เหล็กใต้ปรับราคา 20-25% จัดสรร-ผู้รับเหมาขาดทุนยับ

เหล็ก

“เหล็ก” ปรับขึ้น 20-25 เปอร์เซ็นต์ ผู้รับเหมาแห่ทิ้งงาน ผลกระทบธุรกิจสร้างบ้านไม่เกิน 5 เปอร์เซ็นต์ เหล็กค้างสต๊อกแห่รับกำไรอื้อ

แหล่งข่าวจากผู้ประกอบการธุรกิจรับสร้างบ้านภาคใต้เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า สถานการณ์การค้าเหล็กได้ขยับราคาขึ้นมาตั้งแต่ช่วงเดือนมีนาคม 2564 โดยราคาปรับขึ้นมาประมาณ 20-25 เปอร์เซ็นต์ ส่งผลกระทบให้ผู้รับเหมาก่อสร้างบ้านพักอาศัย สถานที่ประกอบการ บ้านพักคนงาน ฯลฯ ต้นทุนการผลิตเพิ่มขึ้นมาก และต้องประสบกับภาวะขาดทุน เพราะได้รับเหมางานสร้างบ้าน และอาคารไว้ก่อนแล้ว

ขณะเดียวกันก็ประสบปัญหาผู้รับเหมาที่ไม่รับผิดชอบทิ้งงานไป เพราะประสบภาวะขาดทุนอย่างหนัก โดยปัจจัยสำคัญที่เหล็กขึ้นราคา เจ้าของร้านอุปกรณ์ก่อสร้างให้เหตุผลว่าสถานการณ์แพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 (COVID-19) ส่งผลให้โรงงานอุตสาหกรรมเหล็กต้องชะลอการผลิตชั่วคราว และไม่มีแรงงาน แต่เป็นอานิสงส์ให้กับร้านอุปกรณ์ก่อสร้างในส่วนประเภทเหล็กที่ค้างสต๊อกอยู่ได้ผลตอบแทนราคาสูงขึ้น

แหล่งข่าวจากร้านค้าวัสดุก่อสร้างรายย่อยเปิดเผยว่า เหล็กได้ปรับราคาขึ้นมา โดยเหล็กขนาดเล็กเส้นละ 2-3 บาท แต่ขนาดใหญ่ปรับขึ้นหลายสิบบาท ได้ส่งผลกระทบต่อผู้สร้างบ้านอยู่เองที่ว่าจ้างเฉพาะแรงงาน ส่วนแรงงานก่อสร้างไม่มีผลกระทบ เพราะจะรับเหมาเพียงแรงงาน แต่ผู้ที่รับอานิสงส์คือ ร้านวัสดุอุปกรณ์ก่อสร้างที่มีสินค้าค้างอยู่ในสต๊อก โดยนำสินค้าเก่ามาปรับราคาใหม่”

นายศุภชัย รุจิเรืองโรจน์ นายกสมาคมอสังหาริมทรัพย์จังหวัดสงขลา เปิดเผยว่า ราคาเหล็กที่ขยับขึ้นมีหลายปัจจัยคือ โรงงานอุตสาหกรรมเหล็กชะลอการผลิตและยุติการผลิตและค่าระวางเรือสินค้าปรับราคา เนื่องจากตู้คอนเทอนเนอร์ขาดแคลน สำหรับการสร้างบ้านกระทบไม่เกิน 5 เปอร์เซ็นต์ และคงจะกระทบไม่มากนักสำหรับรายย่อย รายเล็ก แต่ถ้ารายใหญ่จะมีผลกระทบมากทั้งโครงการของภาคเอกชน และภาครัฐ

นายศุภชัยกล่าวต่อไปว่า โดยภาพรวมผู้รับเหมารายใหญ่จะต้องมีการพิจารณาสำหรับการรับเหมาโครงการลอตใหม่ โดยต้องมีการทำรายงานรายละเอียดต่าง ๆ นำเสนอสำหรับงานของภาคเอกชน แต่สำหรับในส่วนของราชการคงมีรายละเอียดต่าง ๆ

“ผู้รับเหมาโครงการขนาดใหญ่จะไม่ทิ้งงาน แต่จะชะลอการก่อสร้างไว้ก่อน เพื่อมาพูดคุยกับผู้ลงทุน เพื่อพิจารณาราคากันใหม่”

นายศุภชัยกล่าวต่อไปว่า ส่วนผู้ประกอบการธุรกิจอสังหาริมทรัพย์มีผลกระทบธุรกิจคือจะมีผลตอบแทนที่น้อยลง แต่น่าวิตกว่าวัสดุอุปกรณ์ก่อสร้างตัวอื่น ๆ จะปรับราคาตามมา