ภูเก็ตแซนด์บอกซ์ : เปิดคำสั่งใหม่ เข้า-ออกภูเก็ต พร้อมหนังสือรับรองการเดินทาง

ภูเก็ตแซนด์บอกซ์ : เปิดคำสั่งใหม่ เข้า-ออกภูเก็ต พร้อมหนังสือรับรองการเดินทาง
ภาพจาก pixabay

จังหวัดภูเก็ต ประกาศคำสั่งใหม่ เข้า-ออก จังหวัด ต้องใช้หนังสือรับรองการเดินทาง มีผลตั้งแต่ 8 ก.ย. นี้

วันที่ 6 กันยายน 2564 เฟซบุ๊ก สำนักงาน ประชาสัมพันธ์จังหวัดภูเก็ต โพสต์ประกาศคำสั่งจังหวัดภูเก็ต ฉบับที่ 5267/2564 ลงวันที่ 5 กันยายน 2564 แก้ไขเพิ่มเติม มาตรการตรวจคัดกรองการเดินทางเข้าจังหวัดภูเก็ต
– มีผลตั้งแต่วันที่ 8 – 14 กันยายน 2564 โดยระบุว่า

ตามที่ได้มีประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในทุกเขตท้องที่ทั่วราชอาณาจักรตั้งแต่วันที่ 26 มีนาคม 2563 ซึ่งต่อมาได้ขยายระยะเวลาการบังคับใช้ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินออกไปเป็นระยะจนถึงวันที่ 30 กันยายน 2564 และจังหวัดภูเก็ตได้มีคำสั่งที่ 5339/2564 ลงวันที่ 31 สิงหาคม 2564 เรื่องมาตรการตรวจคัดกรองการเดินทางเข้าจังหวัดภูเก็ตตามมาตรการป้องกันและควบคุมโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ตั้งแต่วันที่ 1-14 กันยายน 2564 ไปแล้ว นั้น

เพื่อควบคุมสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ควบคู่ไปกับการดำเนินชีวิตของประชาชนและมาตรการทางด้านเศรษฐกิจอาศัยอำนาจตามความในมาตรา 22 มาตรา 34 มาตรา 35 แห่งพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ. 2554 และข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2554 (ฉบับที่ 1) ลงวันที่ 25 มีนาคม 2563

(ฉบับที่ 24) ลงวันที่ 14 มิถุนายน 2564 (ฉบับที่ 25) ลงวันที่ 26 มิถุนายน 2564 (ฉบับที่ 27) ลงวันที่ 10 กรกฎาคม 2564 (ฉบับที่ 28) ลงวันที่ 19 กรกฎาคม 2564 และ (ฉบับที่ 30) ลงวันที่ 9 สิงหาคม 2564 ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ตโดยความเห็นชอบของคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดภูเก็ตตามมติที่ประชุมครั้งที่ 53/2564 เมื่อวันที่ 5 กันยายน 2564 จึงแก้ไขเพิ่มเติมคำสั่งจังหวัดภูเก็ตที่ 5134/2524 ลงวันที่ 31 สิงหาคม 2564 ดังต่อไปนี้

ข้อ 1 ให้ยกเลิกความเดิมในข้อ 1 16) ผู้ที่เดินทางเข้ามาจังหวัดภูเก็ตเพื่อการท่องเที่ยวโดยต้องมีหลักฐานการจองโรงแรมหรือสถานที่พักและชำระค่าที่พักล่วงหน้าและหากพักอาศัยเกิน 7 วันต้องเข้ารับการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ในวันที่ 5 ของการพักอาศัยในจังหวัดภูเก็ตโดยผู้เดินทางเป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายเองทั้งนี้ให้มีผลตั้งแต่วันที่ 4 กันยายน 2564เป็นต้นไป) โดยให้ใช้ความต่อไปนี้แทน

“16) ผู้ที่เดินทางเข้ามาจังหวัดภูเก็ตเพื่อการท่องเที่ยวต้องมีหลักฐานการจองที่พักหรือใบยืนยันรายการนำเที่ยวและชำระเงินล่วงหน้าโดยต้องลงทะเบียนผ่าน www.gophuget.com และแสดง QR CODE ก่อนเดินทางเข้าจังหวัดภูเก็ต”

ข้อ 2 ให้เพิ่มเติมบุคคลหรือหรือผู้ขับขี่ยานพาหนะที่ได้รับการยกเว้น

“18) ผู้ป่วยหรือผู้มีความจำเป็นต้องพบแพทย์หรือเข้ารับบริการทางการแพทย์และสาธารณสุข (ต้องมีใบนัดหมายทางการแพทย์) รวมทั้งผู้ดูแลบุคคลดังกล่าวแพทย์พยาบาลบุคลากรทางการแพทย์และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องที่ต้องปฏิบัติงานในการให้บริการด้านสาธารณสุข”

