พบหญิงเมียนมา หลบหนีจากโรงพยาบาลตะกั่วป่า เข้าภูเก็ต

ตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดภูเก็ต ยืนยันพบหญิงชาวเมียนมาหลบหนีจากโรงพยาบาลตะกั่วป่ามายังจังหวัดภูเก็ต ในระหว่างเข้ารับการตรวจในโรงพยาบาล ซึ่งเดินทางโดยสารรถประจำทางมาเข้ามายังจังหวัดภูเก็ต ขณะนี้เจ้าหน้าที่ได้ติดตามตัวจนพบและนำส่งโรงพยาบาลวชิระ ภูเก็ต เพื่อทำการตรวจหาเชื้อในห้องปฏิบัติการแล้ว ขณะนี้อยู่ระหว่างการรอผลตรวจ ขอให้อย่าตื่นตระหนก

ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดภูเก็ตว่า เมื่อวันที่ 3 ธ.ค.63 จากกรณีเจ้าหน้าที่งานควบคุมโรค รพ.สต.บ้านน้ำเค็ม และโรงพยาบาลตะกั่วป่า จังหวัดพังงา รายงาน หญิงชาวเมียนมาหลบหนีจากโรงพยาบาลตะกั่วป่ามายังจังหวัดภูเก็ต ในระหว่างเข้ารับการตรวจในโรงพยาบาล หลังเจ้าหน้าที่พบว่ามีค่าอุณภูมิร่างกาย 36.3 องศาเซลเซียส โดยหญิงคนดังกล่าวลักลอบเข้ามาประเทศไทยเมื่อ 3 เดือนที่ผ่านมา

รายงานเหตุเบื้องต้นระบุว่า หญิงชาวเมียนมาคนดังกล่าวไม่มีประวัติชัดเจน เดินทางเข้ามาในพื้นที่หมู่ 2 บ้านน้ำเค็ม ต.บางม่วง อ.ตะกั่วป่า จ.พังงา เมื่อวันที่ 1 ธ.ค. ที่ผ่านมา เวลา 18.25 น. กรรมการพม่าซึ่งอาศัยอยู่ในหมู่บ้านน้ำเค็มได้พบหญิงชาวพม่า 1 คนเข้ามาอยู่ในพื้นที่ซึ่งเป็นคนที่ไม่รู้จัก จึงได้ประสานผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 2 บ้านน้ำเค็ม และเจ้าหน้าที่รพ.สต.บ้านน้ำเค็ม เพื่อเข้าตรวจสอบและคัดกรองความเสี่ยงเบื้องต้น ผลตรวจสอบไม่พบหลักฐานเอกสารใดที่ยืนยันได้ว่าเดินทางมาจากที่ใดตรวจวัดอุณหภูมิร่างกายพบว่ามีค่า 36.3 องศาเซลเซียส ผู้ใหญ่บ้านจึงได้ประสานกับเจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.ตะกั่วป่า ในการดำเนินการตามกฎหมาย โดยใช้รถตำรวจนำตัวส่งสภ.ตะกั่วป่า

ต่อมาในเวลาประมาณ 19.10 น. หญิงคนดังกล่าวมามีอาการปวดท้องเหมือนจะเป็นลมและชักเกร็ง ทางสภ. ตะกั่วป่าจึงได้โทรแจ้ง 1669 เพื่อให้มารับผู้ป่วยเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลตะกั่วป่า จากนั้นเวลา 19.38 น. ซักประวัติเบื้องต้นพบว่าชาวเมียนมารายนี้ลักลอบเข้ามาประเทศไทยประมาณ 3 เดือนที่แล้ว และเข้าทำงานที่จังหวัดภูเก็ตในตลาดสด ซึ่งเนื่องจากประเมินสภาพผู้ป่วยมีความเสี่ยงต่อการหลบหนี รพ.ตะกั่วป่าจึงได้ประสานสภ.ตะกั่วป่า ขอเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อเฝ้าดูแล กระทั่งเวลา 23.10 ผู้ป่วยออกจากรพ.ตะกั่วป่า โดยอาศัยช่วงจังหวะที่เจ้าหน้าที่ประจำตึกประสานการส่งสิ่งส่งตรวจทางห้องปฏิบัติการและการดูแลรักษาผู้ป่วยในห้องทั่วไป

วันที่ 2 ธ.ค. เวลา 9.00 น. จากการลงพื้นที่สืบสวนติดตามของเจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.ตะกั่วป่า พบว่าหญิงรายนี้ได้โดยสารรถประจำทางจากบขส.ตะกั่วป่า มายังจังหวัดภูเก็ต และลงจากรถบริเวณหน้าปั๊มน้ำมัน ก่อนถึงสี่แยกไฟแดงวิทยาลัยเทคโนโลยี จังหวัดภูเก็ต

สำหรับผลการประเมินความเสี่ยงในเบื้องต้นระบุว่า “หญิงรายนี้มีโอกาสเสี่ยงต่อการแพร่โรคต่ำ” แม้ว่าสถานการณ์ระบาดของโควิด-19 ในต่างประเทศยังมีการเกิดโรคระบาดอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะประเทศเมียนมาซึ่งจำเป็นต้องเฝ้าระวังการเข้าออกและผู้ที่มีประวัติเดินทางมาจากประเทศเสี่ยง อย่างไรก็ตามสำหรับกรณีนี้เป็นชาวต่างชาติที่มีประวัติไม่ชัดเจน ประกอบกับได้ลักลอบเข้ามาในประเทศไทยเป็นระยะเวลาประมาณ 3 เดือน จึงมีโอกาสเสี่ยงต่อการแพร่โรคต่ำ

ภายหลังเกิดเหตุ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดพังงา ระบุว่า ไม่ได้มีความนิ่งนอนใจในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นและได้ประสานติดตามเพื่อค้นหาหญิงคนดังกล่าวตามเส้นทางการเดินทาง พร้อมขอความกรุณาจากประชาชนทั่วไปอย่าได้ตื่นตระหนก และขอให้ป้องกันตัวโดยการสวมหน้ากาก เว้นระยะห่างและล้างมือเป็นประจำ

ล่าสุดในช่วงบ่ายของวันนี้ (3 ธ.ค.) พ.ต.ท.นฤวัต พุทธวิโร รอง ผกก.ตม.จว.ภูเก็ต ยืนยันว่า ทางเจ้าหน้าที่ได้พบตัวหญิงคนดังกล่าวแล้ว และได้นำส่งโรงพยาบาลวชิระภูเก็ตเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เพื่อทำการตรวจหาโรคโควิด-19 และอยู่ระหว่างการรอผลตรวจ และขอให้ประชาอย่าได้ตื่นตระหนก สำหรับรายละเอียดเพิ่มเติมทางเจ้าหน้าที่ขออนุญาตไม่เปิดเผย


ทั้งนี้ หากพบเห็นแรงงานต่างชาติหลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย ขอให้แจ้งกับเจ้าหน้าที่แจ้งกับเจ้าหน้าที่หรือผู้นำท้องถิ่นในหมู่บ้าน เพื่อจะได้ร่วมกันเฝ้าระวังกันต่อไป เนื่องจากขณะนี้สถานการณ์ในการระบาดของโรคโควิด-19 ในต่างประเทศยังคงมีการระบาดอย่างต่อเนื่องโดยเฉพาะประเทศเมียนมา จึงจำเป็นต้องมีการเฝ้าระวังการเข้าออกอย่างเคร่งครัด