ห้างเซฟมาร์ทผนึกซัพพลายเออร์ลดราคาสินค้ากระตุ้นกำลังซื้อ

“ห้างเซฟมาร์ท” ค้าปลีกค้าส่งอุดรฯ ร่วมกับซัพพลายเออร์จัดรายการส่งเสริมการขาย จัดงาน “เซฟมาร์ท เฟสติวัล 2020” หวังกระตุ้นกำลังซื้อชาวอีสาน หลังกำลังซื้อหดอย่างหนักจากผลกระทบวิกฤตเศรษฐกิจ-โควิด-19 ทำร้านค้าช่วงนี้ไม่กล้าสต๊อกสินค้า เหตุระบายสินค้าได้ช้า

พร้อมเผยบรรยากาศการลงทุนอุดรฯซบเซา เหตุผู้ประกอบการส่วนใหญ่มีเงิน แต่ไม่กล้าลงทุน เพราะมีอัตราเสี่ยงสูง เงินที่มีส่วนใหญ่นำไปซื้อทองคำเก็บ เพราะทิศทางราคาดี

นายสุรศักดิ์ สุระวรรณวิจิตร ประธานบริหาร หจก.อึ้งเซ้งเฮง (1994) ผู้บริหารห้างเซฟมาร์ท เซฟพลัส มินิเซฟพลัส ห้างค้าส่ง-ค้าปลีก สินค้าอุปโภคบริโภคท้องถิ่นในจังหวัดอุดรธานี เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า เศรษฐกิจที่ชะลอตัว และผลกระทบจากโควิด-19 ทำให้ตอนนี้สมาคมค้าปลีกค้าส่งทุกคนขายสินค้าราคาต่ำเป็นพิเศษ ปรับลดราคากันจนไม่รู้จะลดพิเศษอย่างไรแล้ว เพื่อกระตุ้นกำลังซื้อ ขณะที่ร้านค้าช่วงนี้ต่างก็ไม่กล้าสต๊อกสินค้า เพราะการระบายสินค้าค่อนข้างช้า

แต่หลังจากการที่รัฐบาลมีนโยบายออกมาตรการมากระตุ้นกำลังซื้อ มีเงินจากภาครัฐเข้ามาสนับสนุน ทำให้แนวโน้มกำลังซื้อปรับตัวดีขึ้น เงินประชารัฐที่เพิ่มเข้ามา ช่วยกระตุ้นตลาด กำลังซื้อคาดเกินกว่า 50%

“เมื่อเร็ว ๆ นี้ห้างเซฟมาร์ทได้จัดงานเซฟมาร์ท เฟสติวัล 2020 ร่วมกับซัพพลายเออร์จัดรายการส่งเสริมการขาย ที่บริเวณห้างเซฟมาร์ท สาขาการเคหะ ถนนเลี่ยงเมือง ขายสินค้าราคาต่ำจนไม่รู้จะต่ำอย่างไร ลดจนไม่รู้จะลดอย่างไร จนไม่รู้ว่าอะไรพิเศษแล้ว ในส่วนของห้างเซฟมาร์ทปีนี้ไม่มีโครงการลงทุนอะไรเพิ่ม

แต่เป็นการปรับปรุงธุรกิจที่มีอยู่แล้วให้ดีขึ้น ได้แก่ ปั๊มน้ำมันบางจากด้านหน้าห้างเซฟมาร์ท สาขาการเคหะ ร้านกาแฟอินทนิล และห้องน้ำ ด้วยงบประมาณ 3-5 ล้านบาท” นายสุรศักดิ์กล่าวและว่า

