ส่องค้าชายแดนไทยปี’63 แม่สอด-กาญจน์ ซบ “แม่สาย-มุกดาหาร-ช่องจอม” ยอดค้าพุ่ง

การกลับมาแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ระลอกใหม่ที่ทวีความรุนแรงขึ้นทั้งภายในประเทศไทย และประเทศเพื่อนบ้าน ส่งผลต่อยอดการค้าชายแดนของประเทศไทย โดยเฉพาะจังหวัดที่มีพรมแดนติดกับประเทศเมียนมา

เช่น จังหวัดกาญจนบุรี ประกาศปิดทุกด่าน ทั้งด่านถาวรบ้านพุน้ำร้อน และจุดผ่อนปรนทางการค้าด่านพระเจดีย์สามองค์ และช่องทางผ่านแดนที่เป็นช่องทางธรรมชาติ เนื่องจากเกรงโควิดจะแพร่ระบาดหนักเข้ามา

ขณะที่ด่านชายแดนแม่สอด จังหวัดตาก ยังเปิดนำเข้า-ส่งออกปกติ แต่ยอดการค้าชายแดนขยายตัวในอัตราที่ชะลอลงถึงขั้นติดลบ แต่ในทางตรงกันข้าม ด่านแม่สาย จ.เชียงราย ทางภาคเหนือของไทย ซึ่งมีชายแดนติดกับเมียนมา

ยอดการส่งออกยังเพิ่มขึ้น เพราะถือเป็นเมืองหน้าด่านที่ส่งผ่านสินค้าไปยัง สปป.ลาว และจีนตอนใต้ด้วย เช่นเดียวกับจังหวัดมุกดาหาร และด่านช่องจอม จังหวัดสุรินทร์ ยอดการค้าชายแดนพุ่งขึ้นหลายเท่าตัว เนื่องจากความต้องการสินค้าอุปโภคบริโภคในประเทศเพื่อนบ้านเพิ่มสูงขึ้น

“แม่สอด” ส่งออกติดลบ 10%

นายประเสริฐ จึงกิจรุ่งโรจน์ ประธานหอการค้าจังหวัดตาก เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า ขณะนี้การนำเข้า-ส่งออกสินค้าชายแดนใน อ.แม่สอด จ.ตาก ยังสามารถทำการได้เป็นปกติ แต่อยู่ในอัตราที่ชะลอลง โดยเฉพาะด้านการส่งออกชะลอลงตั้งแต่เดือนธันวาคม 2563 สาเหตุมาจากหลายปัจจัย

อาทิ การระบาดระลอกใหม่ของโรคติดเชื้อโควิด-19 ความไม่แน่นอนของการเมืองในเมียนมา และเรื่องค่าเงิน เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว การส่งออกในเดือนพฤศจิกายน 2563 มีมูลค่าประมาณ 6,200 ล้านบาท ถือว่ามากกว่าเดือนพฤศจิกายน 2562 ที่มีมูลค่าประมาณ 6,000ล้านบาท เพิ่มขึ้นประมาณ 200 ล้านบาท แต่มูลค่าการส่งออกทั้งปียังติดลบ 10%

“ตั้งข้อสังเกตว่าอาจจะเป็นเพราะได้รับผลกระทบต่อเนื่องตั้งแต่เดือนตุลาคม 2563 ที่มีการระงับการนำเข้า-ส่งออกอยู่ 7 วัน ทำให้ตัวเลขในเดือนตุลาคมหายไปประมาณ 48% แล้วตัวเลขที่ค้างอยู่ตรงนั้นมันดันทะลุเข้ามาเดือนพฤศจิกายน 2563 แทน โดยเฉลี่ยแล้วถ้าเป็นเหตุการณ์ปกติก็ไม่ได้ถือว่าเยอะไปกว่าเดือนพฤศจิกายน 2562”

ด้านมูลค่าการส่งออกรวมปี 2563 ประมาณ 57,000 ล้าน จากที่คาดการณ์ว่าจะอยู่ที่ 70,000 ล้าน เมื่อเทียบกับมูลค่าการส่งออกทั้งปีของปี 2562 ที่มีมูลค่ากว่า 64,000 ล้าน ซึ่งหายไปประมาณ 10% จากการประเมินมูลค่าการส่งออกจนถึงสิ้นปี 2563 คาดว่าจะอยู่ที่ประมาณ 63,000 ล้าน โดยประมาณ สินค้าส่งออกหลัก ๆ คือ เครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ จักรยานยนต์ ภาพพิมพ์ฝ้าย นมถั่วเหลือง ยารักษาโรคน้ำมันดีเซล

