โรบัสต้า ราคาพุ่ง 85 บาท/กก. “โรงคั่ว-พ่อค้า” วิ่งซื้อฝุ่นตลบ

ฝนตกชุกภาคใต้ทำดอกกาแฟเน่า ผลผลิตเหลือไม่ถึง 2 หมื่นตัน ดันราคาโรบัสต้าพุ่ง คาดปี”61 ราคากาแฟสารแตะกิโลกรัมละ 85 บาท ด้านผู้ประกอบการกาแฟข้าวสังข์หยดยังฉลุย โตเกินเป้า เตรียมบุกตลาดต่างประเทศ ขณะที่เอสทีกาแฟชี้ราคากาแฟโรบัสต้าดีต่อเนื่อง 4 ปีติด

นายนัด ดวงใส รองประธานชุมนุมสหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ขณะนี้ภาวะสวนกาแฟยังสดใสกว่าพืชอื่น เพราะตลาดต้องการเพิ่มขึ้น แต่ผลผลิตมีน้อย เนื่องจากกาแฟได้รับความเสียหายจากปัญหาฝนตกในช่วงที่ดอกกาแฟบาน ทำให้ดอกเน่าไม่ให้ผลผลิต 2 ปีซ้อน และปี 2560 ก็ยังคงได้รับความเสียหายจากฝนตกเช่นเดิม

ทำให้ผลผลิตมีไม่ถึง 20,000 ตัน เมื่อรวมกับพันธุ์อราบิก้าทางภาคเหนือ ผลผลิตกาแฟภาพรวมจะมีประมาณ 28,000-30,000 ตัน แต่ความต้องการบริโภคในประเทศสูงถึง 80,000 ตัน/ปี

ดังนั้นหากโรงงานไม่มีสต๊อกกาแฟเก็บไว้ ราคากาแฟสารพันธุ์โรบัสต้าในปี 2561 คาดว่าจะแตะที่ 85 บาท/กก. ขณะที่การนำเข้ามาจากประเทศลาวและเวียดนามเป็นหลัก

“ตลาดกาแฟสดใสมาประมาณ 4 ปีแล้ว โดยระดับราคาที่ไม่ต่ำกว่า 70 บาท บางลอตถึง 80 บาท/กก. เพราะมีคนเพิ่มขึ้น การบริโภคกาแฟเพิ่มขึ้น ไม่มีลด เฉพาะที่ จ.เชียงใหม่ จ.เชียงราย ร้านกาแฟขยายตัวเพิ่มขึ้นถึง 100%”

นายชัยยงค์ คชพันธ์ ผู้จัดการห้างหุ้นส่วนจำกัดคชศิลป์ เบเวอร์เรจ จังหวัดพัทลุง ผู้ผลิตกาแฟเดอลองข้าวสังข์หยดพัทลุง เปิดเผยว่า ในปี 2560 มีการสั่งซื้อข้าวสังข์หยดมาแปรรูปผลิตกาแฟเกินเป้า จาก 10 ตันเป็น 15 ตัน สะท้อนถึงภาวะตลาดกาแฟยังมีทิศทางที่ดี

สำหรับกาแฟข้าวสังข์หยดยังเติบโตต่อเนื่อง โดยปี 2559 ขยายตัวประมาณ 20% ส่วนปี 2560 เติบโตขึ้นอีกประมาณ 10% และในปี 2561 ตั้งเป้าทำยอดขายเติบโตเพิ่มขึ้นอีก 20% เพราะเศรษฐกิจยังคงไม่ฟื้นมากนัก

“การตลาดในปี 2561 ตั้งเป้าไว้ จะซื้อ 20 ตัน เพิ่มขึ้นอีกเท่าตัว ตามการขยายตัวของกาแฟเดอลองข้าวสังข์หยด โดยจะมีวางจำหน่ายในเซเว่นอีเลฟเว่นทั่วภาคใต้ และร้านท็อปส์ ซูเปอร์มาร์เก็ตทั่วประเทศ จำนวน 150 สาขา และที่เคาน์เตอร์ที่ทำการไปรษณีย์ทั่วประเทศ รวมทั้งขณะนี้อยู่ระหว่างเตรียมหาตลาดต่างประเทศด้วย”

นายชัยยงค์กล่าวอีกว่า ปัจจุบันจังหวัดพัทลุงเริ่มมีการปลูกกาแฟมาประมาณ 2 ปีแล้ว ที่ อ.กงหรา อ.ป่าบอน จำนวนหลายพันต้น ซึ่งจะสามารถเก็บเกี่ยวได้ในปีที่ 4 มองว่าสวนกาแฟจังหวัดพัทลุงมีแนวโน้มจะเติบโตขึ้น แต่ระยะยาวก็จะต้องรักษาคุณภาพไว้ให้ได้

ราคาดี – กาแฟพันธุ์โรบัสต้าที่นิยมปลูกในพื้นที่ภาคใต้ ปัจจุบันให้ผลผลิตน้อยลงเหลือเพียงปีละ 20,000 ตัน ขณะที่ความต้องการตลาดสูง ทำให้ราคาดีต่อเนื่อง4 ปีติด โดยปี 2561 คาดว่าจะแตะถึง 85 บาท/กก.


ด้านนายปณิธาน โชคดี กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอสที คอฟฟี่ แอนด์ แสงทอง 1982 จำกัด กล่าวว่า ทิศทางราคาของกาแฟโรบัสต้าดีมา 3-4 ปีแล้ว จากเดิมราคาเมล็ดกาแฟสารอยู่ที่กิโลกรัมละ 70-80 บาท ปัจจุบันอยู่ที่ 90-120 บาท ในส่วนของตนเองนั้น รับซื้อประกันราคากับกลุ่มเกษตรกร โดยรับซื้อเป็นเมล็ดเชอรี่ (เมล็ดสุกสีแดง) ในราคาเฉลี่ย 25 บาท/กิโลกรัม หากคิดเป็นราคากาแฟสารอยู่ที่ประมาณ 125 บาท/กิโลกรัม แต่ในปี 2559 ที่ผ่านมา ต้องขยับราคารับซื้อถึง 30 บาท/กิโลกรัม เนื่องจากเมล็ดกาแฟขาดแคลน และโรงงานขยับให้ราคาสูงถึง 95 บาท/กิโลกรัม

“ปัจจุบันมีเกษตรกรหันกลับมาปลูกกาแฟมากขึ้น เพื่อป้อนโรงคั่วและร้านกาแฟสด เพราะกาแฟโรบัสต้ามีความต้องการของตลาดมาก มีบริษัทที่ลงมาซื้อตรงทั้ง ซี.พี.และ ปตท. ขณะที่โรงคั่วก็เริ่มมาหากาแฟกันมากขึ้น ส่วนที่ปลูกเพื่อส่งเข้าโรงงานแม้จะได้ราคาดีขึ้น แต่มีสัดส่วนที่น้อยกว่า เพราะหากมองความคุ้มค่า มองว่าอนาคตถ้าทำกาแฟคุณภาพดี จะมีโอกาสอีกไกลและไปได้สูง”