ต่างชาติลงทุน 5 ภาค 1.1 แสนล้าน อุตฯเครื่องใช้ไฟฟ้าแชมป์

รูปประกอบข่าวการลงทุน-หุ้น-หุ้นกู้
ดาต้าภูธร

สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) ได้รายงานสถิติการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศรายเดือนสะสมปี 2563 ตั้งแต่เดือนมกราคม-กันยายน 2563 พบว่ามีโครงการยื่นขอส่งเสริม 657 โครงการ มูลค่าเงินลงทุน 118,504 ล้านบาท

ซึ่งเมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปี 2562 พบว่า มีจำนวนโครงการลดลง 1% ขณะที่มูลค่าเงินลงทุนลดลงกว่า 29%

ทั้งนี้ เมื่อแยกรายภูมิภาคจะเห็นว่า โครงการที่นักลงทุนต่างชาติยื่นส่งเสริมการลงทุน อยู่ในภาคกลาง 44% มี 289 โครงการ เงินลงทุน 36,251 ล้านบาท รองลงมาคือ ภาคตะวันออก 42% มี 275 โครงการ เงินลงทุน 68,785 ล้านบาท

ตามมาด้วยภาคเหนือ 6% มี 38 โครงการ เงินลงทุน 4,324 ล้านบาท ส่วนภาคใต้มีสัดส่วนประมาณ 4% มี 24 โครงการ เงินลงทุน 1,199 ล้านบาท ด้านภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 2% มี 17 โครงการ เงินลงทุน 2,072 ล้านบาท

และภาคตะวันตก 1% มี 11 โครงการ เงินลงทุน 1,330 ล้านบาท นอกจากนี้ ยังมีโครงการอื่น ๆ ซึ่งเป็นกิจการที่ไม่มีที่ตั้งแน่นอนอีก 1% ทั้งหมด 3 โครงการ เงินลงทุน 4,542 ล้านบาท

ขณะเดียวกันเป็นโครงการที่ยื่นขอรับการส่งเสริมใน 10 อุตสาหกรรมเป้าหมายทั้งหมด 345 โครงการ มูลค่า 81,646 ล้านบาท ได้แก่ 1.เครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ 91 โครงการ 31,694 ล้านบาท 2.อุตสาหกรรมดิจิทัล 80 โครงการ เงินลงทุน 649 ล้านบาท

3.ยานยนต์และชิ้นส่วน 61 โครงการ เงินลงทุน 19,1217 ล้านบาท 4.ปิโตรเคมีและเคมีภัณฑ์ 40 โครงการ เงินลงทุน 9,906 ล้านบาท 5.การเกษตรและการแปรรูปอาหาร 32 โครงการ เงินลงทุน 6,891 ล้านบาท 6.การแพทย์ครบวงจร 24 โครงการ เงินลงทุน 2,149 ล้านบาท7.ระบบอัตโนมัติและหุ่นยนต์

6 โครงการ เงินลงทุน 237 ล้านบาท 8.การท่องเที่ยว 5 โครงการ เงินลงทุน 4,746 ล้านบาท 9.เทคโนโลยีชีวภาพ 4 โครงการ เงินลงทุน 5,869 ล้านบาท และ 10.อากาศยาน 2 โครงการ เงินลงทุน 244 ล้านบาท ตามลำดับ

ส่วนโครงการที่ขอยื่นขอรับการส่งเสริมการลงทุนในเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษชายแดน จำนวน 3 โครงการ มูลค่ารวม 62 ล้านบาท ได้แก่ กิจการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ที่ติดตั้งบนหลังคา ตั้งอยู่ที่จังหวัดเชียงรายและตาก กิจการผลิตเสื้อผ้าและเครื่องประกอบการแต่งกาย ตั้งอยู่ที่จังหวัดตาก

สำหรับการขอรับการส่งเสริมในพื้นที่เป้าหมาย มีทั้งพื้นที่ในนิคมอุตสาหกรรมหรือเขตอุตสาหกรรมที่ได้รับการส่งเสริม 236 โครงการ มูลค่ารวม 72,668 ล้านบาท ส่วนใหญ่อยู่ในภาคตะวันออก ได้แก่ จ.ระยองและชลบุรี

รวมถึงพื้นที่ 20 จังหวัดที่มีรายรับต่อหัวต่ำ 10 โครงการ มูลค่า 240 ล้านบาท ได้แก่ กิจการผลิตพลังงานไฟฟ้า ตั้งอยู่ที่จังหวัดอุบลราชธานี กิจการผลิตพลังไฟฟ้าจากแสงอาทิตย์ ตั้งอยู่ที่จังหวัดกาฬสินธุ์ น่าน บึงกาฬ


แพร่ ยโสธรสุโขทัย หนองบัวลำภู และอุบลราชธานี กิจการผลิตอุปกรณ์โทรคมนาคม ตั้งอยู่ที่จังหวัดบุรีรัมย์