ส่วนการนำเข้าสินค้าในปี 2563 ถือว่ามีมูลค่ามากกว่าปีที่แล้ว เนื่องจากมีการนำเข้าข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ทำให้มูลค่าการนำเข้าสินค้าในเดือนพฤศจิกายน 2563 ประมาณ 10,500 ล้านบาท ซึ่งมูลค่าการนำเข้าสินค้าในปี 2562 อยู่ที่ประมาณ 9,200 ล้าน ดุลการค้าในปี 63 ถือว่าขาดดุล

ในส่วนของมาตรการการควบคุมการข้ามพรมแดน ทางจังหวัดตากจะมีด่านสกัดอยู่ทุกจุด หากรถที่มาจากมหาชัย อาทิ รถตู้ที่แรงงานชาวเมียนมาที่เข้ามาอย่างถูกต้องตามกฎหมาย หรือผู้ที่มีพาสปอร์ตโดยสารมาเพื่อกลับไปประเทศเมียนมาช่วงปีใหม่ ทหารรักษาพรมแดนจะเป็นผู้ไปส่ที่สะพาน 2 ทันที

เพื่อไม่ให้มีการลงระหว่างทาง ส่วนที่ 2 คือเรื่องของรถขนส่งอาหารทะเลที่มายังด่านชายแดนจะต้องทำการตรวจสอบและต้องเข้าด่านเฉพาะกิจ ซึ่งจะมีการตรวจทุกคนทั้งคนที่มารับและคนที่มาส่งทุกครั้ง

กาญจนบุรีส่งออกลด 30%

นายบุญชู วิวัฒนาทร ประธานหอการค้าจังหวัดกาญจนบุรี เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า ภาพรวมมูลค่าการค้าชายแดนของจังหวัดกาญจนบุรีปี 2563 พบว่า การส่งออกมีมูลค่า 1,146,511,353 บาท เมื่อเทียบกับปีก่อนลดลงกว่า 30% หรือประมาณ 322,898,787 บาท โดpปี 2562

การส่งออกมีมูลค่า 1,469,410,140 บาท สินค้าส่งออกส่วนใหญ่เป็นสินค้าอุปโภคบริโภค เช่น กุ้งขาวแช่เย็น, บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป, ปลาสละแช่เย็น, ชิ้นส่วนเนื้อไก่, เครื่องในไก่, เครื่องปรุงสำเร็จรูป, น้ำมันถั่วเหลือง ฯลฯ

ส่วนการนำเข้าช่วงปี 2563 มีมูลค่า 5,079,487,689 บาท เทียบกับปี 2562 มีมูลค่า 78,433,159,984 บาท พบว่า ลดลงกว่า 73,353,672,255 บาท สินค้านำเข้าส่วนใหญ่ ได้แก่ ก๊าซธรรมชาติ

หอมแดงพม่า, อาหารทะเล, ปลาอินทรีหมักเกลือ, ปลาหมึกกระดองแช่เย็นฯลฯ ทั้งนี้ สาเหตุที่การนำเข้าลดลง เนื่องจากได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19

ปัจจุบันหลังจากมีการแพร่ระบาดโรคโควิด-19 ระลอกใหม่ ทางจังหวัดกาญจนบุรีมีมาตรการเข้มงวด โดยมีคำสั่งปิดด่านนำเข้าและส่งออกสินค้าทั้งด่านถาวรบ้านพุน้ำร้อน และจุดผ่อนปรนทางการค้าด่านพระเจดีย์สามองค์ และช่องทางผ่านแดนที่เป็นช่องทางธรรมชาติ ตั้งแต่วันที่ 23 ธันวาคม 2563 จนถึงวันที่ 4 มกราคม 2564 เป็นเวลา 14 วัน เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 รวมถึงความกังวลที่มีต่อสินค้านำเข้าจากเมียนมา

จีน-ลาวปิดส่งออกแม่สายพุ่ง

น.ส.ผกายมาศ เวียร์รา รองประธานหอการค้า จ.เชียงราย และประธานหอการค้า อ.แม่สาย เปิดเผยว่า ในปีงบประมาณ 2563 นี้ มีมูลค่าการค้าชายแดนผ่านด่านศุลกากรแม่สาย ไปยังรัฐฉาน ประเทศเมียนมา เป็นมูลค่ารวม 11,885.88 ล้านบาท แยกเป็น การส่งออกมูลค่า 10,462.43 ล้านบาท ส่วนใหญ่เป็นสินค้าอุปโภคบริโภค น้ำมันเชื้อเพลิง ฯลฯ และสินค้านำเข้ามีมูลค่า 1,423.45 ล้านบาท

ส่วนใหญ่เป็นสินค้าทางการเกษตร ขณะที่ในเดือน ต.ค. 2563 พบว่า มีมูลค่าการค้ารวม 1,032.906 ล้านบาท แยกเป็น การส่งออกมูลค่า 1,020.630 ล้านบาท และนำเข้ามูลค่า 12.276 ล้านบาท และเดือน พ.ย. 2563 มีมูลค่าการค้าแยกเป็น การส่งออกมูลค่า 971.933 ล้านบาท และนำเข้ามูลค่า 58.237 ล้านบาท

