“Road Trip” ภาคเหนือคึกคัก ยอดดอยฟื้นวิกฤตโควิด-19 วันหยุดยาว

สถานการณ์ท่องเที่ยวภาคเหนือตอนบนยังประคองตัวได้ แม้มีโควิด-19 เป็นปัจจัยเสี่ยงสำคัญ นักท่องเที่ยวยังคงตั้งเป้าเดินทางไปเยือนตามสถานที่ต่าง ๆ ในช่วงวันหยุดยาวส่งท้ายปี 2563 ต่อเนื่องมาถึงช่วงต้นปี 2564 อย่างคึกคัก

เนื่องจากการแพร่ระบาดได้กระจายไปยังภาคกลาง ตะวันออก และ กทม.ทำให้นักท่องเที่ยวส่วนหนึ่งเลือกเดินทางไปสัมผัสความหนาวเย็นในพื้นที่ภาคเหนือ หลังจากข่าวโควิดเบาบางลง

โครงการรัฐกระตุ้นเที่ยวเหนือ

“วิสูตร บัวชุม” ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานลำปาง เปิดเผยว่า ในช่วงต้นปีหน้าระหว่างเดือนมกราคม-มีนาคม 2564 คาดการณ์ว่าสถานการณ์การท่องเที่ยวของจังหวัดลำปาง และจังหวัดลำพูน มีแนวโน้มดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง จ

ากนโยบายส่งเสริมการท่องเที่ยวที่ดำเนินการอย่างต่อเนื่องจากไตรมาส 4 ปี 2563 อีกทั้งเดือนมกราคม-กุมภาพันธ์ 2564 ยังอยู่ในช่วงฤดูการท่องเที่ยวของภาคเหนือ เบื้องต้นคาดการณ์ว่าจำนวนนักท่องเที่ยวโดยรวมในพื้นที่ไตรมาส 1 ปี 2564 (เดือนมกราคม-มีนาคม 2564)

จะมีผู้เยี่ยมเยือนประมาณร้อยละ 80 เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา ซึ่งมีปัจจัยบวกจากการจัดกิจกรรมของหน่วยงานต่าง ๆ ที่ยังคงมีอย่างต่อเนื่อง

“สถานการณ์การท่องเที่ยวช่วงเดือนตุลาคม-ธันวาคม 2563 ของจังหวัดลำปาง และจังหวัดลำพูน อยู่ในสถานการณ์ที่ดี โดยเฉพาะอัตราการเข้าพักแรมของสถานที่พัก มีอัตราการเข้าพักเพิ่มขึ้นใกล้เคียงก่อนการเกิดการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19 โดยมีปัจจัยสนับสนุนต่าง ๆ

ได้แก่มาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวและเศรษฐกิจของรัฐบาล อาทิ โครงการ ‘เราเที่ยวด้วยกัน’ โครงการ ‘กำลังใจ’ และ ‘โครงการคนละครึ่ง’ ซึ่งเป็นการกระตุ้นการเดินทางออกมาเที่ยวของนักท่องเที่ยวชาวไทยได้เป็นอย่างดี และก่อให้เกิดการกระจายรายได้สู่ภาคประชาชนและธุรกิจในชุมชนมากขึ้น”

ส่วนนโยบายส่งเสริมการท่องเที่ยวของ ททท.ที่ได้จัดขึ้นในพื้นที่ ได้แก่ การจัดกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวทางรถไฟจากจังหวัดเชียงใหม่ เดินทางมาท่องเที่ยวจังหวัดลำปางและลำพูน

ทุกวันอาทิตย์ของเดือนตุลาคม-ธันวาคม 2563 มีต่อเนื่องไปจนถึงเดือนกุมภาพันธ์ 2564 รวมถึงการเปิดฤดูกาลท่องเที่ยวจังหวัดลำปาง ภายใต้แคมเปญ แอ่วลำปางพลัสลำพูน ม่วนแต้หนา และลำปางเที่ยวได้ 365 วัน ส่วนจังหวัดลำพูนก็มีการจัดงานเทศกาลโคมแสนดวง, งานแสงสี ลำพูนริเวอร์เฟสติวัล 2020 เป็นต้น

อย่างไรก็ตาม ยังคงมีปัจจัยลบจากสถานการณ์เชื้อไวรัส COVID-19 ในต่างประเทศที่ยังแพร่ระบาดอย่างรุนแรง ส่งผลกระทบต่อการเดินทางของนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศ เบื้องต้นคาดการณ์ว่าจำนวนนักท่องเที่ยวในพื้นที่จังหวัดลำปางและลำพูน

ไตรมาส 4 ปี 2563 (เดือนตุลาคม-ธันวาคม 2563) จะลดลงประมาณร้อยละ 8-12 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา

เชียงใหม่-แม่ฮ่องสอนคึกคัก

“ภัคนันท์ วินิจชัย” ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานเชียงใหม่ กล่าวว่า ในช่วงเดือนมกราคม-ตุลาคม 2563 จังหวัดเชียงใหม่มีนักท่องเที่ยวรวม 4,121,093 คน เป็นคนไทย 3.5 ล้านคน ลดลง 36% และเป็นต่างประเทศประมาณ 5 แสนคน ลดลง 80% รายได้หมุนเวียนในพื้นที่ลดลงเหลือ 36,065 ล้านบาท

