ธุรกิจ “เงินด่วน” สะพัดเลือกตั้งนายกฯ อบจ.ภาคใต้

เงินบาท

“เลือกตั้ง อบจ.” ธุรกิจ “เงินด่วน” พื้นที่ภาคใต้ สะพัดหลายพันล้าน ทั้งเงินกู้ ขายฝาก จำนอง แถมวงเงินเดิมพันกระหึ่มทุกตรอกซอกซอย

แหล่งข่าวจากนักการเมืองท้องถิ่นในภาคใต้หลายจังหวัดให้ความเห็นกับ “ประชาชาติธุรกิจ” ตรงกันว่า ขณะนี้การเลือกตั้งตำแหน่งสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัด (สมาชิก อบจ.) และนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.)

ในพื้นที่ภาคใต้หลายจังหวัดมีการแข่งขันกันอย่างดุเดือน ส่งผลให้เงินสะพัดในพื้นที่หลายพันล้านบาทไม่ต่างจากการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) องค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) และเทศบาล (ส.ท.)

ซึ่งถ้ามองในด้านบวกเป็นผลดีต่อการขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานรากที่กำลังซบเซาให้มีเงินหมุนเวียนกระจายไปสู่ประชาชนทุกระดับ เพราะผู้สมัครแต่ละคนมีการลงทุนค่าบริหารจัดการ ค่าบุคลากร แรงงาน และอุปกรณ์ในการหาเสียง ฯลฯ

สำหรับแหล่งที่มาของเงินถ้าเป็นผู้สมัครตำแหน่งนายก อบจ. รองนายก อบจ. จะมีเงินทุนสำรองเตรียมพร้อมไว้ก่อนแล้ว แต่ถ้าเป็นผู้สมัครสมาชิก อบจ. บางคนใช้บริการเงินด่วน มีทั้งประเภทกู้เงิน จำนอง และขายฝาก

ต้องนำทรัพย์สิน เช่น สวนยาง นากุ้ง บ้าน ฯลฯ ไปใช้เป็นหลักทรัพย์เงินกู้ จำนอง และขายฝาก อัตราดอกเบี้ยมีตั้งแต่ร้อยละ 5 ร้อย 7 และร้อยละ 10 ขึ้นกับวงเงินที่กู้กัน โดยเฉลี่ยแต่ละจังหวัดรายละไม่ต่ำกว่า 500,000 บาท

และแต่ละจังหวัดจะมีผู้สมัครเกิน 60 คน เป็นขั้นต่ำ และไม่ต่ำกว่าครึ่งหนึ่งของผู้สมัครจะต้องใช้เงินด่วน ซึ่งในกลุ่มนี้จะส่งผลให้มีเงินหมุนสะพัดในวงการธุรกิจการเงิน เงินกู้ จำนอง และขายฝาก ขั้นต่ำประมาณ 30 ล้านบาท/จังหวัดโดยเฉลี่ย ทั้งจังหวัดขนาดเล็ก ขนาดกลาง และขนาดใหญ่

แหล่งข่าวกล่าวต่อไปว่า ผู้ใช้บริการเงินด่วน ทั้งกู้เงิน จำนอง และขายฝาก สำหรับผู้สอบผ่านการเลือกตั้งจะไถ่ถอนคืน ในส่วนผู้สอบตก บางส่วนใหญ่ก็จะต้องตัดขายสินทรัพย์ที่วางไว้บางส่วนเพื่อชำระหนี้ไป และบางส่วนมีการผ่อนชำระในระยะยาว

นายกู้ชาติ ชายเกตุ ผู้สมัครนายก อบจ.พัทลุง เบอร์ 3 สมัครอิสระ เปิดเผยว่า สำหรับตนใช้เงินทุนในการบริหารจัดการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้ง นายก อบจ. ใช้งบฯลงทุนที่น้อยมาก เพราะไม่มีการลงทุนพิมพ์โปสเตอร์ บัตรขนาดเล็ก แผ่นพับแนะนำตัวผู้สมัคร ขึ้นป้ายขนาดใหญ่แผ่นละ 500 บาท ไม่ใช้รถแห่ และ ฯลฯ

โดยรณรงค์การหาเสียงเลือกตั้ง จะเข้าไปแถลงนโยบายตามพื้นที่ เช่น หอประชุมหมู่บ้าน งานกิจกรรมพิธี สถานที่ประชุมต่าง ๆ เป็นต้น

ทางด้านนายปรีชา กิจถาวร นายกสมาคมการค้าผู้เลี้ยงสุกรภาคใต้ เปิดเผยว่า การเลือกตั้งทุกฤดูกาลทั้ง ส.ส. อบจ. ส.ท. และ อบต. จะมีเงินหมุนเวียนสะพัดจากการรณรงค์หาเสียงของคณะผู้เลือกตั้ง ส่งผลให้ธุรกิจการค้าทุกแขนงได้ขับเคลื่อน โดยเฉพาะภาคปศุสัตว์ เช่น สุกร จะสร้างยอดขายเพิ่มขึ้น

“จากการประชุมคอนเฟอเรนต์ สมาชิกสมาคมผู้เลี้ยงสุกรทั่วประเทศ การบริโภคสุกรจะเพิ่มขึ้นในช่วงฤดูกาลการเลือกตั้ง อบจ. แต่ยังไม่สามารถประเมินตัวเลขได้จนกว่าจะแล้วเสร็จ”

ขณะเดียวกันมีรายงานข่าวว่า บรรยากาศการเคลื่อนไหวที่คึกคักไม่ต่างกันคือในกลุ่มแฟนคลับเดิมพันวงการเมือง โดยเฉพาะในวงการแข่งขันเลือกตั้ง อบจ. มีการเคลื่อนไหววางเดิมพันกันค่อนข้างคึกคัก โดยเฉพาะในส่วนหางคือผู้สมัคร ส.อบจ. ที่จะมาแรงกว่าส่วนหัวคือผู้สมัครนายก อบจ.

ส่วนหาง เริ่มเป็นต่อเป็นรองระหว่าง 2/1 คือ 1,000 บาท กับ 1,500 บาท/ขุม เป็นต้น ส่วนหัวคือผู้สมัครนายก อบจ. มีทั้ง 50/50 ฯลฯ และจะมีการเคลื่อนไหวเดิมพันไปทุกพื้นที่ทุกหมู่บ้าน ชุมชน และตามซอย ซึ่งจะเป็นวงเงินที่ขับเคลื่อนมหาศาลเช่นกันในส่วนนี้

“สำหรับเพดานการเดิมพัน ไม่จำกัดวงเงินในบางกลุ่ม มีตั้งแต่ระดับ 100,000-1,000,000 บาทขึ้นไป ซึ่งเป็นการขับเคลื่อนต่อเนื่องไปจนถึงเวลาปิดหีบการเลือกตั้ง อบจ. ในวันที่ 20 ธันวาคม 2563”