สธ. สมุทรสาครชี้สถานการณ์โควิดดีขึ้น คาดพร้อมฉีดวัคซีนสิ้น มี.ค. นี้

สธ.สมุทรสาครชี้สถานการณ์โควิดดีขึ้น คาดพร้อมลุยฉีดวัคซีนสิ้นมี.ค.นี้ ศบค.มีข่าวดีให้จัดสงกรานต์ได้

นายแพทย์นเรศฤทธิ์ ขัดธะสีมา นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดสมุทรสาคร เปิดเผยว่า ภาพรวมสถานการณ์โควิด-19 ในจังหวัดสมุทรสาครถือว่าดีขึ้นเป็นลำดับ โดยช่วง 1 เดือนที่ผ่านมาหลังดำเนินมาตรการ Bubble&Seal พนักงานกลุ่มเสี่ยง 50,000 กว่าคน ใน 9 โรงงาน พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 เฉลี่ยไม่เกิน 3-4% บางโรงงานตรวจแล้วไม่พบการป่วยเพิ่มเติม 4-5 โรงงาน

และจากการค้นหาเชิงรุกที่ยังดำเนินการเฉลี่ยวันละ 1,000-2,000 ราย พบผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มขึ้นเฉลี่ยวันละไม่เกิน 50 ราย โดยพบเชื้อโควิด-19 ในประชาชนทั่วไปน้อยมากประมาณ 0.8% หรือเรียกว่า 100 คนพบเพียงไม่กี่คน วันนี้ล่าสุดพบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 48 ราย มียอดผู้ติดเชื้อสะสม 16,805 ราย มีผู้รักษาอยู่โรงพยาบาล 354 ราย กลับบ้านไปแล้ว 16,444 ราย มีผู้ป่วยรุนแรงน้อยมากต่ำกว่า 10%

“มาตรการ Bubble&Seal ที่ทำใน 9 โรงงานรวมพนักงาน 50,000 กว่าคนที่ตรวจพบการติดเชื้อโควิด-19 กว่า 10,000 คน และได้แยกสังเกตอาการไปที่โรงพยาบาลสนามครบกำหนดหมดแล้ว ในส่วนผู้มีความเสี่ยงสูงทำงานร่วมกันได้มีการควบคุม 14 วัน และได้ตรวจภูมิคุ้มกันที่เกิดตามธรรมชาติ (Antibody)ในกลุ่มคนเหล่านี้เกือบ 20% และในระยะต่อมาลดลงมาเหลือเพียง 4% เท่านั้น ดังนั้น การที่ทุกคนช่วยกันดูแลตัวเอง ใส่หน้ากาก ลดการสัมผัสสามารถลดการถ่ายทอดเชื้อได้อย่างแน่นอน”

มาตรการที่จำเป็นต้องทำอยู่เสมอ คือ การใส่หน้ากาก รักษาระยะห่าง ล้างมือ และอย่าพาตัวเองไปที่ชุมชน พื้นที่เสี่ยงในการติดเชื้อกลับมา โดยเฉพาะคนวัยทำงานเมื่อออกจากบ้านต้องคิดเสมอว่า มีโอกาสไปรับเชื้อจากนอกบ้านกลับมาสู่ลูกหลาน และผู้สูงอายุที่อยู่ในบ้าน กลุ่มเหล่านี้จะมีโอกาสป่วยสูงได้ เพราะฉะนั้นยังคงต้องดำเนินการดูแลตัวเองอย่างสม่ำเสมอทุกๆวัน ยังคงต้องระมัดระวังไม่อยากให้ป่วยรุนแรงและเสียชีวิต

