ขาดตู้คอนเทนเนอร์ ไร้เรือขนส่ง โรงงานขนม ชะงักส่งออก

หลายโรงงานผลิตขนมเมืองกาญจน์เผชิญมรสุมส่งออกหลายเด้ง ขาดแคลนตู้คอนเทนเนอร์ แย่งเรือส่งออกสินค้า ออร์เดอร์ล้นส่งออกไม่ได้ ต้องชะลอผลิต แถม “มะพร้าว” ราคาพุ่งเท่าตัว แต่รัฐห้ามนำเข้า ทำต้นทุนพุ่ง วอนรัฐเร่งแก้ปัญหา

นายไมตรี ชัยมงคลานนท์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท มีดี8 จำกัด ผู้ประกอบการโรงงานผลิตทองม้วน และร้านแก้วของฝากเมืองกาญจนบุรี เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า ขณะนี้บริษัทกำลังประสบปัญหาในการส่งออก

เนื่องจากขาดแคลนตู้คอนเทนเนอร์ รวมถึงเรือขนส่งสินค้าแทบไม่มี ส่งผลให้ผู้ส่งออกต้องแย่งเรือกัน บางครั้งมีออร์เดอร์เตรียมส่งออก แต่ต้องเลื่อนออกไป เพราะเรือตู้คอนเทนเนอร์ที่จะมารับสินค้าไม่เข้ามาตามกำหนดแทนที่จะมีการผลิตและส่งออกสินค้าได้ทุกวัน

กลายเป็นว่าต้องชะลอการผลิตหรือลดชั่วโมงการผลิตเนื่องจากสินค้าล้นโกดัง หากเทียบภาวะปกติช่วงพีก ๆ บริษัทสามารถผลิตสินค้าได้ตลอด 24 ชม. แต่ตอนนี้ทำงานได้เพียงช่วงกลางวัน ทำให้การส่งออกของบริษัทไม่สามารถเดินเครื่องผลิตได้เต็ม 100%

นอกจากนี้ ยังมีปัญหาเรื่องวัตถุดิบมะพร้าวมีราคาสูงขึ้นเกือบเท่าตัว จากเดิมราคา 25-30 บาทต่อกิโลกรัม แต่ปัจจุบันมะพร้าวราคา 45-55 บาทต่อกิโลกรัม ส่งผลกระทบต่อต้นทุนการผลิตสินค้าส่งออกเป็นอย่างมาก เนื่องจากแต่ละวันใช้มะพร้าวเป็นวัตถุดิบในการผลิตทองม้วนหลายตัน กำลังการผลิตรวมวันละเกือบ 1 ตู้คอนเทนเนอร์

“ที่ผ่านมาทางบริษัทรับซื้อมะพร้าวจากล้งในจังหวัดนครปฐม มะพร้าวมีปริมาณเพียงพอต่อการผลิต แต่ปัจจุบันราคาแพงขึ้นมาก จึงอยากเรียกร้องทางภาครัฐช่วยเหลือทั้งเกษตรกรและผู้ผลิต เพราะตอนนี้ทางภาครัฐให้เกษตรกรขายมะพร้าวในราคาที่แพงขึ้น”

“ด้วยการจำกัดการนำเข้าจากต่างประเทศ แต่ไม่ได้มาดูแลถึงผู้ผลิตที่จะต้องซื้อมะพร้าวมาแปรรูป ซึ่งเราจะขึ้นราคาสินค้าก็ไม่ได้ ภาครัฐควรจะช่วยเหลือเป็นคู่ขนานกันไป ไม่ใช่ภาครัฐดีใจที่เกษตรกรขายมะพร้าวได้ราคาที่แพงขึ้น

“แต่ผู้ผลิตที่ใช้มะพร้าวเป็นวัตถุดิบหลักได้รับผลกระทบทุกโรงงานบ่นกันเกือบหมด เราเป็นผู้ส่งออกเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างรายได้เข้าสู่ประเทศ จึงอยากให้ภาครัฐเข้ามาดูแลความสมดุลในส่วนนี้ด้วย”

นายไมตรีกล่าวต่อไปว่า เมื่อปี 2563 ธุรกิจได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ค่อนข้างหนัก รายได้หายไปกว่า 50% ปัจจุบันภาพรวมการส่งออกเริ่มดีขึ้น 70-80 %

เนื่องจากต่างประเทศมีการสั่งออร์เดอร์เข้ามาเรื่อย ๆ เกือบเข้าสู่สภาวะปกติ สำหรับตลาดส่งออกตอนนี้หลัก ๆ คือ สหรัฐอเมริกา ออสเตรเลีย และจีน ส่วนสินค้าที่ส่งออกหลักได้แก่ ทองม้วนกรอบรสมะพร้าว (หวานดั้งเดิม)

เนื่องจากมีรสชาติที่ดี เนื้อของตัวทองม้วนมีคุณภาพกลิ่นหอม ซึ่งได้รับคำชมจากบริษัทต่างชาติเป็นจำนวนมาก และในอนาคตช่วงปลายปี 2564 จะส่งออกไปยังอินเดียและโซนตะวันออกกลาง แต่ต้องขึ้นอยู่กับสถานการณ์

ตอนนี้ทางบริษัทได้พัฒนาสินค้าตัวใหม่ เพื่อเป็นการขยายฐานลูกค้าให้เพิ่มขึ้น คือ “ทองม้วนออร์แกนิก” โดยได้เปิดตัวและวางจำหน่ายบนห้างคอสต์โก้ สหรัฐอเมริกาเป็นแห่งแรก ตอนนี้ได้รับความนิยมมาก

“อย่างไรก็ตาม แนวโน้มทิศทางในอนาคตถึงแม้จะเริ่มมีการฉีดวัคซีนโควิด-19 ให้กับประชาชนในประเทศไทย แต่การทำงานหรือการจ้างงานจะยังไม่กลับเข้ามา กำลังซื้อคงจะหดหายไม่ว่าจะคนไทยหรือต่างประเทศ

โดยเฉพาะคนอเมริกัน เวลาที่ไม่มีเงินจะใช้เงินเท่าที่จำเป็น และการบริโภคถ้าเป็นสินค้าที่ไม่จำเป็นต่อชีวิตจะไม่ซื้อ ไม่เหมือนคนไทยเป็นหนี้ก็ยังซื้ออยู่ ซึ่งผู้ผลิตหรือเป็นเจ้าของกิจการกลัวเหตุการณ์ลักษณะนี้จะเกิดขึ้น”

นอกจากนี้บริษัทมีโรงงานอีกแห่งภายใต้บริษัท มีเดียฟู้ด จำกัด เป็นผู้ผลิตน้ำมะขามบรรจุขวดและแปรรูปผลิตภัณฑ์จากมะขามรูปแบบต่าง ๆ เช่น มะขามแก้ว มะขามกวนกะทิสด รวมถึงผลิตเบเกอรี่ เช่น ขนมเค้กฝอยทอง ขนมเปี๊ยะ

ส่วนธุรกิจร้านแก้วของฝากเมืองกาญจนบุรี ต้นเดือนมีนาคมยอดขายเริ่มกลับมาประมาณ 50-60% หลังภาครัฐมีการผ่อนคลายมาตรการต่าง ๆ การท่องเที่ยวเริ่มกลับมา