โดยผู้ได้รับการยกเว้นตามกรณีดังกล่าวข้างต้นต้องได้รับวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ชนิดซิโนแวค (Sinovac) ซิโนฟาร์ม (Sinopharm), สปุตนิกวี (Sputnik) ครบ 2 เข็มหรือซิโนแวค (Sinova) เข็ม ๑ แอสตร้าเซนเนก้า (AstraZeneca) เข็ม ๒ หรือได้รับวัคซีนชนิดแอสตร้าเชนเนกา (AstraZeneca) ไฟเซอร์ (Pfizer) โมเดอร์นา (Moderma), จอห์นสันแอนด์จอห์นสัน (Johnson and Johnson) จำนวน 1 เข็มมาแล้วเป็นระยะเวลาอย่างน้อย 34 วัน

หรือเป็นผู้ที่หายจากอาการป่วยด้วยโรคโควิด-19 มาแล้วไม่เกิน 90 วันและต้องได้รับการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ด้วยวิธีการ T-PCR หรือวิธีการ Antigen Test โดยมีระยะเวลาไม่เกิน 6 ชั่วโมงก่อนการเดินทางถึง

“8. กรณีผู้มีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านในจังหวัดภูเก็ตและพังงาที่เดินทางเข้า-ออกเป็นประจำให้สามารถเดินทางเข้าจังหวัดภูเก็ตได้โดยมีผลการฉีดวัคซีนครบตามเกณฑ์ที่กำหนดและมีผลการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ด้วยวิธี ATK (Antigen Test Kit) เป็นลบใช้ยืนยันได้ครั้งละไม่เกิน 7 วันโดยต้องลงทะเบียนผ่าน www.sophugetcom หรือขอหนังสือรับรองจากอำเภอภายในจังหวัดภูเก็ตตามแบบหนังสือรับรองการเดินทางเข้า-ออกจังหวัดภูเก็ตแนบท้ายคำสั่งนี้”

ข้อ 3 ให้ยกเลิกความในข้อ 7 การใช้เส้นทางคมนาคมและการตรวจคัดกรองการเดินทางผ่านทางด่านตรวจท่าฉัตรไชยห้ามบุคคลและยานพาหนะทุกประเภทเข้าจังหวัดภูเก็ตระหว่างเวลา 23.00 นาฬิกาถึงเวลา 04.00 นาฬิกาของวันรุ่งขึ้นยกเว้นเมื่อมีความจำเป็นเร่งด่วนหากปล่อยให้เนิ่นช้าไปจะก่อให้เกิดผลเสียหายอย่างร้ายแรงหรือกระทบต่อประโยชน์สาธารณะโดยให้ใช้ความต่อไปนี้แทน

“7. การใช้เส้นทางคมนาคมและการตรวจคัดกรองการเดินทางผ่านทางด่านตรวจท่าฉัตรไชยห้ามบุคคลและยานพาหนะทุกประเภทเข้าจังหวัดภูเก็ตระหว่างเวลา 23.00 นาฬิกาถึงเวลา 13.00 นาฬิกาของวันรุ่งขึ้นยกเว้นเมื่อมีความจำเป็นเร่งด่วนหากปล่อยให้เนิ่นช้าไปจะก่อให้เกิดผลเสียหายอย่างร้ายแรงหรือกระทบต่อประโยชน์สาธารณะ”

นอกจากที่แก้ไขเพิ่มเติมให้คงเดิมตามคำสั่งจังหวัดภูเก็ตที่ 5134/2564 ลงวันที่ 31 สิงหาคม 2564 เรื่องมาตรการตรวจคัดกรองการเดินทางเข้าจังหวัดภูเก็ตตามมาตรการป้องกันและควบคุมโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019

อนึ่งเนื่องจากเป็นกรณีที่มีความจำเป็นเร่งด่วนหากปล่อยให้เนิ่นช้าไปจะก่อให้เกิดผลเสียหายอย่างร้ายแรงแก่สาธารณชนหรือกระทบต่อประโยชน์สาธารณะจึงไม่อาจให้คู่กรณีใช้สิทธิโต้แย้งตามมาตรา 30 วรรคสอง (1) แห่งพระราชบัญญัติวิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง พ.ศ. 2539

หากผู้ใดฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามคำสั่งฉบับนี้อาจเป็นความผิดตามมาตรา 51 ต้องระวางโทษปรับไม่เกินสองหมื่นบาทหรือมาตรา 52 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งปีหรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาทหรือทั้งจำทั้งปรับแห่งพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ. 2554 และอาจได้รับโทษตามมาตรา 18 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2554

ตามข้อกำหนดออกตามความในมาตรา ๙ แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2554 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสองปีหรือปรับไม่เกินสี่หมื่นบาทหรือทั้งจำทั้งปรับทั้งนี้ตั้งแต่วันที่ 8 กันยายน พ.ศ. 2564 ถึงวันที่ 14 กันยายน พ.ศ. 2564