เชียงใหม่ เสียชีวิตเพิ่มอีก 3 ราย แนวโน้มผู้ติดเชื้อโควิดเริ่มลดลง

เชียงใหม่

สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ เผยแนวโน้มจำนวนผู้ติดเชื้อในจังหวัดลดลง ติดเชื้อเพิ่มวันนี้ (1 พ.ค.) 55 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 3 ราย 

วันที่ 1 พฤษภาคม 2564 ดร.ทรงยศ คำชัย หัวหน้ากลุ่มงานควบคุมโรคติดต่อ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยว่า วันนี้ (1 พ.ค.) จังหวัดเชียงใหม่พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ลดลง มีจำนวน 55 ราย รวมยอดผู้ติดเชื้อสะสม 3,630 ราย รักษาหายแล้ว 1,981 ราย คิดเป็นร้อยละ 55 ของผู้ป่วยทั้งหมด

ยอดผู้รักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลทุกประเภท จำนวน 1,644 ราย และมีผู้เสียชีวิตเพิ่มอีก 3 ราย รวมผู้เสียชีวิตในจังหวัดเชียงใหม่เป็น 5 ราย ขณะที่กลุ่มผู้ติดเชื้อที่ยังคงรักษาอยู่นั้น แยกเป็นกลุ่มผู้ป่วยที่ไม่มีอาการหรืออาการเล็กน้อย (สีเขียว) 1,237 ราย อาการปานกลาง (สีเหลือง) 208 ราย อาการค่อนข้างหนัก (สีส้ม) 78 ราย และอาการหนัก (สีแดง) 15 ราย

การตรวจกลุ่มเสี่ยงของโรงพยาบาลประจำอำเภอ โรงพยาบาลเอกชน และจุดตรวจคัดกรองต่าง ๆ เมื่อวานนี้ (30 เม.ย.) ได้ทำการตรวจไปทั้งหมด 1,685 ราย พบผู้ติดเชื้อ 52 ราย คิดเป็นร้อยละ 3.09 ซึ่งเพิ่มขึ้นเล็กน้อย สำหรับผู้ที่มีความเสี่ยงสัมผัสผู้ติดเชื้อ ไปในพื้นที่เสี่ยง หรือมีอาการ ให้เข้ารับการตรวจได้ที่โรงพยาบาลทุกแห่งในจังหวัดเชียงใหม่ และจุดตรวจคัดกรองศูนย์ประชุมนานาชาติฯ โดยไม่มีค่าใช้จ่ายแต่อย่างใด

ขณะที่ ความเสี่ยงหากแยกตามการสัมผัสโรค วันนี้ (1 พ.ค.) พบผู้ติดเชื้อจากการสัมผัสในสถานบันเทิงสะสมลดลงเหลือร้อยละ 39.5 การสัมผัสในครอบครัวสะสมเพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 22.3 การสัมผัสในชุมชนเพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 13.3 และสัมผัสในสถานที่ทำงาน เพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 10.6

ส่วนการสุ่มตรวจเชิงรุก ทางคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดเชียงใหม่ ได้มีมติให้ทีมตรวจคัดกรองของสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ และสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 1 เชียงใหม่ ลงพื้นที่สุ่มตรวจอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้หากประชาชนเห็นว่า มีพื้นที่เสี่ยงใดเพิ่มเติมสามารถแจ้งเบาะแสกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองและเจ้าหน้าที่สาธารณสุขในอำเภอ เพื่อทำการตรวจสอบสถานการณ์และจัดทีมออกตรวจเชิงรุกต่อไป

ขณะที่ การระบาดในคลัสเตอร์ต่าง ๆ พบว่า ยังคงพบเชื้ออยู่ใน 3 คลัสเตอร์ คือ คลัสเตอร์ศูนย์เด็กเล็กแม่คือ เรือนจำกลางเชียงใหม่ และพื้นที่อำเภอฮอด โดยพบผู้ติดเชื้อรายใหม่ลดลง อย่างไรก็ตาม ยังคงต้องติดตามเฝ้าระวังต่อเนื่องจนครบ 28 วัน นับตั้งแต่วันที่พบผู้ติดเชื้อรายแรกในคลัสเตอร์นั้น ซึ่งเป็นไปตามมาตรฐานการป้องกันควบคุมโรคติดต่ออันตราย

