เศรษฐกิจภูมิภาค

พิษโควิด ท่องเที่ยว ”กระบี่” เหงา ยกเลิกห้องพัก 30%

โควิดระลอกใหม่ทำบรรยากาศการท่องเที่ยวจังหวัดกระบี่เงียบเหงา ด้านประธานสภาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวกระบี่ เผย นทท.ยกเลิกจองห้องพักแล้ว 20-30% บางส่วนยังรอดูสถานการณ์ วอนภาครัฐเร่งทำความเข้าใจ กระแสข่าวลือล็อคดาวน์ส่งผลกระทบการท่องเที่ยว

วันที่ 27 ธันวาคม 2563 ภายหลังมีการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ระลอกใหม่ ของจังหวัดกระบี่ มีรายงานยืนยันผู้ติดเชื้อ แล้ว8 ราย ผู้สื่อข่าวได้ออกสำรวจบรรยากาศการท่องเที่ยวย่านหาดอ่าวนาง และหาดนพรัตน์ธารา ต.อ่าวนาง อำเภอเมืองกระบี่ แหล่งท่องเที่ยวชื่อดังของจังหวัดกระบี่ เป็นไปอย่างเงียบเหงา มีนักท่องเที่ยวบางตา แม้จะเป็นวันหยุด ร้านค้าย่านหาดอ่าวส่วนใหญ่ยังคงปิดให้บริการ เนื่องจากไม่มีลูกค้า ขณะที่โรงแรมในย่านหาดอ่าวนางก็มีให้บริการเพียงบางแห่งเท่านั้น เนื่องจากไม่มีนักท่องเที่ยวเข้ามาพัก

นายเอกวิทย์ ภิญโญธรรมโนทัย ประธานสภาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวจังหวัดกระบี่ เปิดเผยว่า ภายหลังจากมีการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด19 ระลอกใหม่ ยอมรับส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยวทันที เพราะนักท่องเที่ยวติดตามข่าวสารตลอดก่อนที่ตัดสินใจเดินทางมา ขณะนี้มีนักท่องเที่ยวที่จองไว้ ช่วงเทศกาลปีใหม่ ยกเลิกการจองห้องพักไปแล้ว 20-30 % และมีการโทรศัพท์มาสอบถามเข้ามาจำนวนมากว่า จังหวัดกระบี่มีการล็อคดาวน์ ปิดเมืองหรือไม่ เนื่องจากมีกระแสข่าวลือต่างๆนานา ซึ่งได้ชี้แจงไปว่าในส่วนของสถานที่ท่องเที่ยวยังเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้ามาท่องเที่ยวตามปกติ

นายเอกวิทย์กล่าวอีกว่า อยากให้จังหวัดเร่งทำความเข้าใจ กับนักท่องเที่ยว โดยเฉพาะกระแสข่าวลือในภาพลบที่ออกมาอย่างต่อเนื่อง ขณะนี้ นทท.ที่จองเข้ามายังไม่ได้ยกเลิกทั้งหมด มีเพียง 20-30% เท่านั้นส่วนใหญ่ยังรอดูสถานการณ์

“อยากให้ภาครัฐเร่งทำความเข้าใจว่านักท่องเที่ยวยังสามารถเดินทางเข้ามาแหล่งท่องเที่ยวในกระบี่ได้อย่างปลอดภัย จังหวัดกระบี่ไม่มีการปิดเมือง แต่มีการจำกัดพื้นที่เสี่ยง เช่น พื้นที่ ที่พบผู้ติดเชื้อเดินทางไป ก็ให้หลีกเลี่ยง จุดไหนไปได้ จุดไหนไปไม่ได้ และมีมาตรการป้องกันที่ชัดเจน เช่น มีการคัดกรองวัดอุณหภูมิ ตั้งแต่สนามบิน และก่อนเข้าที่พัก การสวมหน้ากากอนามัย นักท่องเที่ยวสอบถามกันมาจำนวนมาก เช่น มีการคัดกรองวัดอุณหภูมิ ตั้งแต่สนามบิน และก่อนเข้าที่พัก การสวมหน้ากากอนามัย ซึ่งนักท่องเที่ยวสอบถามกันมาจำนวนมาก จึงต้องมีมาตรการที่ชัดเจน