วัคซีน อบจ. ติดระเบียบจัดซื้อ ชงแก้ด่วน-มหาดไทยวิ่งวุ่นเคลียร์ปัญหา

ฉีดวัคซีน 2

ปลดล็อก อบจ.-อปท. ซื้อวัคซีนไม่ง่ายอย่างที่คิด เหตุติดระเบียบจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐ วอนมหาดไทยขอความชัดเจน ด้านกรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่นบอกให้เป็นไปตามประกาศ ศบค. กำลังทำหนังสือชี้แจงอยู่ ขณะที่มีสัญญาณจากกระทรวงมหาดไทยกำลังแก้ไขระเบียบจัดซื้ออยู่

แม้ว่าราชกิจจานุเบกษาจะเผยแพร่ประกาศของศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 (โควิด-19) ด้วยการกำหนดแนวทางบริหารจัดการวัคซีนโควิด-19 จำนวน 6 ข้อ เพื่ออำนวยความสะดวกและเปิดทางให้โรงพยาบาลเอกชนและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นสามารถจัดหาวัคซีนเองได้นั้น

ล่าสุดในทางปฏิบัติยังคงขาดความชัดเจนในรายละเอียดโดยเฉพาะอย่างยิ่งระเบียบการจัดซื้อ จากการสอบถามไปยังนายกิตติชัย เอ่งฉ้วน รองนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดกระบี่และรองเลขาธิการสมาคมองค์การบริหารส่วนจังหวัดแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ประกาศของ ศบค.เป็นเพียงหลักการกว้าง ๆ ที่จะ “ปลดล็อก” ให้ท้องถิ่นซื้อวัคซีนได้ แต่วิธีการจัดซื้อต่าง ๆ ต้องมีกระบวนการและขั้นตอนต้องปฏิบัติตามระเบียบ โดยตัวประกาศเองก็บอกไว้ชัดว่า “ให้จัดซื้อได้” แต่ต้องเป็นไปตามระเบียบและวิธีการที่เกี่ยวข้อง

ยกตัวอย่าง ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ให้จองซื้อผ่านเว็บไซต์และส่งเอกสารเข้าไปจอง ขั้นตอนนั้นไม่มีปัญหา แต่พอถึงกระบวนการจัดซื้อจัดจ้างจะมีระเบียบที่จะต้องปฏิบัติ เช่น ต้องมีการตั้งโครงการขึ้นมา ต้องมี “ราคากลาง” ในการเสนอราคาเข้ามา ต้องมีการตรวจสอบราคากลาง และการจัดซื้อในลักษณะรัฐต่อรัฐต้องมีรายละเอียดที่ไม่เหมือนการจัดซื้อแบบ e-bidding หรือการคัดเลือกทั่วไป ในส่วนนี้กระทรวงมหาดไทยต้องมีวิธีปฏิบัติที่ชัดเจนว่า จะให้จัดซื้อวิธีไหนหรืออย่างกรณีของราชวิทยาลัยจุฬากรณ์ต้องให้บริจาค 10% ถ้าเป็นการจัดซื้อจากเอกชนทำได้ แต่ของรัฐไม่มีระเบียบที่จะให้ไปบริจาค และยังมีกฎกระทรวงที่ออกโดยกรมบัญชีกลาง กระทรวงการคลัง ที่มีเงื่อนไข หนังสือฉบับ ว.89 ที่ให้หน่วยงานของรัฐใช้วัสดุหรือสิ่งของที่ผลิตในประเทศ 60% ในที่นี้ “ยาหรือวัคซีน” ก็อยู่ภายใต้ระเบียบการจัดซื้อนี้ด้วยและยังเป็นวัคซีนที่ต้องนำเข้าจากต่างประเทศ 100% อย่างเช่น กรณีของซิโนฟาร์ม

“ในหลักการซื้อได้ แต่ต้องซื้อตามระเบียบ การจัดซื้อเป็นการซื้อกรณีพิเศษที่ไม่ได้ออกมาสำหรับวัคซีนโควิด ถ้าแก้ไขยกเลิกฉบับเดิมไม่ได้ก็ควรออกระเบียบฉบับใหม่สำหรับการจัดซื้อวัคซีนโควิดโดยเฉพาะออกมาให้ครอบคลุม ถ้าแก้ไขฉบับเดิมแล้วทำให้ฐานการเขียนกฎหมายฉบับเดิมมันผิดเพี้ยนไปก็ออกฉบับใหม่มาเฉพาะวัคซีนโควิด เป็นระเบียบของกระทรวงมหาดไทยก็ได้ ด้วยอำนาจหน้าที่ของท้องถิ่นมีอยู่แล้วในการป้องกันและควบคุมโรคระบาด อบจ. อบต. เทศบาลมีหมด แต่ระเบียบที่จะใช้ปฏิบัติข้อปลีกย่อยต่าง ๆ จะต้องมีออกมาให้ชัดเจน”

ด้านนายสันติธร ยิ้มละมัย รองอธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น กล่าวถึงการจัดซื้อวัคซีนของหน่วยงานท้องถิ่นขณะนี้ให้เป็นไปตามที่ ศบค.ประกาศ เงื่อนไขหรือข้อกำหนดก็ต้องให้เป็นไปตามที่ ศบค.กำหนดเช่นกัน และต้องผ่านการบริหารจัดการทางจังหวัดหรือทางคณะกรรมการควบคุมโรคติดต่อจังหวัดเพื่อไม่ให้การทำงานซ้ำซ้อน โดยทางกรมคงจะมีหนังสือแจ้งไปยังจังหวัดต่าง ๆ อีกครั้ง ขณะนี้ท่านอธิบดีกำลังดำเนินการอยู่และจะแจ้งผ่านหนังสืออย่างเป็นทางการให้ทราบกันเร็ว ๆ นี้ ซึ่งเป็นเรื่องที่เร่งด่วนอยู่แล้ว


ขณะที่แหล่งข่าวระดับสูงจากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ได้แสดงความเห็นในเรื่องนี้ว่า แม้กระทรวงมหาดไทยจะอนุญาตให้ อปท.สามารถใช้งบฯในการจัดซื้อวัคซีนได้ แต่อาจจะยังติดขัดในเรื่องของระเบียบจัดซื้อจัดจ้างอยู่บ้าง ดังนั้น เพื่อหาทางออกในเรื่องนี้ คาดว่ากระทรวงมหาดไทยจะมีการแก้ไขหรือออกประกาศเพื่อ “ปลดล็อก” เรื่องระเบียบการจัดซื้อวัคซีนอีกครั้งหนึ่ง