นายแพทย์นเรศฤทธิ์ กล่าวต่อไปว่า ภายในเดือนมีนาคม 2564 ทางจังหวัดสมุทรสาครได้เริ่มทำเรื่องผ่อนคลายมาตรการต่างๆ ที่ผ่านมา เช่น ให้เปิดโรงเรียน สถานศึกษา สถานรับเลี้ยงเด็กจะเปิดให้ดำเนินการ และสิ้นเดือนมีนาคมนี้คงจะมีข่าวดีทางศูนย์บริหารสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดต่อเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) ให้ปรับพื้นที่จังหวัดสมุทรสาครให้ผ่อนคลายมาตรการต่างๆ ลงได้ โดยเฉพาะให้จัดงานสงกรานต์ แต่ต้องจัดอยู่ภายใต้มาตรการควบคุม แต่ไม่ใช่การไปสาดน้ำ ประแป้ง แต่เป็นการให้ไปรดน้ำกราบขอพรจากผู้ใหญ่

อย่างไรก็ตาม นอกจากมาตรการ Bubble&Seal มาตรการตรวจค้นหาเชิงรุก เพื่อตรวจเฝ้าระวังการป่วยหรือการติดเชื้อโควิด-19 ทั้งโรงงาน ตลาด ชุมชนในครอบครัวอย่างสม่ำเสมอ ซึ่งต้องดำเนินการต่อไปอีกระยะหนึ่งเป็น New Normal มาตรการอีกอันที่จังหวัดสมุทรสาครรับจากรัฐบาลและกระทรวงสาธารณสุข คือ การเร่งดำเนินการฉีดวัคซีน ซึ่งล๊อตแรกได้รับการจัดสรรวัคซีนชิโนแวคมา 

ตอนนี้ฉีดไปทั้งหมด 15,000 ราย เหลืออีกเพียง 20,000 ราย ยังไม่พบการแพ้วัคซีน ตอนนี้เปิดให้กลุ่มเป้าหมายเข้ามาลงทะเบียนรับวัคซีนได้ที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล โรงพยาบาลของภาครัฐทุกแห่งให้ประชาชนเข้าไปจองคิว โดยการฉีด 1 ครั้งต้องใช้เวลา 30 นาทีในการสังเกตอาการ รวมกับกระบวนการอื่น ๆ ใช้เวลารวมประมาณ 1 ชั่วโมง ทั้งนี้การฉีดวัคซีนในจังหวัดสมุทรสาครจะทำให้ได้ครอบคลุมอย่างน้อย 60-70 %ขึ้นไปภายใน 3 เดือนข้างหน้าที่รัฐบาลจะจัดสรรวัคซีนเข้ามา

“จึงอยากประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนที่อยู่ระหว่างตัดสินใจว่าจะฉีดหรือไม่ฉีดวัคซีน ในความเห็นของหมอเห็นว่าควรจะฉีดมากกว่า เพราะได้ประโยชน์ลดความรุนแรงและการเสียชีวิตได้ และลดการแพร่กระจายออกไปนอกจังหวัด เพื่อให้คนจังหวัดอื่นที่จะเข้ามาค้าขาย เข้ามาเที่ยวเข้ามาทำงานเชื่อมั่น หรือเราเองจะเดินทางไปต่างจังหวัดคนจะได้เชื่อมั่นว่าปลอดภัย”

อย่างไรก็ตาม แม้สถานการณ์การติดเชื้อในจังหวัดสมุทรสาครดีขึ้นเป็นลำดับ แต่ทางจังหวัดได้มีการเตรียมความพร้อมในเรื่องโรงพยาบาลสนามไว้ โดยเมื่อวันที่ 12 มีนาคม 2564 ได้เปิดศูนย์ห่วงใยคนสาครแห่งที่ 9 ที่บริษัทวิทวอเตอร์ ซิสเต็ม ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด ตำบลท่าทราย อำเภอเมืองสมุทรสาคร จังหวัดสมุทรสาคร  วิดวอเตอร์ ทั้งนี้ การเปิดโรงพยาบาลสนามเพิ่มไม่ได้สถานการณ์แย่ลงแต่การมีโรงพยาบาลสนามไว้ 2,000-3,000 เตียงเพื่อรองรับอนาคตจะใช้เป็นสถานที่เฝ้าสังเกตอาการสำหรับแรงงานที่จะเข้ามาทำงานในจังหวัดสมุทรสาคร