สมุทรสาครคาดโทษ 7 โรงงาน ซีล 2 ตำบล ห้ามออกนอกเคหสถาน

สมุทรสาครลงแส้ 7 โรงงานยักษ์ ประกาศคุมเข้ม 2 ตำบล ‘ท่าทราย-นาดี’ ห้ามแรงงานกลุ่มเสี่ยง 5 หมื่นคนออกนอกพื้นที่ หวั่นคุมโรคไม่อยู่

รายงานข่าวจากจังหวัดสมุทรสาคร เปิดเผยว่า วันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2564 เวลา 24.00 น. พบผู้ป่วยยืนยันรายใหม่ 450 ราย แบ่งเป็นคนไทย 37 ราย และต่างด้าว 413 ราย รวมยอดสะสม 14,691 ราย รักษาหาย 2,144 ราย เสียชีวิตสะสม 5 ราย ค้นหาเชิงรุกสะสมไปแล้ว 156,429 ราย

นายธีรพัฒน์ คัชมาตย์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร รักษาการแทนผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร ประธานกรรมการโรคติดต่อจังหวัดสมุทรสาคร และผู้กำกับการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินจังหวัดสมุทรสาคร ได้ออกประกาศจังหวัดสมุทรสาคร

เรื่องมาตรการเฝ้าระวังและควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ลงวันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2564 เพื่อเป็นการป้องกันและยับยั้งการแพร่ระบาดของโรค จึงจำเป็นต้องขอความร่วมมือประชาชน และสถานประกอบการดำเนินการป้องกันและควบคุมโรคในชุมชนและสถานประกอบการ ในการประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดสมุทรสาคร ครั้งที่ 33/2564 เมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2564 จึงได้มีมติออกประกาศดังนี้

1.ให้พื้นที่บางส่วนของตำบลนาดี และตำบลท่าทราย อำเภอเมืองสมุทรสาคร จังหวัดสมุทรสาคร ภายในเขตเริ่มต้นจากวัดพันธุวงษ์ไปทางทิศตะวันออก ตามแนวถนนเลียบคลองสี่วาพาสวัสดิ์ จนถึงปากชอยโรงเรียนบ้านบางปิ้ง จากปากชอยโรงเรียนบ้านบางปิ้ง ไปทางทิศใต้ตามแนวถนน จนถึงปากชอยหมู่บ้านกานดา ถนนพระรามที่ 2 จากปากชอยหมู่บ้านกานดา ถนนพระรามที่ 2 ไปทางทิศตะวันตก ตามแนวถนนพระรามที่ 2 จนถึงสะพานข้ามแม่น้ำท่าจีน และจากสะพานข้ามแม่น้ำท่าจีน ไปทางทิศเหนือตามแนวแม่น้ำท่าจีน จนสิ้นสุด ที่วัดพันธุวงษ์ ตามแผนที่แนบท้ายประกาศนี้ เป็น ”พื้นที่เฝ้าระวังสูงสุดและเข้มงวด” และควบคุมการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19)

2.ให้ผู้ที่เกี่ยวข้องในเขตพื้นที่ตามข้อ 1 ปฏิบัติดังนี้

(1) ห้ามลูกจ้างของสถานประกอบการออกนอกเคหสถาน และเขตพื้นที่ควบคุม ตามข้อ 1 เว้นแต่การเดินทางไปที่สถานที่ทำงานหรือกลับจากสถานที่ทำงาน หรือมีเหตุจำเป็นเร่งด่วน และหรือได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อ

(2) ห้ามลูกจ้างของสถานประกอบการเข้าไปในร้านค้า ตลาดสด ตลาดนัด หรือสถานที่ชุมชนที่มีประชาชนหนาแน่น

(3) ให้ลูกจ้างของสถานประกอบการติดตั้งแอปพลิเคชั่น “หมอชนะ” และ “DDC care” เพื่อประโยชน์ในการติดตามและสอบสวนโรคในห้วงระหว่างการควบคุม

(4) ให้ผู้ประกอบการกำกับดูแลให้แรงงานดำเนินการตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) อย่างเคร่งครัด

(5) ให้เจ้าของร้านค้า ตลาดสด ตลาดนัด หรือผู้ดูแลสถานที่ชุมชน ดำเนินมาตรการทางการสาธารณสุข เช่น การรักษาระยะห่างทางสังคมอย่างเคร่งครัด ทั้งนี้ หากพบว่ามีการฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามจนเป็นเหตุให้เสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของโรค จังหวัดสมุทรสาคร โดยความเห็นชอบคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดสมุทรสาคร อาจจะพิจารณาสั่งปิดสถานที่ หรือสั่งหยุดการประกอบการที่เป็นเหตุแห่งการแพร่ ของโรคติดต่ออันตรายหรือโรคระบาดได้

(6) ให้เจ้าของหอพัก ห้องเช่า อพาร์ตเมนต์ และสถานที่อื่นที่ให้เช่าพักอาศัยดำเนินการตามมาตรการสาธารณสุข และควบคุม ตรวจตรา กำชับผู้พักอาศัยให้ดำเนินการตามมาตรการห้ามออกนอกเคหสถานและเขตพื้นที่ควบคุมอย่างเคร่งครัด รวมทั้งสอดส่องบุคคลภายนอกมิให้เข้ามาภายในบริเวณที่พักอาศัย

(7) ให้เจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อ ตามพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ. 2558 กำกับ ดูแลและให้ข้อแนะนำแก่ผู้ประกอบการ และแรงงานของสถานประกอบการ ให้ถือปฏิบัติตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) อย่างเคร่งครัด

ทั้งนี้ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป จนกว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 จะคลี่คลายหรือมีประกาศเปลี่ยนแปลง

แหล่งข่าวจากสมุทรสาคร เปิดเผย ”ประชาชาติธุรกิจ” ว่า การประกาศยกระดับพื้นที่ตำบลท่าทราย และตำบลนาดี ซึ่งอยู่ในพื้นที่สีแดงเขตอำเภอเมือง เป็น ”พื้นที่เฝ้าระวังสูงสุดและเข้มงวด” เพื่อควบคุมพนักงานกว่า 50,000 คน ใน 7 โรงงานขนาดใหญ่ ซึ่งเป็นกลุ่มเสี่ยง เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19)

เนื่องจากการขอความร่วมมือโรงงานในการใช้ระบบ Bubble&Seal ไม่ได้รับความร่วมมือจากบางโรงงาน และพนักงานบางโรงงานมีปัญหา ทำให้ยากต่อการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ และเกรงจะควบคุมโรคให้จำกัดวงได้ยาก

“ใน 7 โรงงาน แบ่งเป็นโรงงานผลิตปลากระป๋องและอาหารทะเลขายตลาดภายในประเทศและส่งออก 5 โรงงาน ที่เหลือเป็นโรงงานผลิตกระป๋องและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ การขีดวงโดยไม่สั่งปิดโรงงาน เพื่อไม่ให้กระทบต่อระบบเศรษฐกิจ เพราะแต่ละโรงงานมียอดขายระดับหมื่นล้านบาทถึงแสนล้านบาท”