อากาศหนาวมาเร็ว! ปลุกไฮซีซั่นคึกคัก เมืองภูเขาทะเลหมอก โหมโปรโมตแหล่งท่องเที่ยวใหม่

อากาศหนาวมาเร็ว ส่อเค้าเย็นยาวนาน ปลุกท่องเที่ยวไฮซีซั่นคึกคัก เมืองขุนเขา ทะเลหมอก สบช่องโหมโปรโมตแหล่งท่องเที่ยวใหม่ดึงดูดนักท่องเที่ยว ด้านเชียงใหม่รับอานิสงส์จีนทะลัก นักท่องเที่ยวเกินเป้าแล้วกว่า 9.9 ล้านคน เที่ยวบินพุ่งเกือบ 200 เที่ยว/วัน เชียงรายย้ำจุดขายเมืองธรรมชาติดอกไม้งาม ราชบุรีบูมเที่ยวชุมชนคู่สวนผึ้ง เมืองกาญจน์ชูไฮไลต์นอนนับดาวเขาสันหนอกวัว ด้านเขาค้อบูมเที่ยวเขาตะเคียนโง๊ะ-เก็บสตรอว์เบอรี่

เชียงใหม่รับ 200 เที่ยวบิน/วัน

นางละเอียด บุ้งศรีทอง นายกสมาคมโรงแรมไทย ภาคเหนือตอนบน เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า ไฮซีซั่นเชียงใหม่ปีนี้มีทิศทางที่ดีมาก เนื่องจากมีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามามากขึ้นอย่างต่อเนื่อง แบ่งเป็นนักท่องเที่ยวต่างชาติ 70% และคนไทย 30% โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวต่างชาติ มีสัดส่วนนักท่องเที่ยวชาวจีนมากถึง 30% ที่เหลือเป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวจากยุโรป สหรัฐอเมริกา ออสเตรเลีย เอเชียและอาเซียน และการท่องเที่ยวในรูปแบบเพื่อเป็นรางวัล (incentive) ขยายตัวเพิ่มมากขึ้น โดยในเดือน พ.ย.นี้ มีนักท่องเที่ยวจีนกลุ่ม incentive เดินทางเข้ามากว่า 1 พันคน

ทั้งนี้ คาดว่าเดือนพฤศจิกายน อัตราการเข้าพักของโรงแรมจะอยู่ในระดับ 90% และตลอด 4 เดือนของไฮซีซั่น (พ.ย. 2560-ก.พ. 2561) อัตราการเข้าพักจะอยู่ที่ราว 85-90% และคาดว่าอากาศหนาวในปีนี้จะส่งเสริมให้นักท่องเที่ยวคนไทยเดินทางท่องเที่ยวมากขึ้น

นางละเอียดกล่าวต่อว่า ผลจากนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาเชียงใหม่มากขึ้น ทำให้เกิดการลงทุนโรงแรมเพิ่มมากขึ้นมากกว่า 100% ในเขตเมืองเก่า หรือเขตสี่เหลี่ยมคูเมืองเชียงใหม่ โดยเฉพาะโรงแรมขนาดเล็กและโฮสเทล ปัจจุบันเขตเมืองเก่ามีโรงแรมมากถึง 400 แห่ง ขณะที่ภาพรวมของโรงแรมในจังหวัดเชียงใหม่มีจำนวนมากกว่า 2 พันแห่ง ห้องพักมากกว่า 6 หมื่นห้อง

นาวาอากาศตรีมณธนิก รักงาม ผู้อำนวยการท่าอากาศยานเชียงใหม่ กล่าวว่า จำนวนผู้โดยสารผ่านท่าอากาศยานเชียงใหม่เติบโตเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ล่าสุด เดือนกันยายน 2560 มีจำนวนผู้โดยสารเดินทางมายังจังหวัดเชียงใหม่ 9.9 ล้านคน ปัจจุบันมีจำนวนเที่ยวบินทั้งในและต่างประเทศบินเกือบ 200 เที่ยวต่อวัน

ด้านนางนวอร เดชสุวรรณ์ ผู้อำนวยการอาวุโส สำนักงานภาคเหนือ ธนาคารแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ภาวะเศรษฐกิจและการเงินภาคเหนือไตรมาสที่ 3 ปี 2560 เริ่มมีการฟื้นตัว โดยเฉพาะภาคการท่องเที่ยวขยายตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากจำนวนนักท่องเที่ยวจีนและตลาดประชุมสัมมนา โดยเฉพาะช่วงไตรมาสที่ 3 มีนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ผ่านท่าอากาศยานเชียงใหม่ เป็นสัดส่วนนักท่องเที่ยวจีน 60% ที่เหลืออีก 40% นักท่องเที่ยวต่างชาติอื่น ๆ ประกอบกับเข้าสู่ฤดูกาลท่องเที่ยวหรือไฮซีซั่น จึงคาดว่าการท่องเที่ยวจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจของภาคเหนือและเชียงใหม่ให้มีความคึกคัก