สำหรับบรรยากาศภาพรวมธุรกิจและการลงทุนในจังหวัดอุดรฯในส่วนของผู้ประกอบการส่วนใหญ่เป็นสมาคมพ่อค้าจีน เป็นธุรกิจเก่าแก่ ตอนนี้ทุกคนไม่ค่อยลงทุน มีแต่ประคับประคองธุรกิจที่มีอยู่ เงินที่มีส่วนใหญ่นำไปซื้อทองคำเก็บ เพราะทิศทางราคาดี ก็ไม่ลำบากอะไร ทุกคนมีเงิน แต่ไม่กล้าลงทุนเพราะอัตราเสี่ยงยังสูง

นายสุรศักดิ์กล่าวต่อไปว่า สำหรับวันสุดท้ายของการจัดงานเซฟมาร์ทเฟสติวัล 2020 ได้จัดกิจกรรมเซฟมาร์ท มาราธอน 2020 ครั้งที่ 7 ซึ่งได้จัดเป็นประจำทุกปี โดยปีนี้มีการจัดแบบนิวนอร์มอล มีการวัดอุณหภูมิร่างกาย ล้างมือด้วยเจลแอลกอฮอล์

โดยได้รับความร่วมมือจากการกีฬาแห่งประเทศไทย สำนักงานอุดรธานี และลดระยะวิ่ง จากเดิม 5.5 กิโลเมตร 11 กิโลเมตร และ 21 กิโลเมตร ให้เหลือเพียง 2 ระยะวิ่ง คือ 5.5 กิโลเมตร และ 11 กิโลเมตรเท่านั้น โดยมีนักวิ่งจากทั่วประเทศ รวมถึงชาวต่างชาติที่อาศัยในประเทศไทย และซัพพลายเออร์ร่วมวิ่ง จำนวน 3,000 คน

ในปีที่ผ่านมาไม่มีสถานการณ์โควิด-19มีนักวิ่งทั้งชาวไทยและต่างชาติเข้าร่วมกิจกรรมกว่า 6,000 คน แต่ปีนี้มีโควิด-19เข้ามา ทำให้ต้องมีมาตรการเข้มข้นในการป้องกัน นอกจากนั้น เซฟมาร์ทถือเป็นภาคเอกชนรายแรกที่นำระบบออนไลน์เข้ามาใช้ในการจับเวลาของนักวิ่ง ซึ่งเมื่อวิ่งเสร็จ นักวิ่งสามารถตรวจสอบรายละเอียด สถิติ การวิ่งของตัวเอง โดยการสแกนคิวอาร์โค้ดด้วยตัวเองได้ ซึ่งคิวอาร์โค้ดจะอยู่บนป้ายที่หน้าอก

ซึ่งรายได้จากการจัดกิจกรรม ทั้งค่าสมัครและซัพพลายเออร์ช่วยสมทบมา ได้นำไปบริจาคให้องค์กรต่าง ๆ อาทิ เหล่ากาชาดจังหวัดอุดรธานี ซึ่งได้รับเกียรติจากนายสยาม ศิริมงคล ผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี ในฐานะนายกเหล่ากาชาดจังหวัดอุดรธานี มารับด้วยตัวเอง จำนวน 100,000 บาท

นอกจากนั้นยังมีมูลนิธิส่งธรรมแห่งอุดรธานี สโมสรฟุตบอลอุดรธานีเอฟซี รวมถึงนักเรียนยากจนจากโรงเรียนที่ตั้งอยู่โดยรอบห้างเซฟมาร์ท รวมไปถึงบุตรหลานของพนักงาน-เจ้าหน้าที่ ในเครืออึ้งเซ้งเฮงที่มีผลการเรียนดี

โดยไฮไลต์ของงาน นอกเหนือจากที่ทางห้างและซัพพลายเออร์ตั้งบูทอาหารและเครื่องดื่มไว้บริการผู้เข้าร่วมกิจกรรมแล้ว ปีนี้จัดเป็นปีที่ 2 ที่นักวิ่งที่เข้าเส้นชัยจะได้รับถุงผ้ารักษ์โลกร้อน และนำถุงผ้าดังกล่าวไปรับของแจกที่ซัพพลายเออร์นำมาตั้งบูทได้