5 เอกชนร้อง “นักการเมืองโคราช” กลับมาช่วยแก้วิกฤตโควิด-ศก.ทรุด

โคราช ปากช่อง

5 องค์กรภาคเอกชนโคราช ร้องนักการเมืองกลับบ้านมาช่วยประชาชนช่วงโควิด จัดหาวัคซีน-ชุดตรวจหาเชื้อ-การเข้าถึงเงินกู้-ขยายเวลาลงทะเบียน ม. 40 เพิ่มวงเงินเยียวยา 

วันนี้ (8 สิงหาคม 2564) เวลา 11.11 น. องค์กรภาคเอกชน 5 สถาบันจังหวัดนครราชสีมา ประกอบด้วยหอการค้าจังหวัดนครราชสีมา, สภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจังหวัดนครราชสีมา, สมาพันธ์เอสเอ็มอีไทยจังหวัดนครราชสีมา, เครือข่าย Biz Club นครราชสีมา และชมรมผู้ประกอบการร้านอาหารจังหวัดนครราชสีมา ร่วมกันออกแถลงการณ์ผ่านสื่อโซเชียลในจังหวัดนครราชสีมา เพื่อเรียกร้องให้นักการเมืองโคราชเร่งแก้ไขปัญหาผลกระทบด้านเศรษฐกิจและความเป็นอยู่ของประชาชนชาวโคราช 

นายศักดิ์ชาย ผลพานิชย์ ประธานหอการค้าจังหวัดนครราชสีมา กล่าวว่า หลังจากเกิดการแพร่ระบาดร้ายแรงของเชื้อไวรัสโควิด-19 ขึ้นในประเทศไทย และจังหวัดนครราชสีมาได้ประกาศให้เป็นจังหวัดพื้นที่ที่มีความเสี่ยงสูงในการติดเชื้อ เป็นพื้นที่สีแดงเข้ม ที่มีมาตรการควบคุมเข้มงวดสูงสุด  ทำให้เกิดเป็นวิกฤติที่เกิดขึ้นในจังหวัด คือ วิกฤติด้านสาธารณสุข และวิกฤติด้านเศรษฐกิจ ผู้ประกอบการหลายรายและในหลายธุรกิจประสบกับความยากลำบากในการประกอบกิจการ รวมทั้งแรงงานก็ได้รับผลกระทบจากการเลิกจ้าง หรือลดชั่วโมงในการทำงานลง ส่งผลต่อการใช้ชีวิตของประชาชน และระบบเศรษฐกิจโดยรวมของจังหวัดเป็นอย่างมาก 

ในเบื้องต้นหอการค้าจังหวัดนครราชสีมาร่วมกับประกันสังคมจังหวัดนครราชสีมาได้จัดตั้งศูนย์ให้คำปรึกษา การเยียวยาผู้ประกอบการและลูกจ้างที่ได้รับผลกระทบจากคำสั่งของภาครัฐ  โดยติดต่อสอบถามได้ที่หมายเลข 086-4617729 

และหอการค้าจังหวัดนครราชสีมาได้รับการจัดตั้งให้เป็น”ศูนย์ไกล่เกลี่ยข้อพิพาทภาคเอกชน”แห่งแรกของประเทศอย่างเป็นทางการ เพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการ และประชาชนในเขตจังหวัดนครราชสีมา 

วันนี้หอการค้าฯ ได้ร่วมกับพันธมิตรภาคเอกชน อีก 4 แห่ง ประกอบด้วย สภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจังหวัดนครราชสีมา, สมาพันธ์เอสเอ็มอีไทยจังหวัดนครราชสีมา, เครือข่าย Biz Club นครราชสีมา และชมรมผู้ประกอบการร้านอาหารจังหวัดนครราชสีมา นำข้อเสนอต่างๆ ที่จะช่วยเหลือผู้ประกอบการในช่วงวิกฤติครั้งนี้ต่อผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งผู้ว่าฯ พร้อมเร่งดำเนินการโดยด่วน และพร้อมทำงานร่วมกับภาคเอกชน