เชียงราย 1.6 หมื่นห้องจองใกล้เต็ม

นายกิตติ ทิศสกุล ประธานสภาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวจังหวัดเชียงราย เปิดเผยว่า ในปีนี้ฤดูหนาวมาถึงอย่างรวดเร็ว และคาดว่าอากาศจะหนาวเย็นยาวนาน ซึ่งจะทำให้ฤดูกาลท่องเที่ยวของภาคเหนือยาวนานมากขึ้น ส่งผลให้บรรยากาศการท่องเที่ยวมีความคึกคักเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยม เช่น ดอยตุง ภูชี้ฟ้า ผาตั้ง ภูชี้เดือน ภูชมดาว ดอยวาวี ดอยช้าง ดอยสะโง้ ดอยช้างมูบ ดอยหัวแม่คำ ฯลฯ

ทั้งนี้ ในช่วงเดือน พ.ย.นี้มีนักท่องเที่ยวจับจองห้องพักโรงแรม รีสอร์ต กว่า 80-90% จากห้องพักทั้งหมดประมาณ 16,000 ห้อง โดยบางแห่งถูกจองจนเต็มหมดไปแล้วในช่วงวันหยุดยาวและเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ ดังนั้นคาดว่าปี 2560 จะมีนักท่องเที่ยวไปเยือนเชียงรายไม่น้อยกว่า 3 ล้านคน และมีรายได้เข้าจังหวัดไม่น้อยกว่า 28,000 ล้านบาท หรืออาจจะทะลุไปถึงกว่า 30,000 ล้านบาท

ด้านนายอุทัย ทองทั่ว นายกองค์การบริหารส่วนตำบลตับเต่า อ.เทิง ซึ่งเป็นสถานที่ตั้งของภูชี้ฟ้า กล่าวว่า ได้เตรียมสถานที่จอดรถบัสและรถตู้ที่ไม่สามารถขึ้นดอยได้ไว้ที่บริเวณหน้าสำนักงาน อบต.ตับเต่า รวมทั้งจัดจุดบริการรถโดยสารสองแถวขึ้น-ลงจากลานไปยังยอดภูชี้ฟ้า เพราะจะไม่อนุญาตให้นักท่องเที่ยวนำรถไปถึงบริเวณยอดภู เพราะถนนคับแคบและเป็นทางเดิน รวมทั้งปรับปรุงห้องน้ำ และเตรียมจุดกางเต็นท์ไว้พร้อมแล้ว

เช่นเดียวกับนายปิยะเดช เชิงพิทักษ์กุล นายกองค์การบริหารส่วนตำบลแม่สลองใน อ.แม่ฟ้าหลวง กล่าวว่า ปีนี้ได้ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดงานดอกบัวตองบานดอยหัวแม่คำ วันที่ 17-19 พ.ย.นี้ ที่หมู่บ้านหัวแม่คำ ม.4 ต.แม่สลองใน โดยจะมีการแสดงศิลปวัฒนธรรมและการละเล่นพื้นบ้านของกลุ่มชาติพันธุ์ทั้ง 7 กลุ่ม ซึ่งดอยหัวแม่คำมีภูมิประเทศที่รายล้อมด้วยขุนเขาที่สวยงาม มีทะเลหมอกในยามเช้า และดอกบัวตองจะบานสะพรั่งเต็มที่ในช่วงเดือน พ.ย.-ธ.ค.ทุกปี

ได้เวลาเที่ยว – ปีนี้ฤดูหนาวมาเยือนอย่างรวดเร็ว และคาดว่าอากาศจะหนาวเย็นข้ามปี ส่งผลดีทำให้ฤดูกาลท่องเที่ยวของภาคเหนือยาวนานมากขึ้น ส่งผลให้บรรยากาศการท่องเที่ยวมีความคึกคักเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยม เช่น ดอยตุง ภูชี้ฟ้า ผาตั้ง ภูชี้เดือน ภูชมดาว ดอยวาวี ดอยช้าง ดอยสะโง้ ดอยช้างมูบ ดอยหัวแม่ค้ำ


เขาค้อบูมเที่ยวเขาตะเคียนโง๊ะ

นางสมลักษณ์ เพ่งพิศ ประธานชมรมธุรกิจท่องเที่ยวเขาค้อ จ.เพชรบูรณ์ เปิดเผยว่า เขาค้อปีนี้อากาศเย็นเร็วกว่าปีที่ผ่านมา พร้อมรับเทศกาลท่องเที่ยวที่จะเปิดอย่างเป็นทางการในวันที่ 18 พ.ย.นี้ที่บริเวณจุดชมวิว ล่าสุดยอดจองโรงแรมช่วงไฮซีซั่นอยู่ที่ 80% คาดว่านักท่องเที่ยวจะเพิ่มมากขึ้นกว่าปีที่ผ่านมา 30% โดยปีนี้จะมีกิจกรรมมากมาย อาทิ คอนเสิร์ตเดอะ รีเจนต์ วันที่ 11 พ.ย. 2560 และคอนเสิร์ตโอเวอร์โค้ต วันที่ 10 ธ.ค. 2560 ส่วนแหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติปีนี้จะบูมท่องเที่ยวเขาตะเคียนโง๊ะ ตำบลหนองแม่นา ซึ่งเป็นจุดชมวิวที่สามารถชมทะเลหมอก และพระอาทิตย์ขึ้นได้แบบ 360 องศา ซึ่งในช่วงเดือนกุมภาพันธ์จะมีกิจกรรมวิวาห์ 360 องศาด้วย