นายแพทย์วรเชษฐ เต๋ชะรัก ผู้อำนวยการโรงพยาบาลนครพิงค์ กล่าวว่า กรณีผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่เสียชีวิตในจังหวัดเชียงใหม่ แม้ว่าจำนวนคนไข้ลดลงตามลำดับ ผู้ป่วยอาการหนักกลับเพิ่มมากขึ้น เนื่องจากเกิดการอักเสบของปอด ทำให้ช่วง 2-3 วันที่ผ่านมา มีผู้เสียชีวิตเพิ่มอีก 3 ราย

  • รายแรก เป็นชายไทยอายุ 66 ปี มีความเสี่ยงใกล้ชิดกับผู้ที่เดินทางมาจากจังหวัดที่มีการระบาด ตรวจพบเชื้อในวันที่ 14 เมษายน และเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลสนาม และในวันเดียวกันพบว่ามีอาการเหนื่อย ระดับออกซิเจนในเลือดต่ำ จึงถูกส่งตัวไปรักษาที่โรงพยาบาลนครพิงค์ และเสียชีวิตลงด้วยระบบทางเดินหายใจล้มเหลว ในวันที่ 29 เมษายน 2564
  • รายที่ 2 เป็นหญิงไทยอายุ 68 ปี มีความเสี่ยงติดเชื้อจากผู้ป่วยที่มาจากจังหวัดที่มีการระบาด ตรวจพบเชื้อในวันที่ 16 เมษายน และเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลชุมชน จากนั้นวันที่ 22 เมษายน มีอาการเหนื่อยมาก ออกซิเจนในเลือดต่ำ จึงถูกส่งตัวเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลนครพิงค์ และเสียชีวิตลงด้วยระบบหายใจล้มเหลว ในวันที่ 29 เมษายน 2564
  • รายที่ 3 เป็นชายไทย อายุ 51 ปี มีโรคประจำตัวความดันโลหิตสูง มีประวัติไปเล่นฟิตเนสในสถานออกกำลังกาย ก่อนช่วงสงกรานต์ และไม่ทราบความเสี่ยง มีอาการไข้ ไอ ในวันที่ 12 เมษายน ไปซื้อยามาทานเอง และรักษาตามคลินิก วันที่ 17 เมษายน มีไข้สูง และตรวจพบเชื้อในวันที่ 20 เมษายน จากนั้นวันที่ 21 เมษายน มีอาการหอบเหนื่อย จึงถูกส่งตัวเข้ารักษาที่โรงพยาบาลนครพิงค์ และได้เสียชีวิตลงด้วยระบบหายใจล้มเหลว ในวันที่ 30 เมษายน 2564

สำหรับการจองฉีดวัคซีนโควิด-19 วันนี้ (1 พ.ค. 64) เป็นวันแรกที่ได้เปิดให้กลุ่มผู้สูงอายุและผู้ป่วย 7 โรคเรื้อรัง ลงทะเบียน โดยสถิติล่าสุดพบว่ามีประชาชนชาวเชียงใหม่ลงทะเบียนแล้วเกือบ 5,000 คน อย่างไรก็ตาม ประชาชนสามารถติดต่อลงทะเบียนขอรับวัคซีนที่โรงพยาบาลใกล้บ้าน หรือติดต่อที่อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน และขอให้ประชาชนเลือกสถานพยาบาลที่ใช้เป็นประจำ เนื่องจากมีประวัติการรักษาอยู่แล้วและเป็นการลดความแออัดในสถานพยาบาล

ด้าน นายวีระพันธ์ ดีอ่อน รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ได้กล่าวแสดงความเสียใจต่อครอบครัวผู้เสียชีวิตทั้ง 3 ราย พร้อมเน้นย้ำให้ประชาชนร่วมมือกัน “อยู่บ้าน หยุดเชื้อ เพื่อชาติ” สวมหน้ากากอนามัยทุกครั้งเมื่อออกจากบ้าน เพื่อช่วยกันลดจำนวนผู้ติดเชื้อในจังหวัดเชียงใหม่ และทำให้สถานการณ์ในพื้นที่เข้าสู่ภาวะปกติในเร็ววัน