ตากคลายล็อคดาวน์ ”2ชุมชน-ด่านแม่สอด” ให้ขนส่งได้ปกติ 26 ต.ค.นี้ 

จังหวัดตากออกประกาศ 2 ฉบับ คลายล็อคดาวน์ ”พื้นที่ 2ชุมชน-ด่านแม่สอด” ให้ขนส่งได้ปกติวันจันทร์ 26 ต.ค.นี้ ภายใต้มาตรการป้องกันโควิด-19 เข้มข้น

นายพงศ์รัตน์ ภิรมย์รัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดตาก ในฐานะประธานคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดตาก ผู้กำกับการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินจังหวัดตาก และผู้อำนวยการศูนย์สั่งการชายแดนไทยกับประเทศเพื่อนบ้านด้านเมียนมา จังหวัดตาก เปิดเผยว่า หลังจากจังหวัดตากพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 จำนวน 5 รายในพื้นที่อ.แม่สอด และคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดตากได้ออกประกาศฉบับที่ 31/2563 เรื่องมาตรการป้องกัน ควบคุมโรคโควิด-19 ได้ดำเนินการสอบสวน  กักกัน และควบคุมโรคจนทำให้สถานการณ์แพร่ระบาดอยู่ในสถานการณ์ที่ควบคุมได้ ประกอบกับการค้นหาตรวจคัดกรองเชิงรุกในเขตพื้นที่อ.แม่สอด และอีก 4 อำเภอชายแดนพบว่า ไม่มีผู้ป่วยยืนยันติดเชื้อโควิดเพิ่ม

ดังนั้นจังหวัดตากจึงได้ออกประกาศ 2 ฉบับ โดยฉบับแรกได้ออกประกาศคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดตาก ฉบับที่ 33/2563 เรื่องมาตรการป้องกัน ควบคุมโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา2019 (covid-19) จังหวัดตาก ขอยกเลิกประกาศคณะกรรมการควบคุมโรคติดต่อจังหวัดตาก ฉบับที่ 31/2563 ที่ออกประกาศเมื่อวันที่ 17 ตุลาคม 2563 ทั้งหมด 7 ข้อที่ควบคุมการดำเนินการต่างๆ ในอ.แม่สอด โดยการยกเลิกทั้งหมดให้มีผลบังคับใช้ตั้งแต่เวลา 24.00 น.ของวันที่ 26 ตุลาคม 2563

ส่วนประกาศฉบับที่ 2 ให้กลับมาเปิดด่านแม่สอดได้ภายใต้เงื่อนไข ประกาศคำสั่งจังหวัดตาก ที่ 2821/2563 เรื่องการกำหนดพื้นที่และมาตรการในการขนส่งสินค้าข้ามแดน ณ จุดผ่านแดนถาวรสะพานมิตรภาพไทย-เมียนมา แห่งที่ 2 และช่องทางอื่นนอกทางอนุมัติในพื้นที่จังหวัดตาก หลังจากที่ได้ระงับไปตั้งแต่วันที่ 17 ตุลาคม 2563 จนถึงวันที่ 25 ตุลาคม 2563

“การออกประกาศทั้ง 2 ฉบับ เนื่องจากเป็นกรณีที่มีความจำเป็นเร่งด่วน หากปล่อยให้เนิ่นช้าไปจะก่อให้เกิดผลเสียหายอย่างร้ายแรงแก่สาธารณชนหรือกระทบต่อประโยชน์สาธารณะ”

สำหรับประกาศคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดตาก ฉบับที่ 33/2563 เรื่องมาตรการป้องกัน ควบคุมโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา2019 (covid-19) จังหวัดตาก  7 ข้อ
โดยสรุป ได้แก่ 1.ยกเลิกควบคุมการเข้า-ออก ชุมชนย่านมะดีนะห์ และย่านถุงทอง
2.ยกเลิกการห้ามปฏิบัติศาสนกิจและศาสนพิธีของทุกศาสนา
3.ให้โรงเรียน 5 แห่ง และศูนย์การศึกษา ศูนย์จริยธรรม ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กเปิดเรียนได้ตามปกติ 4.ให้ร้านอาหาร โรงแรม ท่าอากาศยาน สถานีขนส่ง โรงพยาบาล ร้านอาหารและเครื่องดื่ม ร้านสะดวกซื้อ หาบเร่ แผงลอยในพื้นที่อ.แม่สอด ที่ไม่ให้นั่งรับประทานในร้านเปิดบริการให้รับประทานในร้านได้ตามปกติ

5.สถานประกอบการหรือสถานที่ใดๆ ทุกประเภทที่มีผู้ใช้บริการในพื้นที่อ.แม่สอดจะต้องกำหนดทางเข้า-ออก และตรวจวัดอุณหภูมิ ติดตั้งแอปพลิเคชั่นไทยชนะ และจัดให้มีมาตรการป้องกันโรคตามที่ทางราชการกำหนดโดยเคร่งครัด หากฝ่าฝืนอาจมีความผิดตามกฎหมายและถูกสั่งปิดสถานที่นั้นๆ เฉพาะราย

