อุดรธานีผวา! ผอ.รพ.อุดรฯ ติดโควิด ทยอยส่งผู้ไม่มีอาการไป รพ.สนาม 27 ราย

ยอดผู้ติดโควิด-19 อุดรฯ เพิ่มต่อเนื่อง ล่าสุด ผอ.รพ.อุดรฯ ติดเชื้อ รอไทม์ไลน์-กลุ่มเสี่ยงสูง พรุ่งนี้ทยอยส่งผู้ไม่มีอาการไป รพ.สนาม 27 ราย

ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดอุดรธานี ตั้งแต่ช่วงเช้าวานนี้ (20เม.ย.)มีข่าวลือทางโซเชียลว่า แพทย์หญิง ฤทัย วรรธนวินิจ ผู้อำนวยการ โรงพยาบาลอุดรธานี ติดเชื้อโควิด-19

นายสยาม ศิริมงคล ผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี กล่าวว่า ในการป้องกันการแพร่ระบาด ลดการรวมกลุ่ม เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติ ทีมสาธารณสุข ทีมแพทย์ ผู้ว่าราชการจังหวัด รวมทั้งสื่อมวลชน ต้องไปทุกที่ การไปทุกที่มีความเสี่ยงตามมา ได้ปรึกษากับสำนักงานสาธารณสุขว่า ทุกวัน เวลา 14.00 น.จะมาให้ข้อมูลผ่านการแถลงข่าวโดยสาธารณสุขจะให้ข้อมูล ไทม์ไลน์ จำนวนเตียงผู้ป่วย โรงพยาบาลสนาม โรงพยาบาลอุดรธานีให้ข้อมูลด้านอาการ และวัคซีน

นายอุเทน หาแก้ว รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดอุดรธานี กล่าวว่า จังหวัดอุดรธานีพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 เพิ่มอีก 16 ราย มียอดผู้ป่วยสะสม 196 ราย กลับบ้านแล้ว 1 ราย ตั้งแต่เดือนเมษายน เป็นต้นมา จังหวัดอุดรธานีพบผู้ป่วยอย่างต่อเนื่อง โดยมีผู้นำเชื้อเข้ามาในจังหวัดอุดรธานีจากสถานบันเทิง แพร่ไปยังพื้นที่ต่างๆ ทำให้ยอดสะสม 196 ราย จังหวัดอุดรธานี มีการประกาศจังหวัดอุดรธานี ตั้งแต่วันที่ 19 เมษายน 2564 เพิ่มความเข้มข้นมากกว่า ศบค. โดยเฉพาะการรับประทานอาหารในร้านถึงเวลา 18.00 น. จากนั้นให้ซื้อมารับประทานที่บ้าน เพื่อจะดูว่าสถานการณ์แนวโน้มว่าจะผ่อนคลาย หรือมีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้น

“เรามีการตรวจหาเชื้อ 3 รูปแบบ คือ ผู้มีความเสี่ยงสูง สงสัย, แบบพีซีอาร์, แบบแรบบิทเทส และตรวจค้นหาเชิงรุกในชุมชน แต่ละวันมีการตรวจ 500-1,000 คน ทุกเคสที่พบผู้ป่วยจะค้นหาว่าติดเชื้อมาจากไหน แต่ละวง โดยวงในผู้นำเชื้อเริ่มต้นจาก 28 ราย ผู้สัมผัสเสี่ยงสูง ผู้ติดเชื้อมีการแพร่เชื้อถึงวงที่ 5 แล้ว มีอยู่ 1 ราย ที่วิ่งออกกำลังกายที่สวนสาธารณะหนองประจักษ์ ใช้เครื่องออกกำลังกายที่อยู่หน้าโรงพยาบาลอุดรธานี เป็นที่สงสัยว่าอาจติดเชื้อจากเครื่องเล่น เพราะตรงนี้ มีคนไปใช้ และไม่ได้ทำความสะอาด จะมีการใช้ต่อๆ กัน จะเป็นอีกจุดที่ต้องปิดการใช้เครื่องออกกำลังกายด้านหน้าโรงพยาบาล

จากการประมวลผลพบว่า เพศชาย จำนวน 91 ราย และ เพศหญิง 105 ราย หรือ มีสัดส่วน 1 ต่อ 1.15 โดย อายุต่ำสุด 1 ปี อายุสูงสุด 82 ปี และอายุเฉลี่ย 31 ปี หรือแบ่งตามช่วงอายุ 0-5 ปี 4.1% , 6-14 ปี 1.5%, 15-21 ปี 15.3%, 22-59 ปี 73% และ 60 ปีขึ้นไป 6.1%

สำหรับมาตรการ/ ข้อกำหนด การเฝ้าระวัง ป้องกัน และควบคุมการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 หรือโควิด-19 จ.อุดรธานี ตั้งแต่วันที่ 19 เมษายน – 1 พฤษภาคม 2564 ซึ่งออกเข้มข้นกว่า ศบค. มี 9 ข้อ และขอความร่วมมือ อีก 2 ข้อ 