“ในวันนี้ เราอยากจะเรียกร้องไปยังผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับความเป็นอยู่ของประชาชน ผู้ประกอบการขนาดเล็ก ขนาดกลาง ในโคราช อันได้แก่ 2 รัฐมนตรี, 2 สมาชิกวุฒิสภา, 14 สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ที่เป็นตัวแทนของพวกเราชาวโคราช ได้ออกมารวมกันเป็นน้ำหนึ่งใจเดียว ออกมาช่วยคิด ช่วยทำ ร่วมกับจังหวัด  องค์การบริหารส่วนจังหวัด เทศบาล องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และภาคเอกชน ในการที่จะบรรเทาวิกฤติครั้งนี้ ให้ผ่านพ้นไปให้เร็วที่สุด

โดยขอเรียกร้องให้  รัฐมนตรี, ส.ว., ส.ส. ดำเนินการตามข้อเรียกร้องดังนี้ 1.ขอให้เร่งจัดหาวัคซีนทั้งวัคซีนของทางภาครัฐ และวัคซีนทางเลือก นำมาฉีดให้กับประชาชนในจังหวัดให้ได้มากกว่า 70% และเร็วที่สุด เพื่อให้เกิดภูมิคุ้มกันหมู่ ซึ่งจะทำให้การใช้ชีวิตและเศรษฐกิจสังคมของโคราช กลับมาเหมือนเดิมโดยเร็วที่สุด

2.ขอให้ใช้ศักยภาพในทุกทางจัดหาชุดตรวจโควิด Antigen Test Kits (ATK) เพื่อทำการตรวจคัดกรองกลุ่มเสี่ยง และประชาชนทั่วไป รวมทั้งผู้ประกอบการ และภาคอุตสาหกรรม ให้ทั่วถึงและเร็วที่สุด 

3.การเข้าถึงแหล่งเงินทุนแก่ผู้ประกอบการ Micro SME และ SME ให้สะดวก และรวดเร็ว โดยเน้นไปที่สถาบันการเงินของรัฐ เพื่อช่วยเหลือเงินหมุนเวียนในช่วงโควิด และ 4.ขอขยายระยะเวลาการลงทะเบียนผู้ประกันตนมาตรา 40 ของประกันสังคม ออกไปอีกไม่น้อยกว่า 1 เดือน และเพิ่มวงเงินเยียวยา เพื่อให้กลุ่มอาชีพอิสระที่มีอายุตั้งแต่ 15-65 ปี ได้เข้าถึงเงินเยียวยาจากประกันสังคม

ดร.วัชรี ปรัชญานุสรณ์ ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจังหวัดนครราชสีมา  กล่าวว่า เห็นด้วยอย่างยิ่งกับประธานหอการค้า ในประเด็นที่พวกเราออกมาเรียกร้องทั้ง 4 ประเด็นหลักในวันนี้ ในภาคส่วนของอุตสาหกรรมท่องเที่ยวของโคราช ซึ่งมีทั้งโรงแรม ที่พัก ร้านอาหาร แหล่งท่องเที่ยว ร้านขายของฝากของที่ระลึก บริษัทออร์แกไนต์  ผู้รับจัดงาน  บริษัทนำเที่ยว รวมไปถึงห่วงโซ่การท่องเที่ยว เช่น การเดินทาง ขนส่ง ไกด์ มัคคุเทศก์ ศิลปิน คนเบื้องหลัง  

ปัจจุบันคนส่วนใหญ่ไม่มีทำงานแล้ว  ล้วนแต่ตกอยู่ในสถานการณ์ชะงักงัน ผลกระทบ จากสถานการณ์ครั้งนี้ 1. เศรษฐกิจได้รับผลกระทบต่อเนื่องอย่างรุนแรง ตั้งแต่ปี 63 – 64 โดยจำนวนนักท่องเที่ยวภายในประเทศมาสู่จังหวัดนครราชสีมา ลดลงกว่า  2,885,787 คน หรือ – 50.72% 2. จากการลดลงของนักท่องเที่ยว ทำให้รายได้ของสถานประกอบการที่เกิดจากการท่องเที่ยวและสันทนาการ คือ โรงแรม ที่พัก ร้านอาหาร สถานที่ท่องเที่ยว แหล่งเรียนรู้ ภาคเกษตร และกิจกรรมสืบเนื่อง หายไปประมาณ 6,566 ล้านบาท หรือ -51.84% 3. จากการขาดรายได้ ทำให้เกิดการว่างงานเกินกว่า 50% ของการจ้างในระบบ โดยสถานประกอบการต้องลดจำนวนพนักงาน เลิกจ้างพนักงานเป็นจำนวนมาก ส่งผลกระทบต่อหนี้ครัวเรือนที่เพิ่มสูงขึ้น 4.จากการล็อกดาวน์ ที่เกิดขึ้นส่งผลกระทบในไตรมาสที่ 3 – 4 ในปี 64 คาดการณ์ว่าจำนวนนักท่องเที่ยวและนักเดินทางจะหายไปกว่า 80% ทำให้ระบบเศรษฐกิจอยู่ในภาวะสุญญากาศ ซึ่งมิอาจคาดเดาความเสียหายที่จะตามมาในอนาคตและยากต่อการฟื้นฟูในอนาคต 

