“กลุ่มเพื่อไทย” ส่ง “เฮียหน้อย ชาตรี” ชิงนายกเล็กเชียงใหม่ ดึงนิวเจนฟื้นเศรษฐกิจ

เลือกตั้งเทศบาลเชียงใหม่

เปิดศึกเลือกตั้งนายกเทศมนตรีนครเชียงใหม่และสมาชิกสภาเทศบาลนครเชียงใหม่ เริ่มคึกคัก พรรคเพื่อไทยหนุน “เพื่อไทยนครเชียงใหม่” เต็มสูบ ส่ง “เฮียหน้อย ชาตรี เชื้อมโนชาญ” ชิงเก้าอี้นายกเล็ก พร้อมดึงคนรุ่นใหม่-นิวเจนวางนโยบายเชิงลึก มุ่งฟื้นเศรษฐกิจเชียงใหม่

ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดเชียงใหม่ว่า วันนี้ (7 กุมภาพันธ์ 2564) กลุ่มเพื่อไทยนครเชียงใหม่ ได้แถลงข่าวเปิดตัวผู้ลงสมัครนายกเทศมนตรีนครเชียงใหม่และสมาชิกสภาเทศบาลนครเชียงใหม่ พร้อมแสดงวิสัยทัศน์ แนวทางการบริหารพัฒนาเมืองเชียงใหม่ ณ ห้องเชียงทอง ศูนย์ประชุมนานาชาติคุ้มคำ เชียงใหม่ โดยผู้ลงสมัครชิงนายกเล็ก หรือนายกเทศมนตรี ของกลุ่มเพื่อไทยนครเชียงใหม่คือ นายชาตรี เชื้อมโนชาญ หรือเฮียหน้อย

นายชาตรี เชื้อมโนชาญ หัวหน้ากลุ่มเพื่อไทยนครเชียงใหม่ เปิดเผยว่า ตามประกาศจากสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) มีมติประกาศแผนการจัดการเลือกตั้ง และประกาศกำหนดให้มีการเลือกตั้งสมาชิกสภาเทศบาล และนายกเทศมนตรี ในวันที่ 28 มีนาคม 2564

ทางกลุ่มเพื่อไทยนครเชียงใหม่ พร้อมเปิดตัวผู้ลงสมัครนายกเทศมนตรี พร้อมทีมบริหาร และผู้ลงสมัครสมาชิกเทศบาลนครเชียงใหม่ทั้ง 4 แขวง คือ แขวงศรีวิชัย แขวงกาวิละ แขวงนครพิงค์ และแขวงเม็งราย ขณะเดียวกันก็พร้อมแสดงวิสัยทัศน์และแนวทางการบริหารพัฒนาเมืองเชียงใหม่

สำหรับการเลือกตั้งครั้งนี้ ถือว่าทางกลุ่มเพื่อไทยนครเชียงใหม่มีความพร้อมค่อนข้างมาก โดยเฉพาะทีมบริหาร ผู้ลงสมัครสมาชิกเทศบาลนครเชียงใหม่ทั้ง 4 แขวง และผู้ลงสมัครนายกเทศมนตรีนครเชียงใหม่ ซึ่งในช่วงที่ผ่านมาได้มีการลงพื้นที่-ชุมชนในเขตเทศบาลนครเชียงใหม่ทั้ง 4 แขวง ทำให้มองเห็นปัญหาและความต้องการของชาวบ้านในแต่ละชุมชนในเชิงลึก ที่สามารถนำมากำหนดเป็นนโยบายการพัฒนาเมืองในทุกมิติ

ซึ่งหากได้รับการเลือกตั้งเข้าไปบริหารงานเทศบาลในครั้งนี้ ก็จะสามารถขับเคลื่อนนโยบายในการแก้ปัญหาและพัฒนาเมืองได้อย่างตรงจุด ซึ่งทุกนโยบายล้วนมาจากการมีส่วนร่วมและความต้องการของประชาชน ขณะเดียวกัน ทางกลุ่มเพื่อไทยนครเชียงใหม่ ยังได้เปิดโอกาสให้คนรุ่นใหม่ หรือ New Generation ที่เป็นเสียงสะท้อนความต้องการและเข้ามามีส่วนร่วมในการกำหนดนโยบายด้วย