ส่วนมาตรการใช้กฎหมายมี 4 ข้อ สำหรับประชาชนและผู้ประกอบการ ได้แก่

1.ห้าม การใช้อาคาร หรือสถานที่ของโรงเรียน และสถาบันการศึกษาทุกประเภท

2.ห้าม การจัดกิจกรรม ซึ่งมีการรวมกลุ่มของบุคคลที่มีจำนวนรวมกันมากกว่า 50 คน

3.ปิดสถานบริการ สถานบันเทิง ผับ บาร์ คาราโอเกะ สถานประกอบกิจการอาบน้ำ สถานประกอบกิจการอาบอบนวด หรือสถานที่อื่นที่มีลักษณะคล้ายกัน

4.รับประทานอาหาร และเครื่องดื่มได้ในร้าน ไม่เกิน 18.00 น. และซื้อกลับบ้านได้ไม่เกิน 23.00 น.

5.การจำหน่ายสุราหรือเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ สำหรับร้านอาหาร หรือสถานที่จำหน่ายสุรา ห้ามการบริโภคสุรา หรือเครื่องดื่มมี่มีแอลกอฮอล์ในร้าน

6.ห้างสรรพสินค้า ศูนย์การค้า คอมมูนิตี้มอลล์ หรือสถานประกอบการอื่นที่มีลักษณะคล้ายกัน ให้เปิดดำเนินการได้ตามเวลาปกติของสถานที่นั้นๆ จนถึงเวลา 21.00 น. โดยให้จำกัดจำนวนผู้ใช้บริการ และงดเว้น การจัดกิจกรรมส่งเสริมการขาย งด ให้บริการตู้เกม เครื่องเล่น ร้านเกม และสวนสนุก ทั้งใน และนอกอาคาร

7.ร้านสะดวกซื้อ ซูเปอร์มาร์เก็ต ตลาดนัดกลางคืน ตลาดโต้รุ่ง ถนนคนเดิน เปิดได้ไม่เกินเวลา 23.00 น. ร้านที่เปิด 24 ชั่วโมง ให้เปิดได้ตั้งแต่เวลา 04.00 น.

8.สถานกีฬา หรือสถานที่เพื่อการออกกำลังกาย ยิม ฟิตเนส เปิดไม่เกินเวลา 21.00 น. และให้งดการออกกำลังกายในลักษณะกลุ่ม ทุกประเภท

9.งดจัดกิจกรรมสังสรรค์ งานเลี้ยง งานรื่นเริง

ขณะเดียวกันขอความร่วมมือ ได้แก่ 1.งด กิจกรรมรวมกลุ่มกัน/ การสังสรรค์ (ให้สังสรรค์ได้เฉพาะคนในครอบครัว)

2.หากพบเห็น ผู้ที่มาจากพื้นที่เสี่ยง ไม่ยอมกักตัว ผู้ใกล้ชิด ผู้สัมผัสเสี่ยงสูง/ ไม่ให้ข้อมูลขอความร่วมมือในการแจ้งเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อในพื้นที่ (ผอ.รพ.สต. / กำนัน/ ผญบ/ ผช.ผญบ./ แพทย์ประจำตำบล/ สารวัตรกำนัน/ ตำรวจ) เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย

สำหรับมาตรการบังคับใช้กฎหมายเพื่อควบคุมการระบาดของโรคโควิด-19 ได้แก่

1.กรณีไม่เข้ารักษาไม่ยอมกักกัน ไม่แจ้งข้อมูล ไม่ยอมกักตัว ผิดกฎหมาย ปิดบังข้อมูลการเดินทางไปประเทศเสี่ยง ปิดบังข้อมูลการสัมผัสผู้ติดเชื้อ ไม่เข้ารับการรักษา ไม่ยอมแยกกัก กันกัน และคุมสังเกตอาการ มีโทษปรับไม่เกิน 20,000 บาท ตาม พ.ร.บ.โรคติดต่อ พ.ศ. 2558

2.กรณีไม่แจ้งเจ้าหน้าที่ควบคุมโรคติดต่อ เมื่อพบผู้ติดเชื้อ หรือสงสัยว่าติดเชื้อ ต้องแจ้งต่อเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อภายใน 3 ชั่วโมง นับตั้งแต่พบผู้ติดเชื้อ หรือสงสัยว่าติดเชื้อ ฝ่าฝืน ไม่ปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ ปรับไม่เกิน 20,000 บาท