6.สถานบริการ ผับ บาร์ คาราโอเกะ นวดและสปาในพื้นที่อ.แม่สอด เปิดบริการได้ตามปกติ 7.ผู้ใดจัดกิจกรรมที่มีผู้เข้าร่วมจำนวนมาก ที่มีโอกาสสัมผัสกันได้ง่าย เช่น การประชุม สัมมนา การจัดเลี้ยง การจัดกิจกรรมตามประเพณี ฯลฯ ในพื้นที่อ.แม่สอดให้แจ้งเจ้าหน้าที่สาธารณสุขในพื้นที่รับทราบ เพื่อให้คำแนะนำ ควบคุมกำกับให้เป็นไปตามมาตรการป้องกันโรคที่ทางราชการกำหนด

ทั้งนี้หากผู้ใดฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1ปี หรือปรับไม่เกิน 1 แสนบาทหรือทั้งจำทั้งปรับ ทั้งนี้ตั้งแต่วันที่ 25 ตุลาคม 2563 เป็นต้นไปจนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลง

สำหรับประกาศฉบับที่ 2 คือประกาศคำสั่งจังหวัดตาก ที่ 2821/2563 เรื่องการกำหนดพื้นที่และมาตรการในการขนส่งสินค้าข้ามแดน ณ จุดผ่านแดนถาวรสะพานมิตรภาพไทย-เมียนมา แห่งที่ 2 และช่องทางอื่นนอกทางอนุมัติในพื้นที่จังหวัดตาก  โดยกำหนดมาตรการให้มีผลตั้งแต่วันที่ 26 ตุลาคม 2563 ดังนี้

กรณีผู้ขนส่งสินค้าจากไทยไปเมียนมา ณ จุดผ่านแดนถาวรสะพานมิตรภาพไทย-เมียนมา แห่งที่ 2 ผู้ประกอบการต้องจัดให้มีหน้ากากอนามัย ถุงมือยาง ถังขยะสำหรับใส่อุปกรณ์ที่ใช้แล้วให้กับพนักงานขนส่งสินค้า ,พนักงานขับรถขนส่งสินค้าต้องใส่หน้ากากอนามัย ถุงมือยาง กรณีที่สัมผัสสิ่งของทุกประเภทนอกยานพาหนะ และไม่ให้ลงจากยานพาหนะโดยไม่จำเป็น เมื่อเสร็จสิ้นภารกิจจะต้องตรวจคัดกรองตามมาตรการควบคุมโรค และให้ติดตั้งแอปพลิเคชั่นติดตามตัว

กรณีการขนถ่ายสินค้า ณ จุดขนถ่ายสินค้าปลอดภัยคลังสินค้าศุลกากร ให้พนักงานขับรถ พนักงานขนถ่ายสินค้าจากไทยจะต้องลงทะเบียนและคัดกรองตามมาตรการควบคุมโรค และนำพาหนะเข้าไปในพื้นที่ที่กำหนด(T3)โดยการขนถ่ายสินค้าให้ใช้อุปกรณ์รางเลื่อน โดยปฏิบัติตามมาตรการแนบท้าย ส่วนพนักงานขับรถจากเมียนมา ซึ่งอนุญาตให้เพียง 1 คน ต้องลงทะเบียนคัดกรองตามมาตรการควบคุมโรค และปฏิบัติตามมาตรการแนบท้าย

กรณีช่องทางอื่นนอกทางอนุมัติ ตามกฎหมายศุลกากรเฉพาะเพื่อการขนส่งสิค้าข้ามแดนที่ได้รับการผ่อนผัน ให้ผู้ประกอบการดำเนินการขนถ่ายสินค้าลงในพาหนะ เรือโป๊ะ หรือสิ่งอื่นใดที่ใช้ลำเลียงสินค้า ที่ใช้ในการขนส่งสินค้า โดยห้ามบุคคลไม่ให้ไปกับสินค้าโดยเด็ดขาด นอกจากนี้ผู้ประกอบการต้องจัดให้มีผู้รับผิดชอบสถานที่ มีพนักงานประจำจุดขนถ่ายสินค้า จัดให้มีอุปกรณ์ป้องกันโรค เช่น หน้ากากอนามัย ถุงมือยาง สำหรับตรวจให้พนักงานประจำจุด

ทั้งนี้หากผู้ใดฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามต้องวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 1 แสนบาทหรือทั้งจำทั้งปรับตามมาตรา 52 แห่งพ.ร.บ.โรคติดต่อ พ.ศ.2558 และอาจมีความผิดตามมาตรา 18 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี ปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