นายชาตรี กล่าวว่า จากสถานการณ์ปัจจุบันที่ทั่วโลกได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ซึ่งส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจของจังหวัดเชียงใหม่อย่างรุนแรง ซึ่งทางกลุ่มฯ มองว่า เศรษฐกิจและปากท้องเป็นปัญหาอันดับแรกที่ต้องเร่งแก้ไข เพราะไม่เพียงธุรกิจด้านการท่องเที่ยวทั้งระบบเท่านั้นที่ซบเซา แต่ยังส่งผลในระดับชุมชนที่การค้าขายก็ซบเซาเช่นกัน

ทั้งนี้ จากการลงพื้นที่ทำให้เห็นว่าชุมชนในเขตเทศบาลนครเชียงใหม่มีของดีอยู่เป็นจำนวนมาก ที่คนในชุมชนผลิตขึ้นมาในลักษณะสินค้าโอท็อป แต่จำเป็นต้องได้รับการพัฒนาด้านฝีมือแรงงาน รวมถึงการส่งเสริมให้มีช่องทางการตลาดและการขายสู่สากล โดยจะพัฒนาสินค้าโอท็อปของแต่ละชุมชนให้เป็นสินค้าโอท็อประดับพรีเมี่ยม ยกระดับการค้าจาก Local สู่ Global นำสินค้าจากชุมชนสู่ตลาดสากล

ขณะเดียวกัน ด้านการท่องเที่ยวซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของเชียงใหม่ ทางกลุ่มได้เน้นนโยบายนำวัฒนธรรมประเพณีเป็นตัวขับเคลื่อนกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยจะกำหนดอยู่ในแผนพัฒนาการท่องเที่ยวตลอด 12 เดือน ทั้งนี้ นโยบายด้านเศรษฐกิจที่สำคัญหลังโควิด-19 คือ การฟื้นฟูกิจการทั้งหมดทันที เพื่อให้รากฐานเศรษฐกิจของเมืองเชียงใหม่มีการฟื้นตัวและเตรียมพร้อมสำหรับการพัฒนาในขั้นต่อไป

นอกจากนี้ ทางกลุ่มจะนำเทคโนโลยี AI เข้ามาแก้ปัญหาในเรื่องต่างๆ ของเมือง เช่น ปัญหาการจราจร ปัญหาด้านอาชญากรรม และปัญหาสิ่งแวดล้อม จะมีการจัดตั้งวอร์รูมสำหรับการจัดการปัญหาผ่านระบบโครงข่ายที่จะวางทั่วเขตเทศบาลนครเชียงใหม่ รวมไปถึงพัฒนาแอพพลิเคชั่นของเทศบาลที่พัฒนาขึ้นมาเพื่อลดกระบวนการในการติดต่อระหว่างประชาชนกับทางเทศบาล

ด้านนโยบาย pm2.5 ทีมเพื่อไทยนครเชียงใหม่เล็งเห็นความเร่งด่วนของปัญหาที่เรื้อรังเหล่านี้ อีกทั้งได้มีแนวคิดการนำเทคโนโลยีการกรองอากาศเข้ามาจัดการปัญหานี้ คือ เทคโนโลยีหอคอยกรองอากาศ หรือต้นไม้อัจฉริยะที่มีประสิทธิภาพในการกรองอากาศอย่างดีเยี่ยม โดยในปัจจุบันมีการติดตั้งเทคโนโลยีนี้ในเมืองใหญ่ๆ ทั่วโลก

ขณะเดียวกัน ยังมุ่งเน้นนโยบายสนามกีฬา 24 ชั่วโมงเป็นนโยบายที่สร้างพื้นที่ในการออกกกำลังกายและกิจกรรมกลางแจ้งที่สร้างสรรค์สำหรับคนทุกเพศทุกวัย ให้สามารถเข้าถึงสนามกีฬาของเทศบาลได้ตลอด 24 ชั่วโมง อีกทั้งยังมีการเพิ่มสนามกีฬาเอ็กซ์ตรีม ลานสเกตบอร์ด และลานกิจกรรมอื่นๆ เพื่อให้เป็นศูนย์กลางของเยาวชนและคนทุกเพศทุกวัย