เชื่อว่าทุกคน ทุกภาคส่วนมีความคิดเห็นที่สอดคล้องกันในแนวทางแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจโดยภาพรวม สิ่งที่คนโคราชต้องการด่วนที่สุดในเวลานี้คือ วัคซีน จึงขอเรียกร้องให้ รัฐมนตรี ส.ส. ส.ว. ตัวแทนของคนโคราช ออกมาผลักดันตามบทบาทหน้าที่ของท่าน คือเป็นกระบอกเสียงแทนประชาชนในจังหวัด และหาทางแก้ไขปัญหานี้โดยเร่งด่วน ภายในเดือนกันยายน นี้คนโคราชควรได้รับวัคซีน 70% ของประชากรทั้งหมด เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ ลดความสูญเสียชีวิต ลดลูกกำพร้าพ่อแม่  สร้างความเชื่อมั่นในการใช้ชีวิต ซึ่งแน่นอนว่าตามสถานการณ์ที่รุนแรงนี้ มิอาจจะคาดหวังให้เศรษฐกิจกลับมาเติบโตได้เหมือนเดิมแต่หวังว่าผู้แทนราษฎร ตัวแทนของประชาชน จะลุกขึ้นมาทำหน้าที่ เพื่อให้โคราชของเรากลับมาลุกขึ้นเดินได้อีกครั้ง

น.ส. สุรีวัลย์  จันทร์ประทักษ์ ประธานสมาพันธ์เอสเอ็มอีไทยจังวัดนครราชสีมา กล่าวว่า เห็นด้วยเป็นอย่างยิ่งในข้อเรียกร้องทั้ง 4 ข้อ ในฐานะตัวแทนผู้ประกอบการ SME ที่กำลังแย่โดยเฉพาะ SME รายย่อยหรือ Micro SME ที่กำลังจะตายซึ่งไม่รู้ว่าจะตายเพราะติดโควิด จะตายเพราะอดตายหรือจะตายเพราะต้องฆ่าตัวตายจากปัญหาทุกอย่างที่มันรุมเร้าแล้วไม่มีทางออก ซึ่ง 3 ความตายนี้อันไหนจะมาถึงก่อนกัน เป็นความเดือดร้อนที่แสนสาหัสที่หวังให้รัฐมนตรี  ส.ว.  และ ส.ส. โคราชทุกคนช่วยเหลือในข้อเรียกร้องทั้ง 4 ข้อโดยด่วนที่สุดเพื่อให้ทุกคนรอดจากความตายโดยเร่งด่วน 

นางสาวสมลักษณ์ ศรีสุวรรณ ประธานคณะกรรมการเครือข่ายธุรกิจบิสคลับ จังหวัดนครราชสีมา กล่าวว่า กลุ่มผู้ประกอบการมีความเห็นที่เหมือนกัน คือ เมื่อไหร่ที่สถานการณ์โควิด-19 นี้จะจบ เนื่องจากระยะเวลาผ่านมานานสร้างความเสียหายให้ธุรกิจเป็นจำนวนมหาศาล จนทุกวันนี้เราไม่เหลือความหวังอะไร นอกจากทำอย่างไรให้มีชีวิตรอดปลอดภัย ซึ่งถ้าหากเราปิดกิจการลง และเปิดใหม่เมื่อสถานการณ์โควิดดีขึ้น ก็คงไม่ยากเท่ากับการพยุงธุรกิจให้อยู่รอดไปในช่วงระยะเวลานี้ และในสถานการณ์ที่วิกฤตเช่นนี้ พวกเราต้องการกำลังใจจากตัวแทนที่เราเรียกว่า “ผู้แทนราษฎร” อยากให้พวกท่านบอกพวกเราว่าวันนี้พวกเราควรทำเช่นไรในสถานการณ์เช่นนี้ ซึ่งพวกเราต้องการแยกปลาออกจากน้ำ ต้องการแยกผู้ป่วยออกจากผู้ที่ไม่ป่วย พวกเราต้องการชุดตรวจโควิด Antigen Test Kits (ATK) และพวกเราเชื่อว่าผู้แทนราษฎรทุกท่านจะช่วยดำเนินการส่งให้ประชาชนทุกบ้านเหมือนตอนส่งเอกสารมาเชิญชวนให้ประชาชนมาเลือกตั้งท่านด้วย 

