จังหวัดสมุทรสาคร เตรียมเปิดแอปฯ “สาครรวมใจ” บริการประชาชนจองฉีดวัคซีนซิโนฟาร์ม ลอตแรก
วันที่ 18 มิถุนายน 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่เพจเฟซบุ๊ก สำนักงานประชาสัมพันธ์ จังหวัดสมุทรสาคร โพสต์ข้อความว่า นายวีระศักดิ์ วิจิตร์แสงศรี ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร ในฐานะประธานคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดสมุทรสาคร เปิดเผยถึงกรณีที่ อบจ.สมุทรสาคร ได้ยื่นเรื่องเพื่อขอให้มีการอนุมัติเห็นชอบให้ อบจ.สมุทรสาคร จัดซื้อวัคซีนซิโนฟาร์ม ระบุว่า ขณะนี้ คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดสมุทรสาครได้พิจารณาเห็นชอบเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
- เปิด 10 อันดับมหาวิทยาลัยรัฐ-ราชภัฏ-เอกชน ที่ได้รับความนิยมมากสุด
- โปรดเกล้าฯ พระราชทานยศ ข้าราชการในพระองค์ฝ่ายทหาร 3 ราย
- ยูโอบี ย้ำลูกค้าบัตรเครดิตซิตี้ ยังใช้งานได้ปกติ แจงสิ่งควรรู้หลังโอนพอร์ต
ผู้ว่าฯ ระบุว่า อบจ.สมุทรสาคร ได้ยื่นจองวัคซีนซิโนฟาร์มจำนวน 200,000 โดส เพื่อฉีดให้กับประชาชน 100,000 คน ส่วนท้องถิ่นอื่นในจังหวัดยังไม่มีที่ไหนยื่นขอมาเพิ่ม แต่หากท้องถิ่นใดจะจัดซื้อก็สามารถทำได้ เพียงทำตามขั้นตอนและให้ทางคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดสมุทรสาครพิจารณา
สำหรับการจองวัคซีนทางเลือกของ อบจ. สมุทรสาคร ขณะนี้ได้ให้สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด โรงพยาบาลต่าง ๆ ร่วมกันวางแผน เพื่อไม่ให้เกิดความซ้ำซ้อนกัน และต้องวางระบบการจองขึ้นมา ซึ่งมีแผนว่าจะต้องเปิดแอปพลิเคชั่น “สาครรวมใจ” เพื่อจองวัคซีนซิโนฟาร์มโดยเฉพาะ ควบคู่ไปกับการจองในรูปแบบเดิมที่มีอยู่ โดยจะต้องรีบจองภายในวันที่ 24 มิถุนายน เนื่องจากวันที่ 25 มิถุนายน เป็นกำหนดการฉีดวัคซีนซิโนฟาร์มวันแรกทั่วประเทศ
อย่างไรก็ตาม ผู้ว่าฯ ยังกังวลในเรื่องของจำนวนวัคซีนที่ยื่นขอมา 200,000 โดสจะได้ไม่ครบ และยังไม่ทราบว่าจังหวัดสมุทรสาครจะได้จัดสรรมาได้เท่าไร เนื่องจากวัคซีนซิโนฟาร์มที่จะเข้ามาลอตแรกมีจำนวน 1,000,000 โดส และต้องกระจายทั่วประเทศ ส่วนรูปแบบการจอง การบริหารจัดการ หลังได้รับวัคซีนซิโนฟาร์มมาแล้ว ทางจังหวัดจะแจ้งให้ทราบต่อไป
ขณะที่ โรงพยาบาลจุฬาภรณ์ แจ้งว่า การจัดสรรวัคซีนตัวเลือกซิโนฟาร์ม ระยะที่ 1 ครั้งที่ 1 ให้กับองค์กรและบริษัท ภาคองค์กรธุรกิจที่ได้รับการจัดสรรวัคซีนตัวเลือกซิโนฟาร์มสูงสุด 4 อันดับแรก ได้แก่
- ภาคธุรกิจบริการด้านอุปโภคและบริโภค 17.42 %
- ภาคอุตสาหกรรมและการผลิต 14.80 %
- ภาคธุรกิจการเงิน 11.58 %
- กลุ่มองค์กรด้านการแพทย์และการสาธารณสุข 10.82%
สำหรับภาคธุรกิจที่ได้รับการจัดสรรจากจำนวนที่ยื่นขอรับการจัดสรรสูงสุด 4 อันดับแรก ได้แก่
- ภาคกลุ่มองค์กรด้านการศึกษา 100%
- ภาคกลุ่มองค์กรการกุศล 100%
- ภาควิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม 82%
- ภาคองค์กรด้านการแพทย์และสาธารณสุข 81%
สำหรับ หน่วยงานราชการ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และกลุ่มอื่น ๆ รวมถึงองค์กรหรือบริษัทที่ยังไม่ได้รับการจัดสรรในครั้งนี้ อยู่ระหว่างการตรวจสอบเอกสารและรายละเอียดเพื่อลำดับความสำคัญของกลุ่มผู้ที่จะได้รับการฉีดวัคซีน ตลอดจนลักษณะและความเสี่ยงของกิจกรรมและกิจการ โปรดติดตามประกาศในครั้งต่อไป