น.ส.ผกายมาศกล่าวว่า สำหรับภาพรวมตัวเลขการค้าชายแดนทุกด่านของ จ.เชียงราย ทั้งด่านศุลกากรแม่สาย ด่านศุลกากรเชียงแสน และด่านศุลกากรเชียงของ ถือว่าดีมาก แม้ว่าที่ด่านศุลกากรเชียงแสน ซึ่งมีการค้าทางเรือในแม่น้ำโขงมีมูลค่าลดลงอย่างมากเมื่อเปรียบเทียบกับปีก่อน แต่ตัวเลขมูลค่าการค้าไปปรากฏเพิ่มทางด่านศุลกากรแม่สาย และด่านศุลกากรเชียงของแทน

เนื่องจากประเทศเพื่อนบ้านและจีนยังมีความต้องการสินค้าไทยในปริมาณมาก ส่วนสาเหตุที่การค้าด้านแม่น้ำโขงลดลงเพราะหลังมีวิกฤตไวรัสโควิด-19 ในประเทศจีน มีการปิดท่าเรือกวนเหล่ยซึ่งเป็นเมืองท่าหน้าด่านของจีนในแม่น้ำโขง และด่าน 240 เชื่อมระหว่างเมืองลาว ประเทศเมียนมา กับจีนตอนใต้ ทำให้สินค้าไทยที่จะส่งไปทางด้านนี้ไม่สามารถทำได้ ต่อมาทางการ สปป.ลาว มีการปิดท่าเรือทุกแห่งและห้ามการเดินเรือสินค้า ทำให้ไม่มีเรือสัญชาติลาวออกให้บริการ

ด้านด่านศุลกากรเชียงแสนแจ้งว่า มูลค่าการค้าจนถึงสิ้นปีงบประมาณ 2563 มีมูลค่า 8,332.8 ล้านบาท แยกเป็น การส่งออกมูลค่า 7,699.64 ล้านบาท ส่วนใหญ่เป็นโคและกระบือมีชีวิต น้ำมันเชื้อเพลิง ชิ้นส่วนไก่แช่แข็ง สุกรมีชีวิต รถยนต์ ฯลฯ และนำเข้ามูลค่า 633.16 ล้านบาท

ส่วนใหญ่เป็นเมล็ดทานตะวัน มันฝรั่ง กระเทียมอบแห้ง กระเทียมสด ฯลฯ ส่วนด่านศุลกากรเชียงของแจ้งว่า ในช่วงเวลาเดียวกันมีมูลค่าการค้ารวม 26,495.92 ล้านบาท แยกเป็น การส่งออกมูลค่า 18,516.42 ล้านบาท ส่วนใหญ่เป็นผลไม้สด วัสดุก่อสร้าง เครื่องอุปโภคบริโภค น้ำมันเชื้อเพลิง ฯลฯ และนำเข้ามูลค่า 7,979.5 ล้านบาท ส่วนใหญ่เป็นผักสด ผลไม้สด ไม้ดอกไม้ประดับ ฯลฯ

ส่งออกมุกดาหารพุ่ง 21%

ด้าน นายพร้อมชาย สนิทวงศ์ ณ อยุธยา นายด่านศุลกากรมุกดาหาร เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า ตอนนี้สถานการณ์ของด่านมุกดาหารทุกอย่างยังเป็นปกติ การนำเข้าส่งออกคึกคัก ตัวเลขการค้าไม่ได้ตกลงแต่อย่างใด เรียกได้ว่าไม่เจอผลกระทบการระบาดรอบใหม่ของโรคโควิด-19 ที่มาจาก จ.สมุทรสาครเลย ด่านชายแดนยังคงปิดทำการ โดยคงมาตรการเดิมให้ขนส่งผ่านเข้า-ออกเฉพาะสินค้าได้

สำหรับมูลค่าการค้าช่วงเกิดโควิด-19 ตั้งแต่เดือนมีนาคม-พฤศจิกายน 2563 มูลค่านำเข้าอยู่ที่ 102,000 ล้านบาท มีอัตราขยายตัวเพิ่มขึ้น 25% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยปี 2562 การนำเข้ามีมูลค่า 81,000 ล้านบาท โดยสินค้านำเข้าสูงสุด เช่น ชิ้นส่วนอุปกรณ์โทรศัพท์ ด้านมูลค่าการส่งออกเดือนมีนาคม-พฤศจิกายน 2563 อยู่ที่ 112,000 ล้านบาท มีอัตราขยายตัวเพิ่มขึ้น 21% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยในปี 2562 การส่งออกมีมูลค่า 93,000 ล้านบาท สินค้าส่งออกสูงสุด เช่น ฮาร์ดดิสก์ อุปกรณ์อิเล็กทอร์นิกส์