นายจีระศักดิ์ คาระวิวัฒนา ประธานชมรมผู้ประกอบการร้านอาหารจังหวัดนครราชสีมา กล่าวว่า รมต. ส.ส. ส.ว. โคราชการที่องค์กรต่างๆ ออกมาพูดวันนี้ เพราะเราได้รับความเดือดร้อนเป็นอย่างมาก ขอให้นักการเมืองโคราชทั้ง 18 คนออกมาช่วยกันบ้าง ลองสู้ ลองคิด ช่วยชาวโคราช ปัญหามีเยอะมาก จะเห็นได้จากหลังประกาศมาตรการล็อกดาวน์ห้ามนั่งทานอาหารในร้าน ทำให้รายได้ส่วนหนึ่งของร้านอาหารหายไป เราต้องสู้ ต้องต่อลมหายใจ ทั้งลูกน้อง พนักงาน ทุกอย่างในวงการร้านอาหารหายไป เมื่อหายไปไม่มีรายได้ หากมีเงินทุนหมุนเวียนให้ผู้ประกอบการก็จะเป็นการต่อลมหายใจได้ ที่ผ่านมาสถาบันการเงินมีปัญหา ไม่ได้เงินมาให้กู้จริงๆ ขอให้ออกมาช่วยผู้ประกอบการต่อลมหายใจ ก่อนที่จะไม่มีลมหายใจตายกันหมด

นายศักดิ์ชายกล่าวทิ้งท้ายว่า ทุกวินาทีที่ท่านล่าช้า ละเลย คือการทำงานหนักของบุคคลากรทางการแพทย์ คือความตายที่คืบคลานเข้ามา คือเวลาที่ล่าช้าออกไปในการฟื้นฟู  

“ท่านรัฐมนตรี ท่าน ส.ส. ท่าน ส.ว. ที่เป็นคนโคราช ทุกท่านครับ ช่วงนี้เป็นโอกาสอันดีของท่านนะครับ ที่จะได้แสดงให้เห็นถึงผลงานให้เป็นที่ประจักษ์ชัด ให้คนโคราชได้เห็นว่าทุกท่าน ได้ร่วมมือกันเพื่อช่วยชาวโคราช  ออกมาเถอะครับ เพราะ ทุกวินาทีที่ท่านล่าช้า คือการทำงานหนักขึ้น ของบุคลากรทางการแพทย์ คือตัวเลขความตายที่สูงขึ้น ออกมาร่วมกับจังหวัด องค์การบริหารส่วนจังหวัด เทศบาล องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และภาคเอกชน มาช่วยกันคิด ช่วยกันทำ และช่วยกันสร้างให้ชาวโคราชบ้านเราได้กลับคืนสู่การใช้ชีวิตที่เป็นปกติ มีการค้า การขายที่ดี มีเศรษฐกิจที่หมุนเวียน ประชาชนมีความเป็นอยู่ที่ดี มีคุณภาพชีวิตที่ดี  เราหวังเป็นอย่างยิ่งว่า เสียงของพวกเราทั้ง 5 องค์กร คงจะได้ยินถึงท่าน รมต. ส.ส. ส.ว. คนโคราช และลงมาช่วยประชาชนและผู้ประกอบการในโคราชโดยเร็ว ท่านครับตอนนี้การเยียวยาอาหารไม่ตอบโจทย์ ท่านต้องกระโดดเข้ามาช่วยกัน แล้วครับ” .