ธุรกิจประมงภูเก็ต ร้องถูกองค์การสะพานไม่ต่อสัญญาเช่าที่ดิน

เมื่อวันที่ 15 มกราคม 2564 นายสมยศ วงศ์บุณยกุล นายกสมาคมชาวประมงภูเก็ต กล่าวว่า วันนีได้มีการประชุมร่วมกับผู้ประกอบการธุรกิจประมงกว่า 30 คน โดยมีนายสุทา ประทีป ณ ถลาง ส.ส.จังหวัดภูเก็ต เขต 1 พรรคพลังประชารัฐ เป็นประธานเพื่อรับฟังผลกระทบจากกรณีองค์การสะพานปลาบอกยกเลิกไม่ต่อสัญญาเช่าอาคารพาณิชย์ การเช่าที่ดินทั้งหมด และให้ทำการส่งมอบทรัพย์สินคืนพื้นที่ให้กับองค์การสะพานปลาตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2564 

ดังนั้น ชาวประมง แพปลา และผู้ประกอบธุรกิจประมงที่เกี่ยวข้อง จึงร้องขอให้ทางสมาคมชาวประมงภูเก็ตช่วยเหลือ ทางสมาคมชาวประมงภูเก็ต จึงได้ประสานสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรมารับทราบปัญหาและให้หาแนวทางช่วยเหลือ

“ที่ผ่านมา เราได้ทำหนังสือถามองค์การสะพานปลาในเหตุผลที่ให้ออกจากพื้นที่ ทางองค์การสะพานปลาบอกว่าจะพัฒนาที่ดิน ลักษณะเหมือนมาข่มขู่ชาวประมงทำให้ผู้ที่อยู่ในพื้นที่ได้รับความเดือดร้อนหลายสิบครัวเรือน รวมทั้งห้องเย็นต่างๆที่เป็นอุตสาหกรรมต่อเนื่องประมง อู่คานเรือ คานช่องเรือ จะบอกเลิกสัญญาทั้งหมด ถ้าไม่มีคานเรือเราจะเอาเรือไปซ่อมที่ไหน ถ้ายังคุยกันไม่รู้เรื่องต้องว่ากันไปตามกฎหมาย 

สิ่งทึ่เกิดขึ้นไม่เป็นธรรมเพราะอาชีพประมง เราทำกินอยู่ที่ท่าเรือประมง องค์การสะพานปลา จู่ๆมายกเลิกที่ทำกิน ถือว่าไม่ถูกต้อง บางคนโดนฟ้องขับไล่แล้ว มีหมายศาลมาแล้ว บางคนยังไม่มี จะต้องอาศัยกระบวนการยุติธรรม และหวังว่า ส.ส.จะข่วยดำเนินการช่วยเหลือ” นายสมยศ กล่าว

ทางด้าน นายสุทา ประทีป ณ ถลาง ส.ส.จังหวัดภูเก็ต เขต 1 พรรคพลังประชารัฐ กล่าวว่า จากการรับฟังปัญหาพบว่าองค์การสะพานปลายกเลิกสัญญากับผู้ที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ มีพฤติกรรมการปฏิบัติหน้าที่ไม่เป็นธรรม บทบาทขององค์การสะพานปลา ต้องสนับสนุนกิจการประมง 

เป็นไปไม่ได้ ห้องเย็น ลงทุน 20-30ล้านบาท ทำสัญญา 3 ปี เป็นไปไม่ได้ แต่องค์การสะพานปลาให้คำมั่นเขาว่า 3 ปีต่อสัญญาครั้ง ถึงเวลาไม่ต่อสัญญาให้ เห็นชัดว่า เป็นสัญญาไม่เป็นธรรม ต้องหารือกับรัฐมนตรีที่รับผิดชอบ และจะแจ้งผลให้ทราบ ในเรื่องนี้ต้องดำเนินการให้ถึงที่สุด จู่ๆยกเลิกสัญญา ฟ้องศาลปกครองได้ มีความมั่นใจว่าเรื่องนี้แก้ไขได้ เพราะว่าเป็นเรื่องไม่ถูกต้องชัดเจนในการยกเลิกสัญญาเช่าที่ไม่ถูกต้อง”นายสุทา กล่าวและว่า

ผู้ที่ได้รับความเดือดร้อนที่มาร่วมประชุมครั้งนี้ประมาณ20-30คน แต่เชื่อว่ามีมากกว่านี้ และยังมีต่อเนื่องกับอาชีพประมงน่าจะมีเดือดร้อนเป็นพันคน โดยขอให้ผู้ได้รับผลกระทบทั้งหมดรวบรวมเรื่องส่งมา เพื่อจะนำเสนอผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ตรับทราบ และจะหารือนายประภัตร โพธสุธน รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และ นายกรัฐมนตรี ที่ทำเนียบรัฐบาล รวมทั้งจะหารืออธิบดีกรมทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในการดูแลพื้นที่ดังกล่าว ต่อไป