่าขี้เหล็ก ประกาศเคอร์ฟิว ล็อกดาวน์สกัดโควิด

บริเวณชายแดนไทย-เมียนมา ท่าขี้เหล็ก ประกาศเคอร์ฟิว ล็อกดาวน์สกัดโควิด ทหารนำภาครัฐ เอกชน ลงพื้นที่

วันที่ 17 ตุลาคม 2563 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีที่มีการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ในประเทศเมียนมารุนแรงมากขึ้น โดยมีรายงานผู้ติดเชื้อสะสมในเขตรัฐฉานซึ่งตั้งอยู่ติดกับ จ.เชียงราย เชียงใหม่ และแม่ฮ่องสอน จำนวน 45 ราย แต่ยังไม่พบผู้ติดเชื้อเพิ่มในเขต จ.ท่าขี้เหล็ก ที่เป็นเขตการค้าที่สำคัญกับประเทศไทยด้าน อ.แม่สาย จ.เชียงราย

ล่าสุดทาง พ.อ.สัมฤทธิ์ ฉัตรวัฒนาสกุล ผบ.ฉก.ม.3 กองกำลังผาเมือง และประธานคณะกรรมการชายแดนไทย-เมียนมา หรือทีบีซี ได้นำหน่วยงานภาครัฐ และเอกชนเดินทางไปยัง จ.ท่าขี้เหล็ก เพื่อพบกับ พ.อ.ต่อ สิ่นอู ผบ.หน่วยยุทธศาสตร์ทหาร จ.ท่าขี้เหล็ก เพื่อสานสัมพันธ์ในโอกาสมีการสับเปลี่ยนกำลังของทหารในพื้นที่

รวมทั้งถือโอกาสเดินทางไปสำรวจการตั้งจุดตรวจคัดกรองไวรัสโควิด-19 ของทางการเมียนมา โดยเฉพาะที่ด่านหมากยาง ซึ่งอยู่บนถนนอาร์สามบีเชื่อมไทย-เมียนมา-จีนตอนใต้ และเป็นถนนสายหลักที่เข้าสู่ท่าขี้เหล็ก

จากการสำรวจพบว่า ด่านหมากยาง ยังคงเป็นจุดที่ใช้ขนสินค้าต่างๆ เข้าและออกจากท่าขี้เหล็กเชื่อมกับรัฐฉาน แต่ปัจจุบันทางการเมียนมาได้จัดตั้งกำลังเจ้าหน้าที่ตรวจคัดกรองบุคคลอย่างหนัก โดยมีการฝึกอบรมบุคลากรคล้ายอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) ของประเทศไทยให้เฝ้าประจำ และหากพบบุคคลต้องสงสัยว่าจะติดเชื้อจะมีการนำตัวไปตรวจหาเชื้อ และกักตัวเพื่อดูอาการอย่างเข้มงวดด้วย

นอกจากนี้ยังมีการตั้งจุดตรวจลักษณะเดียวกันอีก 5 จุดรอบเมืองท่าขี้เหล็ก คือด่านตรวจบนถนนจากเมืองต่วน เมืองสาด-ท่าขี้เหล็ก ถนนสายเมืองเชียงตุง เมืองยอง เมืองยู้ เมืองหลวย ถนนจากท่าเดื่อ เมืองพย๊าก เมืองเลน ที่จะไปท่าขี้เหล็ก ถนนใกล้แม่น้ำโขงชายแดนเมียนมา-สปป.ลาว ก็มีการตั้งจุดตรวจตรงด่านเมืองเลนที่เชื่อมระหว่างท่าขี้เหล็กไปยังเมืองเชียงลาบ ที่ติดกับสะพานข้ามแม่น้ำโขงเมียนมา-สปป.ลาว และถนนระหว่างท่าขี้เหล็ก-สามเหลี่ยมทองคำ

ส่วนภายในตัวเมืองท่าขี้เหล็กใช้มาตรการห้ามออกจากเคหะสถานหรือเคอร์ฟิวตั้งแต่เวลา 00.00-04.00 น.เช่นเดิม ซึ่งเจ้าหน้าที่เมียนมายืนยันว่า ปัจจุบันไม่พบผู้ติดเชื้อในเขตท่าขี้เหล็กที่ติดกับประเทศไทยอย่างแน่นอน