“การพัฒนาเมืองเชียงใหม่ของกลุ่มเพื่อไทยนครเชียงใหม่นั้นจะมุ่งเน้นการสร้างสรรค์เมืองเชียงใหม่ให้พร้อมในทุกมิติทั้งทางด้านการศึกษา สภาพแวดล้อมและเศรษฐกิจ ให้พร้อมสำหรับการก้าวไปข้างหน้าอย่างมีคุณภาพ และพร้อมส่งต่อให้กับคนรุ่นต่อไป” นายชาตรี กล่าว

นายพันธุ์เทพ เล็กสกุลกมลศิริ ทีมบริหารกลุ่มเพื่อไทยนครเชียงใหม่ กล่าวว่า ในเชิงเศรษฐกิจจะเน้นการสร้างรากฐานการพัฒนาใน 4 ระยะคือ การซ่อมเมือง การสร้างเมือง สร้างเศรษฐกิจใหม่ และสร้างความร่วมมือ และสร้าง 1 ชุมชน 1 ความสนุก ที่จะส่งเสริมให้ชุมชนมีเศรษฐกิจที่ดีและมีชีวิตด้วยความสุขและสนุก โดยเศรษฐกิจของชียงใหม่จะเข้มแข็งและยั่งยืน ต้องดึงประเพณีและวัฒนธรรมเป็นจุดขาย

นางสางกานต์ชนก ประกาศวุฒิสาร หนึ่งในทีมบริหารกลุ่มเพื่อไทยนครเชียงใหม่ กล่าวว่า นโยบายด้านการศึกษาเป็นประเด็นที่ทางกลุ่มให้ความสำคัญมากเช่นกัน ด้านการศึกษา ทางทีมเพื่อไทยนครเชียงใหม่ มีความต้องการในการพัฒนาระบบการศึกษาของเทศบาลให้มีคุณภาพมากขึ้น และเปิดโอกาสทางการศึกษาไม่ว่าจะเป็นทุนการเรียนต่อประเทศ การศึกษาในด้านต่างๆ ให้เหมาะสมกับยุคดิจิทัล รวมถึงยังมีการเพิ่มศูนย์เด็กเล็กและพัฒนาครูผู้สอนให้มีคุณภาพมากขึ้น

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ในการเลือกตั้งครั้งนี้ ทางกลุ่มเพื่อไทยนครเชียงใหม่ ได้เปิดโอกาสให้กลุ่มคนรุ่นใหม่ นักเรียน นักศึกษาจากหลายสถาบันในจังหวัดเชียงใหม่มีส่วนร่วมในการกำหนดแนวทางนโยบาย

อาทิ ตัวแทนจากกลุ่มนักศึกษาวันใหม่ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ , มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา , มหาวิทยาลัยแม่โจ้ ,มหาวิทยาลัยพายัพ เป็นต้น เข้าร่วมให้การส่งต่อนโยบายและผลักดัน สนับสนุนกลุ่มเพื่อไทยนครเชียงใหม่ เช่น กลุ่มปัญหาการจราจรในเมืองเชียงใหม่ ปัญหาการศึกษาของเยาวชน

ปัญหาด้านสิ่งแวดล้อม ปัญหาด้านการท่องเที่ยว ปัญหาด้านการจัดสรรพื้นที่สีเขียวเพื่อสิ่งแวดล้อม ปัญหาการสร้างแลนด์มาร์คสำหรับวัยรุ่นเพื่อการออกกกำลังกายและทำกิจกรรม ที่ยังขาดแคลน ปัญหาการดูแลผู้ป่วยผู้สูงวัย การแก้ปัญหาด้านวัฒนธรรมที่ควรแก่การอนุรักษ์ เป็นต้น

สำหรับนายชาตรี เชื้อมโนชาญ (เฮียหน้อย) เริ่มเข้าสู่การทำงานการเมืองท้องถิ่นจังหวัดเชียงใหม่ตั้งแต่ปี 2538 และเป็นสมาชิกสภาเทศบาลนครเชียงใหม่ปี 2542 เป็นรองนายกเทศมนตรีนครเชียงใหม่ ในสมัยของนายทัศนัย บูรณุปกรณ์ ที่ดำรงตำแหน่งนายกเทศมนตรีนครเชียงใหม่ และล่าสุด พร้อมลงชิงชัยเก้าอี้นายกเทศมตรีนครเชียงใหม่ ในนามพรรคเพื่อไทย ในวันที่ 28 มีนาคม 2564 นี้