หรือลดลง 57% เมื่อเทียบกับปี 2562 และได้ประมาณว่าในช่วงปลายปีต่อถึงต้นปี 2564 จะยังคงมีนักท่องเที่ยวใช้รถส่วนตัวเดินทางมาท่องเที่ยวจำนวนมากในหลายพื้นที่ ขณะที่สายการบินได้เพิ่มเที่ยวบินช่วงปีใหม่มากขึ้น คาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวเข้ามาท่องเที่ยวเชียงใหม่คึกคักขึ้นเช่นกัน

“โยธิน ทับทิมทอง” ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานแม่ฮ่องสอน คาดการณ์ว่า สถานการณ์ท่องเที่ยวตั้งแต่เดือนธันวาคม 2563 ถึงต้นปี 2564 นี้จะได้รับผลดีอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ยังมีปัจจัยจากนโยบายรัฐบาลที่เอื้อต่อการท่องเที่ยวในประเทศได้เป็นอย่างดี

โดยพฤติกรรมนักท่องเที่ยวไทยที่มาท่องเที่ยวจังหวัดแม่ฮ่องสอน กว่า 90% นิยมขับรถมาท่องเที่ยว road trip เป็นกลุ่มครอบครัว เพื่อน ผู้สูงวัย และเดินทางมากับบริษัทนำเที่ยว ส่วนใหญ่มาจากภาคเหนือ กรุงเทพฯ และภูมิภาคอื่น ๆ

โดยแหล่งท่องเที่ยวที่ได้ความสนใจ อาทิ อำเภอปาย และถนนคนเดิน อำเภอเมืองแม่ฮ่องสอน บ้านรักไทย ปางอุ๋ง ทุ่งบัวตอง และอำเภอแม่สะเรียง

ด้านแผนงานในปี 2564 จะเน้นกระตุ้นการท่องเที่ยวตลาดระยะใกล้ภายในภูมิภาคภาคเหนือ พร้อมกับกระตุ้นตลาดท่องเที่ยวระยะไกล เจาะกลุ่มตลาดการท่องเที่ยวคุณภาพ คาดว่าช่วงวันหยุดยาวช่วงปีใหม่ของจังหวัดแม่ฮ่องสอนนั้น

มีอัตราการพักเฉลี่ยอยู่ประมาณ 80-90% ปัจจัยสนับสนุนก็มาจากสภาพอากาศที่เริ่มเย็น มีความเป็นธรรมชาติ เส้นทางขับรถเที่ยวที่น่าสนใจ มีจุดชมวิวทะเลหมอก และทำให้เกิดการเดินทางท่องเที่ยวเชื่อมโยงภายในจังหวัด

นอกจากนี้ ยังมีการเปิดเส้นทางบินของนกแอร์ จากกรุงเทพฯ (ดอนเมือง) สู่สนามบินแม่ฮ่องสอน ไป-กลับ และจากเชียงใหม่ในต้นปีนี้ ซึ่งจะทำให้นักท่องเที่ยวกลุ่มคุณภาพที่มีกำลังซื้อตัดสินใจเดินทางท่องเที่ยวได้ง่ายขึ้น

เชียงรายคนแห่ขึ้นดอยนับพัน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงวันหยุดยาวตั้งแต่วันที่ 31 ธ.ค. 2563-3 ม.ค. 2564 บรรยากาศการท่องเที่ยวใน จ.เชียงราย คึกคักขึ้นกว่าเดิม เนื่องจากสภาพอากาศที่หนาวเย็น นักท่องเที่ยวนิยมเดินทางขึ้นไปชมความงดงามของขุนเขาต่าง ๆ เช่น ภูชี้ฟ้า ดอยตุงดอยผาตั้ง ดอยช้าง-ดอยวาวี ฯลฯ

ซึ่งมีอุณหภูมิต่ำสุดในช่วงเช้า 5-7 องศาเซลเซียส และตามพื้นราบอุณหภูมิต่ำสุดเฉลี่ย 10-12 องศาเซลเซียส โดยเฉพาะที่ภูชี้ฟ้าพบว่ามีนักท่องเที่ยวไปชมทะเลหมอกและพระอาทิตย์ในช่วงเช้า วันละประมาณ 2,000 คน

ส่วนบนดอยช้าง ต.วาวี อ.แม่สรวย พบว่าพญาเสือโคร่ง หรือดอกซากุระเมืองไทย ได้ผลิดอกสีชมพูเบ่งบานตามจุดต่าง ๆ อย่างงดงาม โดยเฉพาะบริเวณศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตรที่สูงเชียงราย (วาวี) ดอยช้าง

ตามถนนทางเข้าสู่หมู่บ้านดอยช้าง และภายในหมู่บ้าน สร้างความประทับใจให้กับนักท่องเที่ยวที่ไปเยือนในช่วงนี้เป็นอย่างมาก

“อนุรัตน์ อินทร” ประธานหอการค้า จ.เชียงราย กล่าวว่า สถานการณ์ในพื้นที่ จ.เชียงราย ดีขึ้นตามลำดับ ทำให้นักท่องเที่ยวมีความเชื่อมั่นและมีการเดินทางเข้าไปท่องเที่ยวในเชียงรายมากขึ้นบ้างแตกต่างจากช่วงที่มีการพบผู้ติดเชื้อครั้งแรก ๆปัจจุบันจึงทำให้กิจการต่าง ๆ เริ่มฟื้นตัว อย่างไรก็ตาม ก็ยังคงต้องเฝ้าระวังและขอให้ทุกฝ่ายได้ป้องกันตัวตามหลักสาธารณสุขกันอย่างเข้มงวดด้วย