ด้าน น.ส.ผกายมาศ เวียร์รา รองประธานหอการค้า จ.เชียงราย และประธานหอการค้า อ.แม่สาย เปิดเผยว่าจะเห็นได้ว่าทางการเมียนมาได้มีการล็อคดาวน์ เมืองท่าขี้เหล็กรอบทิศทำให้ค่อนข้างมั่นใจในมาตรการโดยที่ฝ่ายไทยเดินทางไปดูมาด้วยตัวเอง จึงทำให้การค้าชายชายแดนที่ใช้จุดผ่านแดนถาวรตรงสะพานข้ามลำน้ำสายแห่งที่ 2 ระหว่าง อ.แม่สาย กับ จ.ท่าขี้เหล็ก ยังคงดำเนินไปอย่างต่อเนื่องหลังจากช่วงปลายเดือน ก.ย.ที่ผ่านมามีการใช้มาตรการเข้มงวดอย่างหนักจนทำให้การค้าลดลงหลายเท่าตัว

ล่าสุดทางคณะกรรมการประสานงานชายแดนไทย-เมียนมา ส่วนท้องถิ่น (TBC) ทั้งฝ่ายไทยและเมียนมาได้ทำเข้าใจกันว่าหากมีการดำเนินการใดๆ เกี่ยวกับมาตรการชายแดนในอนาคตจะมีการประสานงานกันผ่านทีบีซีเท่านั้นโดยไม่ใช้ช่องทางอื่นเพิ่มเติม เพราะอาจทำให้เกิดความเข้าใจผิดกันได้

“ไทยและเมียนมายังได้มีการหารือเรื่องการขนสินค้าประเภทอาหารคือผัก ปลา หมู เนื้อ ฯลฯ ให้อยู่ในระบบที่ถูกต้องและเข้ากับสถานการณ์ปัจจุบัน เพราะเดิมสินค้าเหล่านี้จะขนใส่รถตู้แล้วข้ามสะพานข้ามลำน้ำสายแห่งที่ 1 โดยไม่ได้เสียค่าธรรมเนียมใดๆ เพราะเข้าออกในลักษณะรถทั่วไป แต่เมื่อปิดสะพานแห่งที่ 1 และปัจจุบันเหลือจุดเชื่อมกันที่สะพานแห่งที่ 2 เพียงจุดเดียวปรากฎว่ามีการจัดเก็บค่าธรรมเนียมใบขนสินค้าเป็นรายคันๆ ละ 27 บาท และแยกประเภทการตรวจไปยังด่านตรวจพืช ด่านกักสัตว์ระหว่างประเทศ ปศุสัตว์ ประมง ฯลฯ ทำให้ต้องจัดระบบกันใหม่โดยอาจจะแจ้งหรือยื่นเอกสารได้หลายๆ รายต่อครั้งเพื่อความสะดวกต่อไป” น.ส.ผกายมาศ กล่าวและว่า

สำหรับตัวเลขการส่งออกสินค้าไทยพบว่าวันที่ 1 ต.ค.มีการส่งออกมูลค่า 54,603,767 บาท วันที่ 2 ต.ค.มูลค่า 36,884,984 บาท วันที่ 3 ต.ค.มูลค่า 33,322,241 บาท วันที่ 4 ต.ค.มูลค่า 7,520,102 บาท วันที่ 5 ต.ค.มูลค่า 59,123,408 บาท วันที่ 6 ต.ค.มูลค่า 30,105,592 บาท วันที่ 7 ต.ค.มูลค่า 42,789,581 บาท วันที่ 8 ต.ค.มูลค่า 46,085,319 บาท

วันที่ 9 ต.ค.มูลค่า 31,516,199 บาท วันที่ 10 ต.ค.มูลค่า 33,167,544 บาท วันที่ 11 ต.ค.มูลค่า 46,420 บาท วันที่ 12 ต.ค.มูลค่า 46,181,612 บาท วันที่ 13 ต.ค.มูลค่า 28,307,572 บาท วันที่ 14 ต.ค.มูลค่า 29,434,136 บาท สินค้าส่งออกส่วนใหญ่เป็นน้ำมันเชื้อเพลิง วัสดุก่อสร้าง อาหารและเครื่องอุปโภคบริโภคทั่วไป