ขณะที่กิจกรรมเก็บสตรอว์เบอรี่ยังเป็นไฮไลต์ของเขาค้อ มีเกษตรกรหลายร้อยรายที่ลงทุนปลูกสตรอว์เบอรี่ทั้งริมถนนสายหลักและในหมู่บ้าน โดยจะเพิ่มเติมกิจกรรมประกวดทำอาหาร ขนม และเครื่องดื่มจากสตรอว์เบอรี่ให้นักท่องเที่ยวได้ชิมได้อย่างจุใจ

นอนนับดาวเขาสันหนอกวัว

นายเทวินทร์ มีทรัพย์ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาแหลม อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี เปิดเผยว่า เขาสันหนอกวัวตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติเขาแหลม เป็นจุดเช็กอินชมทะเลหมอกที่สวยงามที่สุดแห่งหนึ่งของเมืองไทย มีลักษณะคล้ายกับสันนูนบนหลังของวัว ซึ่งจะต้องเดินขึ้นเขาไป 12 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินเท้า 5-6 ชั่วโมง โดยอุทยานฯได้ประกาศเปิดเส้นทางศึกษาธรรมชาติเขาสันหนอกวัว ตั้งแต่วันที่ 4 พ.ย. 2560-28 ก.พ. 2561 (เปิดวันพฤหัสบดี, ศุกร์, เสาร์, อาทิตย์) ซึ่งจะจำกัดนักท่องเที่ยววันละไม่เกิน 8 กรุ๊ป กรุ๊ปละไม่เกิน 7 คน ซึ่งจะมีเจ้าหน้าที่คอยดูแลความปลอดภัย รวมทั้งแนะนำข้อควรปฏิบัติขณะเดินทางกรุ๊ปละ 1 นาย

ราชบุรีขยายท่องเที่ยวสู่ชุมชน

ด้านนายวิศรุต อินแหยม ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานกาญจนบุรี เปิดเผยว่า การท่องเที่ยวใน จ.ราชบุรี มีการกระจายตัวของนักท่องเที่ยวไปยังชุมชนมากขึ้นไม่ใช่เฉพาะสวนผึ้งเท่านั้น โดยเฉพาะในอำเภอโพธาราม บ้านโป่ง บางแพ รวมไปถึงตลาดน้ำ ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงวิถีชาวบ้าน มีผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวที่เป็นเด็กรุ่นใหม่มากขึ้นกลายเป็นชุมชนคนอาร์ต ซึ่งเป็นการท่องเที่ยววิถีไทย เก๋ไก๋สไตล์ลึกซึ้งของราชบุรี ขณะเดียวกันสวนผึ้งยังคงได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่องในการจัดกิจกรรมต่าง ๆ จึงทำให้นักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วราว 26% คาดว่าจะมีรายได้ทั้งปีอยู่ที่ 4-5 พันล้านบาท

นอกจากนั้น ในปี 2561 ททท.จะสนับสนุนแหล่งท่องเที่ยวใหม่ เช่น กุ้ยหลินเมืองราชบุรี (อุทยานหินเขางู) ถนนคนเดินริมแม่น้ำแม่กลอง เปิดเส้นทางการท่องเที่ยวเชิงเกษตรที่ตำบลดอนคา รวมทั้งพัฒนาตลาดน้ำประมาณ 5 แห่งให้กลายเป็นตลาดเยาวราชทางน้ำหนึ่งเดียวในประเทศไทย คาดว่าจะใช้งบฯพัฒนาของกลุ่มจังหวัดไม่ต่ำกว่า 200-300 ล้านบาท โดยจับกลุ่มนักท่องเที่ยวเจนวาย กลุ่มนักศึกษา กลุ่มซีเอสอาร์ที่กำลังให้ความสนใจกับโครงการพระราชดำริเขาชะงุ้ม ซึ่งเป็นไฮไลต์ที่สามารถกระจายนักท่องเที่ยวได้อีกด้วย

ด้านนายปิรันธ์ ชิณโชติ ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจังหวัดราชบุรี กล่าวว่า ปีนี้นักท่องเที่ยวเปลี่ยนกลุ่มจากตลาดแมสมาเป็นกลุ่มที่มีคุณภาพระดับกลางถึงระดับพรีเมี่ยม โดยมีกำลังซื้อและการจับจ่ายใช้สอยมากขึ้น ซึ่งทิศทางในปี 2561 จะเน้นไปด้านสปอร์ตทัวริซึ่มมากขึ้น เพราะกลุ่มนักท่องเที่ยวเชิงกีฬาจะมีอำนาจในการซื้อสูง และรู้จักรักษาธรรมชาติได้ดี กลุ่มเป้าหมายคือ วัยทำงานมีครอบครัว และคู่รัก ซึ่งรายได้น่าจะมากกว่าเดิม 10%