“คนละครึ่ง” ฟีเวอร์ ร้านค้าเมืองตรังยิ้มรับยอดขายพุ่ง 3 เท่าตัว

ร้านอาหารเมืองตรังยิ้มรับ “โครงการคนละครึ่ง” สุดปัง ยอดขายเพิ่ม 2-3 เท่าตัว ผู้ประกอบการตบเท้าเข้าร่วมคึกคัก

นายมงคล คงบัน ผู้ประกอบการร้านกวนนิโต ในพื้นที่ตำบลนาโยงใต้ อำเภอเมืองตรัง จังหวัดตรัง เปิดเผยว่า ทางร้านกวนนิโต สมัครเข้าร่วมโครงการคนละครึ่ง รวมไปถึงโครงการอื่นๆ ของภาครัฐ เช่น โครงการเราเที่ยวด้วยกัน ทำให้มีลูกค้าทั้งลูกค้าใหม่และลูกค้ารายเดิม รวมไปถึงกลุ่มนักท่องเที่ยวแวะเวียนมาอุดหนุนมากขึ้น ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาจังหวัดตรังจัดงานตรังยุทธจักรอาหารอร่อยประจำปี 2563 ทางร้านไปออกบูธภายในงานด้วย และได้รับความนิยมจากประชาชนแวะเวียนมาอุดหนุนเป็นอย่างมาก 

“ทั้งนี้ ทางร้านจะมีการติดป้ายประชาสัมพันธ์แจ้งให้ลูกค้าทราบด้วยว่า ทางร้านเข้าร่วมกับโครงการคนละครึ่ง และมีการประชาสัมพันธ์ผ่านช่องทางต่างๆ ของร้าน เช่น ช่องทางสื่อ Social Media และจากการที่ทางร้านเข้าร่วมกับโครงการคนละครึ่ง ปรากฏว่าทางร้านมียอดขายเพิ่มขึ้นถึง 3 เท่า ซึ่งตนเองอยากให้รัฐบาลส่งเสริมโครงการแบบนี้อีก เพราะนอกจากจะช่วยลดรายจ่ายให้กับประชาชนแล้ว ยังเพิ่มรายได้ให้กับร้านค้าขนาดเล็กอีกด้วย” นายมงคล กล่าว

นางอรรถจราย์ อ่อนเครง ผู้ประกอบการร้านรสเยี่ยม ในพื้นที่ตำบลทับเที่ยง อำเภอเมืองตรัง จังหวัดตรัง เปิดเผยว่า ทางร้านรสเยี่ยมสมัครเข้าร่วมโครงการคนละครึ่ง ตั้งแต่ช่วงแรกของโครงการ ทำให้มีลูกค้าทั้งลูกค้ารายเก่าและลูกค้าหน้าใหม่ๆ แวะเวียนมาอุดหนุนมากขึ้น โดยเฉพาะในช่วงเที่ยงวันจันทร์ถึงวันศุกร์ จะมีลูกค้ามาอุดหนุนเป็นจำนวนมาก โดยลูกค้าที่เข้ามาอุดหนุนจะสอบถามก่อนว่าที่ร้านเข้าร่วมกับโครงการคนละครึ่งหรือไม่ ซึ่งทางร้านเอง ก็มีการติดป้ายประชาสัมพันธ์ไว้บริเวณหน้าร้านเพื่อแจ้งให้ลูกค้าทราบ 

“นอกจากนี้ ผู้ประกอบการร้านรสเยี่ยมได้เปิดเผยเพิ่มเติมว่า ทางร้านดีใจมากที่มีโครงการแบบนี้ เพราะทางร้านจะได้มีลูกค้าเพิ่มขึ้นในการเข้ามาใช้บริการ และทักทายรู้จักชื่อลูกค้าผ่านการใช้งานแอพพลิเคชั่นเป๋าตังอีกด้วย ก็ถือว่าเป็นการใส่ใจลูกค้าไปในตัว และอยากให้รัฐบาลส่งเสริมโครงการแบบนี้อีก เพราะนอกจากจะช่วยลดรายจ่ายให้กับประชาชนแล้ว ยังเพิ่มรายได้ให้กับร้านค้า ผู้ประกอบการรายย่อย ร้านโชวห่วย อีกด้วย” นางอรรถจราย์ กล่าว

นางรัตนา อ่อนคง ผู้ประกอบการร้านมงคลไก่ต้มน้ำปลา ตลาดนาโยง จังหวัดตรัง เปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้ตนเองไม่ได้สมัครเข้าร่วมโครงการคนละครึ่ง แต่เมื่อติดตามข่าวสารผ่านสื่อโทรทัศน์พบว่า ผู้ประกอบการร้านต่างๆ ที่สมัครเข้าร่วมโครงการคนละครึ่ง มียอดขายเพิ่มขึ้น ตนจึงได้สมัครเข้าร่วมโครงการด้วย ซึ่งร้านของตนได้สมัครเข้าร่วมโครงการเมื่อ 2 วันที่ผ่านมา ส่วนขั้นตอนการสมัครนั้นไม่ยุ่งยากเพราะมีเจ้าหน้าที่ของรัฐ เช่น กํานัน ผู้ใหญ่บ้านในท้องที่ ผู้นำชุมชน มาตรวจสอบร้านค้าและลงนามหนังสือรับรอง ก่อนที่ตนจะนำเอกสารไปยื่นที่ทางธนาคารกรุงไทย