3.กรณีฝ่าฝืน ไม่ปฏิบัติตามประกาศ หรือคำสั่งของคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด ต้องพิจารณาว่าเป็นการออกประกาศ หรือคำสั่งโดยอาศัยอำนาจตาม พ.ร.ก. การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินฯ พ.ร.บ. โรคติดต่อฯ หรือ กฎหมายอื่นๆ ทีเกี่ยวข้อง หากมีการฝ่าฝืน ไม่ปฏิบัติตามประกาศ คำสั่งที่ออกโดยอาศัยอำนาจตามกฎหมายใดก็จะเป็นความผิด และต้องรับโทษตามกฎหมายนั้น

4.กรณีปิดบังข้อมูล หรือไทม์ไลน์ ในการสอบสวนโรค ผู้ติดเชื้อ หรือสงสัยว่าติดเชื้อ ผู้สัมผัสโรคต้องแจ้งข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อการควบคุมโรค แจ้งข้อความอันเป็นเท็จแก่เจ้าพนักงาน ซึ่งอาจทำให้ผู้อื่น หรือประชาชนเสียหาย จำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ หรือไม่อำนวยความสะดวกแก่เจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อ ปรับไม่เกิน 20,000 บาท

ด้านนายแพทย์อัครวัตร รัตนวงศ์ไพบูลย์ แพทย์ประจำโรงพยาบาลอุดรธานี ดูแลโรคติดเชื้อ กล่าวว่า ตอนนี้ในโรงพยาบาลอุดรธานี 105 ราย มีการส่งผู้ป่วยไปยังโรงพยาบาลต่างๆ 55 ราย และมีแผนสำหรับคนไข้ที่ไม่มีอาการ ส่งไปยังโรงพยาบาลสนาม ในช่วงบ่ายของวันพรุ่งนี้ (21 เมษายน 2564) เบื้องต้น 27 ราย และส่งต่อเนื่องในวันถัดๆ ไป

เดิมมีคนไข้ 2 ราย ที่มีอาการหนักในไอซียู ตอนนี้ดีขึ้นแล้วทั้ง 2 ราย แต่เมื่อคืนมีคนไข้อาการหนักรายใหม่ มาอีก 1 ราย ได้ให้ออกซิเจนที่ความเร็วต่ำ และยังมีติดเชื้อเฝ้าระวังใหม่ 2 ราย อาการไม่รุนแรง เฝ้าติดตามอยู่ ได้รับความร่วมมือจาก วีธรา บูทิค โฮเทล เป็นโรงพยาบาลสนามสำหรับผู้สัมผัสเสี่ยงสูง ที่ไม่ได้ติดเชื้อ เพื่อกักตัว 14 วัน ผู้ป่วยที่ครบกำหนดจะได้กลับบ้าน 1 ราย คือ 2 สัปดาห์นับจากวันที่ผลแล็ปออก ซึ่งหลังจากนี้ก็จะทยอยออกจากโรงพยาบาล ซึ่งการตรวจโควิด-19 มีการตรวจหาเชื้อ ที่รถพระราชทานเคลื่อนที่ ด้านหน้าโรงพยาบาล สำหรับผู้มีอาการ เข้าเกณฑ์ คือ ไปที่เสี่ยง สัมผัสผู้ติดเชื้อใกล้ชิด เป็นต้น และกลุ่มเสี่ยงสูง ไม่เสียค่าใช้จ่าย ส่วนหลังโรงพยาบาล คือกลุ่มที่ไม่เข้าเกณฑ์ หรือสงสัย เสียค่าใช้จ่าย 500 บาท

“สำหรับผู้อำนวยการโรงพยาบาลฯ ได้ปฏิบัติหน้าที่ในโรงพยาบาล มีโอกาสติดเชื้อจากหลายๆ แหล่ง โดยได้รับการตรวจพีซีอาร์เมื่อวาน เนื่องจากมีอาการมีเสมหะ ผลตรวจว่ามีเชื้อ ขณะนี้ได้รักษาในโรงพยาบาลตามมาตรฐาน เป็นอาการเบา สำหรับผู้มีความเสี่ยงสูง ทางอาชีวะกำลังติดตามดูอยู่”

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า เมื่อเวลา 13.30 น. นายนิติพัฒน์ ลีลาเลิศแล้ว รองผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี ลงพื้นที่ หอพักนักศึกษา มหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี วิทยาเขตสามพร้าว พร้อมด้วย ผู้แทน กอ.รมน. ,สภ.เมืองอุดรธานี ,ปกครอง อ.เมืองอุดรธานี ,จนท.ร.พ. อุดรธานี, สาธารณสุข ,ปภ.จ.อด. , ม.ราชภัฏอุดรธานี ฯลฯ เตรียมความพร้อมโรงพยาบาลสนาม เพื่อวางระบบรักษาความปลอดภัย, การอยู่เวรยาม, รับทราบแนวทางปฏิบัติเพื่อป้องกันโรคโควิด-19 สำหรับเจ้าหน้าที่ฯ และจัดเตรียมสิ่งอำนวยความสะดวก สำหรับดูแลผู้ป่วยโควิด-19 ////