“คาดการณ์ว่าจนถึงช่วงปีใหม่สถานการณ์ของด่านมุกดาหารยังมีการนำเข้า-ส่งออกปกติไม่ลดลง ภาวะการค้าชายแดนของด่านดีขึ้น เพราะประเทศเพื่อนบ้านยังต้องใช้สินค้าอุปโภคบริโภคจากฝั่งเรา การส่งออกสินค้าอุปโภคบริโภคส่งออกไปเยอะ เพียงแต่ไม่อยู่ในอันดับต้น ๆ เพราะมูลค่าสินค้าอุตสาหกรรมจะสูงกว่า คนขับรถขนส่งสินค้าก็สามารถข้ามไปได้ เพียงแต่มีระยะเวลาจำกัดและพื้นที่จำกัดทั้งฝั่งไทยและฝั่ง สปป.ลาว แต่อย่างไรก็ตาม ทางจังหวัดมีมาตรการตรวจสอบตามสถานที่ต่าง ๆ เข้มข้นขึ้น พร้อมปฏิบัติตามมาตรการจังหวัดอย่างเคร่งครัดและรอดูท่าทีของสถานการณ์ต่อไป”

ส่งออก “ช่องจอม” พุ่ง 8 พันล้าน

นายธนิต วัฒน์ธนนันท์ นายด่านศุลกากรช่องจอม จ.สุรินทร์ เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า สถานการณ์ภาพรวมของด่านช่องจอมตั้งแต่ช่วงไตรมาสแรกของปีงบประมาณ 2564 (เดือนตุลาคม-พฤศจิกายน 2563) การนำเข้า-ส่งออกสินค้าถือว่าทรงตัว แต่ในเดือนธันวาคม 2563 มีการชะลอตัวลงเล็กน้อย โดยในปีงบประมาณ 2563 มูลค่าการส่งออกกว่า 13,563 ล้านบาท

เทียบกับช่วงเดียวกันปี 2562 ที่มีมูลค่าการส่งออก 5,013 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากเดิม 2 เท่า เนื่องจากประเทศกัมพูชาและเวียดนามมีความต้องการสินค้าอุปโภค-บริโภคของไทยเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะสุกรมีชีวิตที่มียอดการส่งออกกว่า 90,000 ตัน/ปี มูลค่ารวมกว่า 7,186 ล้านบาท/ปี เพราะมีการแพร่ระบาดของโรคอหิวาต์แอฟริกันในสุกร (ASF) จึงจำเป็นต้องนำเข้าสุกรเป็นจำนวนมาก ขณะที่การนำเข้าปี 2563 มีมูลค่า 3,335.589 ล้านบาท เทียบกับปี 2562 มีมูลค่าการรนำเข้า 2,702.117 ล้านบาท

“ในหลายพื้นที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19 แต่ภาพรวมการส่งออกของด่านช่องจอม ไม่ถึงกับกระทบมากเพราะยังสามารถนำเข้า-ส่งออกได้ตามปกติ แต่จะส่งผลกระทบกับประชาชนที่ซื้อขายตามแนวชายแดนมากกว่า เพราะไม่สามารถข้ามมาซื้อของในประเทศไทยได้ ดังนั้นการจัดส่งสินค้าก็ต้องทำเต็มรูปแบบ นอกจากนี้ สินค้าส่งออกส่วนใหญ่เป็นอาหารแห้ง อาหารสำเร็จรูป ของสดไม่ค่อยมี”


“สำหรับสินค้าส่งออกหลักของด่านช่องจอม ในปีงบประมาณ 2563 ได้แก่ สุกรมีชีวิต เครื่องดื่มชาเขียว น้ำอัดลม เครื่องดื่มชูกำลัง นมยูเอชที นมถั่วเหลือง อาหารแช่แข็ง อาหารกระป๋อง ลูกชิ้นไส้กรอกแปรรูป น้ำผลไม้รวม บะหมี่ถ้วยกึ่งสำเร็จรูป ฯลฯ ในส่วนของสินค้านำเข้าหลักจะเป็นสินค้าทางการเกษตร อาทิ มันสำปะหลังตากแห้ง มันสำปะหลังสด มะม่วง พริกสด ฯลฯ ส่วนด้านมาตรการควบคุมการส่งออกเป็นไปตามมาตรฐานที่สาธารณสุขกำหนด เพราะสินค้าส่งออกที่ผิดกฎหมายมีน้อย ส่วนใหญ่สินค้าที่ควบคุมจะต้องมีใบรับรองคุณภาพจากหน่วยงานต่าง ๆ อยู่แล้ว”