ค้าชายแดนแม่สอดพุ่ง พ่อค้าเมียนมาตุนสินค้ายอดทะลุ 6 พันล้าน

ส่งออกเดือนเมษายนด่านแม่สอดทะลุ 6 พันล้าน เหตุผู้ประกอบการเมียนมาสั่งนำเข้าสินค้าทุกประเภทไปตุน หลังรัฐบาลออกคำสั่งระงับสินค้ากลุ่มเครื่องดื่ม 5 รายการ หวั่นรัฐบาลเมียนมาออกประกาศห้ามนำเข้าสินค้าประเภทอื่น เผยเหตุรัฐบาลทหารเมียนมาเบรกส่งสินค้ากลุ่มเครื่องดื่มทางรถบรรทุก หวังเก็บภาษีได้เต็มเม็ดเต็มหน่วย

นายประเสริฐ จึงกิจรุ่งโรจน์ ประธานหอการค้าจังหวัดตาก เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า จากกรณีฝั่งเมียนมามีประกาศระงับไม่ให้ส่งสินค้ากลุ่มเครื่องดื่ม 5 รายการ คือ น้ำอัดลม เครื่องดื่มชูกำลัง, เครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของกาแฟและชา, กาแฟสำเร็จรูป, นมข้นหวาน และนมข้นจืด เข้าผ่านด่านทางบกจากทุกประเทศที่มีพรมแดนติดต่อกับเมียนมาซึ่งรวมถึงไทย ซึ่งมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม 2564 ที่ผ่านมา

ส่งผลให้มูลค่าสินค้าส่งออกด่านแม่สอดช่วงเดือนเมษายน มีมูลค่ากว่า 6,180.427 ล้านบาท และเมื่อเทียบกับช่วงเดือนมีนาคม มียอดส่งออกเพิ่มขึ้นกว่า 615.912 ล้านบาท

“ตอนแรกประกาศออกมาสร้างความไม่ชัดเจน มีข่าวออกมามากมายจากฝั่งเมียนมา เช่น จะมีการสั่งปิดสะพาน ห้ามนำสินค้าเข้าประเทศ 5 ประเภท ซึ่งผู้ประกอบการเห็นแค่ข่าวก็เกรงว่าจะลามไปถึงสินค้าประเภทอื่น ๆ ด้วย

เพราะฉะนั้นช่วงเดือนเมษายน 2564 ผู้ประกอบการฝั่งเมียนมาจึงเร่งสั่งนำเข้าสินค้าไปตุนเอาไว้ เพื่อที่จะสามารถรองรับการใช้สินค้าในเดือนพฤษภาคม-มิถุนายน และถึงแม้ยังสามารถส่งออกสินค้ากลุ่มประเภทดังกล่าวได้ โดยหันไปส่งทางเรือแทนนั้น ยังส่งผลกระทบต่อผู้ประกอบการเรื่องต้นทุน รวมถึงค่าครองชีพต่าง ๆ ของลูกค้าฝั่งเมียนมาที่สินค้าอาจจะแพงขึ้น และสินค้าอาจจะได้ช้าลง เพราะต้องใช้เวลาขนส่งนานกว่าเดิม”

แหล่งข่าวจากผู้ประกอบการค้าชายแดน กล่าวกับ “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า คิดว่าสาเหตุที่รัฐบาลเมียนมาประกาศห้ามนำเข้าสินค้าเครื่องดื่ม 5 รายการขนส่งทางรถบรรทุกเข้าไป แต่ยังเปิดช่องให้ขนส่งทางเรือได้ เนื่องจากรัฐบาลต้องการเก็บภาษีจากการนำเข้าสินค้าได้อย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วย

รายงานข่าวจากกรมศุลกากรด่านแม่สอด ระบุว่า ยอดการค้าส่งออกและนำเข้าในช่วง 7 เดือนแรก (ตุลาคม 63-เมษายน 64) ปีงบประมาณ 2564 มียอดมูลค่าส่งออกรวม 48,348.502 ล้านบาท แยกออกเป็นส่งออกมูลค่า 38,853.654 ล้านบาท มูลค่านำเข้า 9,494.848 ล้านบาท

ทั้งนี้เมื่อแยกมูลค่าการส่งออกแล้วพบว่าเดือนตุลาคม 63 มูลค่า 3,121.912 ล้านบาท, เดือนพฤศจิกายน มูลค่า 6,237.930 ล้านบาท, เดือนธันวาคม มูลค่า 6,600.568 ล้านบาท, เดือนมกราคม 64 มูลค่า 6,517.276 ล้านบาท, เดือนกุมภาพันธ์ 64 มูลค่า 4,631.026 ล้านบาท, เดือนมีนาคม มูลค่า 5,564.515 ล้านบาท, เดือนเมษายน 64 มูลค่า 6,180.427 ล้านบาท

ส่วนมูลค่าการนำเข้าพบว่าเดือนตุลาคม 63 มูลค่า 287.062 ล้านบาท, เดือนพฤศจิกายน มูลค่า 573.154 ล้านบาท, เดือนธันวาคม มูลค่า 815.274 ล้านบาท, เดือนมกราคม 64 มูลค่า 629.277 ล้านบาท, เดือนกุมภาพันธ์ 64 มูลค่า 2,182.514 ล้านบาท, เดือนมีนาคม มูลค่า 2,918.321 ล้านบาท, เดือนเมษายน 64 มูลค่า 2,089.246 ล้านบาท