เครือข่ายสวนยางใต้ชง กยท. ปลูกฟ้าทะลายโจรเพิ่มรายได้

ฟ้าทะลายโจรป้องกันโควิดได้หรือไม่
ภาพจากเทคโนโลยีชาวบ้าน

ภาคีเครือข่ายชาวสวนยางและสวนปาล์มแห่งประเทศไทยชงการยางแห่งประเทศไทยสนับสนุนนโยบายชาวสวนยางพาราทั่วประเทศไทยปลูกสมุนไพรฟ้าทะลายโจรแซมในสวนยางพารา หลังใช้รักษาป้องกันโรคโควิด-19 ได้ผล ทำตลาดผลิตภัณฑ์ฟ้าทะลายโจรขาดตลาดหนัก “เมล็ด” ฟ้าทะลายโจร ราคาพุ่ง 50,000 บาท/กก.แคปซูลคงราคาวิ่ง

นายทศพล ขวัญรอด ประธานภาคีเครือข่ายชาวสวนยางและสวนปาล์มน้ำมันแห่งประเทศไทย (คยปท.) เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า ตนได้รับการแต่งตั้งจากนายกรัฐมนตรี ให้เป็นคณะทำงานนโยบายยุทธศาสตร์ยางพารา 20 ปี ประจำปี 2565-2566 ทั้งเพื่อยกร่างนโยบายเกี่ยวกับยางพารา โดยทำการประชุมในวันที่ 3 สิงหาคม 2564 เป็นครั้งที่ 1 ตนได้นำเสนอต่อที่ประชุม

เพื่อให้การยางแห่งประเทศไทย (กยท.) ดำเนินการนำร่องในการปลูกพืชสมุนไพรร่วมกับสวนยางพารา และบริเวณรอบบ้านชานเรือนชาวสวนยางพาราที่มีอยู่ทั่วประเทศและสวนยางพาราประมาณ 20 ล้านไร่อีกด้วย

โดยเฉพาะการปลูกฟ้าทะลายโจรพืชสมุนไพรไทยกับสวนยางพารา เนื่องจากเป็นพืชไร่ที่สามารถอยู่ร่วมกันได้ และกำลังเป็นที่ต้องการของตลาด เพื่อนำไปรักษาและป้องกันโรคโควิด-19

“พืชสมุนไพรฟ้าทะลายโจรที่จะนำเอามาบริโภคเพื่อเป็นยาสมุนไพรในการรักษาและป้องกันโควิด-19 พืชสมุนไพรมีเป็นหลักฐานได้ว่า ผู้บริโภคฟ้าทะลายโจรยังมีอายุยืนอยู่มาจนถึงขณะนี้

บางคนถึง 60-70 ปีแล้ว ยังไม่ได้รับผลกระทบใด ๆ และบางหมู่บ้านต่างปลูกฟ้าทะลายโจรไว้บริเวณบ้านชานเรือนเพื่อบริโภคเอง และขณะนี้บางหมู่บ้านทั้งหมู่บ้านยังปลอดภัยจากโควิด-19” นายทศพลกล่าวและว่า

ทั้งนี้ โดยให้การยางแห่งประเทศไทย (กยท.) ทำเป็นนโยบายและปฏิบัติทันที และประการสำคัญ จะต้องได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลอย่างเต็มที่ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับชาวสวนยางพาราทั่วประเทศด้วย

นายทศพลกล่าวต่อไปว่า ขณะนี้ฟ้าทะลายโจรขาดแคลน แม้กระทั่งของสันติอโศกที่มีสาขาอยู่หลายแห่งทั่วประเทศไทยยังขาดแคลนหมด และตนได้รับคำปรึกษาจากที่ปรึกษา คยปท.ระบุว่า

ขณะนี้ฟ้าทะลายโจรราคาสูงขยับขึ้นสูงถึง 300 เปอร์เซ็นต์ ยาสมุนไพรฟ้าทะลายโจรสำเร็จรูปจากเม็ดละ 1 บาท มาเป็น 3-4 บาท โดยเฉลี่ยกระปุกละ 300 บาท มีฟ้าทะลายโจรเพียง 100 เม็ด/กระปุก

“ตอนนี้มีผู้คนจำนวนมากหาซื้อเมล็ดฟ้าทะลายโจรเพื่อนำไปลงทุนปลูก ราคาประมาณ 50,000 บาท/กก. เท่าที่ทราบตอนนี้ในหลายประเทศให้ความสนใจสมุนไพรฟ้าทะลายโจร โดยเฉพาะองค์การสหประชาชาติ (UN) ให้ความสนใจเช่นกันในขณะนี้” นายทศพลกล่าว

อนึ่ง หลังจากกระแสความต้องการฟ้าทะลายโจรพุ่งขึ้น ทางกรมวิชาการเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้แจ้งผ่านเพจเฟซบุ๊กกรมวิชาการเกษตร ว่ามีการจัดเตรียมกล้าพันธุ์ฟ้าทะลายโจรไว้ จำนวน 100,000 ต้น

เพื่อแจกจ่ายให้กับประชาชนปลูกตามบ้านเรือน รายละไม่เกิน 5 ต้น หากใครสนใจรับกล้าพันธุ์ ให้เข้ามาลงทะเบียนเพื่อขอรับกล้าพันธุ์ฟ้าทะลายโจร และ สแกน QR Code ปรากฏว่า หลังประกาศเพียงไม่นาน พันธุ์ต้นกล้าฟ้าทะลายโจร จำนวน 100,000 ต้นหมดลงอย่างรวดเร็ว