ภูเก็ตแจงความคืบหน้า 2 โครงการใหญ่แก้จราจร

สนข.ร่วมกับ รฟม.แจงความคืบหน้ารถไฟฟ้ารางเบา คาดเปิดใช้งานปี’69 ส่วนโครงการพิเศษสายกะทู้-ป่าตอง คาดเปิดใช้ปี’70 ช่วยแก้ปัญหาจราจรติดขัด

เมื่อเร็ว ๆ นี้ ว่าที่ร้อยตรีวิกรม จากที่ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เปิดเผยว่า จากการประชุมคณะอนุกรรมการจัดระบบการจราจรทางบก ครั้งที่ 1/2563 ในที่ประชุมได้มีการพิจารณาโครงการสำคัญหลากหลายโครงการ และมีการชี้แจงความคืบหน้า 2 โครงการหลัก ๆ คือ โครงการรถไฟฟ้ารางเบาจังหวัดภูเก็ต และโครงการทางพิเศษกะทู้-ป่าตอง จังหวัดภูเก็ต

สำหรับความคืบหน้าโครงการรถไฟฟ้ารางเบาจังหวัดภูเก็ต มีผู้แทนจากสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) และผู้แทนจากการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ได้ชี้แจงความคืบหน้าว่า

ขณะนี้ทาง รฟม.ได้รับผลการศึกษาและงานออกแบบที่ สนข.ดำเนินการเสร็จแล้ว โดยมีการปรับปรุงรูปแบบให้สอดรับกับสภาพพื้นที่ที่เปลี่ยนแปลงไป ขณะนี้อยู่ระหว่างการศึกษาผู้ร่วมลงทุน

โดยมีเป้าหมายที่จะเพิ่มประสิทธิภาพอำนวยความสะดวกให้เกิดความปลอดภัยและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ส่งเสริมให้ภูเก็ตเป็นเมืองต้นแบบ smart city โดยโครงการรถไฟฟ้ารางเบามีระยะทาง 58.8 กิโลเมตร รวมทั้งหมด 24 สถานี

แบ่งออกเป็น 2 ระยะ คือ ระยะที่ 1 จากท่าอากาศยานภูเก็ตถึงห้าแยกฉลอง ระยะทาง 41.7 กิโลเมตร จำนวนสถานี 21 สถานี ระยะที่ 2 จากบ้านท่านุ่นถึงบ้านเมืองใหม่ ระยะทาง 11.1 กิโลเมตร จำนวนสถานี 3 สถานี

ทั้งนี้ รฟม. ได้ศึกษาวิเคราะห์ให้เอกชนร่วมลงทุนในรูปแบบ PPP ตามพระราชบัญญัติการให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐปี 2562 แล้ว จะต้องนำเสนอเข้าที่ประชุมคณะ ครม. พิจารณาให้ความเห็นชอบในรูปแบบที่ศึกษาไว้ ซึ่งภายในปี 2564 จะได้เริ่มคัดเลือกผู้ร่วมลงทุน คาดว่าจะเริ่มก่อสร้างได้ในปี 2566 และแล้วเสร็จใช้งานได้ปี 2569

ส่วนโครงการทางพิเศษสายกะทู้-ป่าตอง จังหวัดภูเก็ต ผู้แทนจากการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) ชี้แจงความคืบหน้าว่า หลังจากที่เทศบาลเมืองป่าตองได้ศึกษาความเหมาะสมของโครงการดังกล่าวแล้ว ทาง กทพ.ได้ศึกษาความเหมาะสมและออกแบบรายละเอียดพร้อมจัดทำรายงาน PPP และส่งรายงาน EIA ให้สำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (สผ.) พิจารณา

โดยผ่านการประชุมคณะกรรมการนโยบายและมาตรการช่วยเหลือเกษตรกร (คชก.) จำนวน 9 ครั้ง ล่าสุดกรมป่าไม้ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้อนุญาตให้ใช้พื้นที่ป่าเรียบร้อยแล้ว โดยทาง กทพ.จะได้ดำเนินการตามขั้นตอน PPP คาดว่าจะสามารถนำเสนอเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.)

เพื่ออนุมัติให้ กทพ.ลงนามในสัญญาร่วมลงทุนกับเอกชนได้ภายในปี 2565 ภายหลังลงนามในสัญญาร่วมลงทุนกับเอกชนจะได้ดำเนินการก่อสร้างและเปิดให้บริการได้ในปี 2570

สำหรับโครงการทางพิเศษสายกะทู้-ป่าตอง จังหวัดภูเก็ต มีระยะทาง 3.98 กิโลเมตร เริ่มต้นที่ตำบลป่าตอง บริเวณถนนพระเมตตา เป็นทางยกระดับข้ามถนนพิศิษฐ์กรณีย์จนถึงเขานาคเกิดระยะทาง 0.9 กิโลเมตร จากนั้นจะเป็นอุโมงค์ ระยะทาง 1.85 กิโลเมตร

ต่อด้วยทางยกระดับ ระยะทาง 1.23 กิโลเมตร สิ้นสุดโครงการที่ตำบลกะทู้บริเวณจุดตัดกับทางหลวงหมายเลข 4029 หากโครงการนี้แล้วเสร็จจะช่วยแก้ไขปัญหาการจราจรที่ติดขัด ลดสถิติการเกิดอุบัติเหตุที่เกิดขึ้น

อีกทั้งเป็นการอำนวยความสะดวกในการเดินทางของพี่น้องประชาชน พัฒนาคุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ของพี่น้องประชาชนให้ดีขึ้น ตลอดจนเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวของจังหวัดภูเก็ต