“ตั้งแต่ทางร้านสมัครเข้าร่วมโครงการเพียง 2 วัน ทำให้ยอดขายเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัว จากปกติตนเองขายไก่ต้มน้ำปลาได้วันละ 30 ตัว แต่เมื่อสมัครเข้าร่วมโครงการคนละครึ่ง ทำให้ร้านของตนขายไก่ต้มน้ำปลาได้วันละ 60 ตัว จึงอยากให้ภาครัฐมีโครงการดีๆ แบบนี้เพราะจะช่วยให้ร้านค้าหรือผู้ประกอบการขนาดเล็ก มีรายได้เพิ่มขึ้น และช่วยบรรเทาภาระค่าใช้จ่ายของประชาชนที่สมัครเข้าร่วมโครงการด้วย” นางรัตนา กล่าว

ด้านนางจริยา ศรีนวล ผู้ประกอบการร้านเจ๊นกติ่มซำ ในพื้นที่ตำบลทับเที่ยง อำเภอเมืองตรัง จังหวัดตรัง เปิดเผยว่า ทางร้านเจ๊นกติ่มซำ เป็นอีกหนึ่งร้านที่สมัครเข้าร่วมโครงการคนละครึ่ง ซึ่งแต่เดิมก่อนหน้านี้ก็สมัครเข้าร่วมโครงการเราเที่ยวด้วยกัน โดยมีเจ้าหน้าที่จากธนาคารกรุงไทย สาขาตรัง มาอธิบายและแนะนำขั้นตอนการสมัคร ซึ่งการสมัครเข้าร่วมโครงการคนละครึ่งนั้นไม่ยุ่งยาก เนื่องจากทางร้านมีระบบการรองรับการชำระเงินในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์อยู่เดิมแล้ว

“ตั้งแต่ภาครัฐมีโครงการเราเที่ยวด้วยกัน มาจนถึงโครงการคนละครึ่ง ทำให้ยอดขายของร้านเจ๊นกติ่มซำเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัว โดยช่วงเวลาที่ลูกค้าเข้ามาอุดหนุนหนาแน่นจะเป็นช่วงเช้าในวันจันทร์ถึงวันศุกร์ และในช่วงวันหยุดเสาร์ อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ นอกจากนี้ ยังพบว่ามีลูกค้าบางรายมาสอบถามและขอให้ทางร้านเบิกเงินจากระบบ G wallet โดยไม่มีการซื้อขายจริง ซึ่งตนเองก็ได้เตือนลูกค้าว่าไม่สามารถดำเนินการเนื่องจากไม่ใช่เรื่องที่ถูกต้อง เพราะวัตถุประสงค์ของโครงการคนละครึ่งของรัฐบาลนั้น ก็เพื่อบรรเทาเรื่องค่าใช้จ่ายของประชาชนและกระจายรายได้ให้ร้านค้ารายย่อย” นางจริยา กล่าว

ขณะที่ นางสาวสุภากิตติ์ เกลี้ยงสงค์ พาณิชย์จังหวัดตรัง เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่สำนักงานพาณิชย์จังหวัดตรัง ได้ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมร้านค้าธงฟ้าพัฒนาเศรษฐกิจท้องถิ่นในพื้นที่อำเภอเมืองตรังและอำเภอนาโยง จังหวัดตรัง จำนวน 12 ราย เพื่อติดตามผลการจำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภคในโครงการเพิ่มกำลังซื้อให้กับผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ พร้อมประชาสัมพันธ์เชิญชวนให้ร้านค้าธงฟ้า สมัครเข้าร่วมโครงการคนละครึ่ง ตามมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลเพิ่มมากขึ้น

นางสาวสุภากิตติ์ เปิดเผยต่อไปว่า จากการลงพื้นที่พบว่า ร้านค้าธงฟ้าให้ความสนใจสมัครเข้าร่วมโครงการคนละครึ่งเป็นจำนวนมาก แต่บางรายติดปัญหาเรื่องการลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์ www.คนละครึ่ง .com และไม่ทราบว่าขั้นตอนสุดท้ายต้องไปติดต่อธนาคารกรุงไทย เพื่อให้ธนาคารเปิดให้ใช้สิทธิ์ ทำให้ร้านค้ายังไม่สามารถใช้งานโครงการคนละครึ่งได้ ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้แนะนำขั้นตอนการสมัครเข้าร่วมโครงการและกำชับให้ร้านค้าปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ของโครงการอย่างเคร่งครัด ปิดป้ายแสดงราคาจำหน่ายสินค้าให้ชัดเจน 

“รวมทั้ง มีมุมจำหน่ายสินค้าธงฟ้าราคาประหยัด เช่น น้ำมันพืช ข้าวสาร ปลากระป๋องและมุมจำหน่ายสินค้าชุมชน เช่น อาหารทะเลแปรรูป เครื่องแกง ผักสด เป็นต้น อย่างไรก็ตาม สำนักงานพาณิชย์จังหวัดตรัง มีแผนการออกตรวจเยี่ยมติดตามผลการดำเนินงานของร้านค้าธงฟ้าอย่างต่อเนื่อง พร้อมทั้งประชาสัมพันธ์เชิญชวนร้านค้าเข้าร่วมโครงการคนละครึ่งให้ครอบคลุมทุกพื้นที่ 10 อำเภอของจังหวัดตรังต่อไป” นางสาวสุภากิตติ์ กล่าว