คลัสเตอร์ตลาดปากพนัง นครศรีธรรมราช พุ่ง 300 ราย เมืองแทบร้าง

ตลาดปากพนังติดโควิดพุ่ง 300

คลัสเตอร์ตลาดปากพนัง นครศรีธรรมราช พุ่ง 300 ราย จังหวัดเร่งระบายผู้ติดเชื้อเข้ารพ.สิชล ด้านผู้ประกอบการร้านค้าปิดตัวเองเกือบทั้งหมดทำเมืองร้าง

วันที่ 10 กันยายน 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กำลังทหารกองทัพภาคที่ 4 ส่งรถลำเลียงเข้าสนับสนุน รพ.สนาม ที่ ต.หูล่อง อ.ปากพนัง จ.นครศรีธรรมราช ทำการเคลื่อนย้ายผู้ป่วยติดเชื้อในระดับสีเขียว จำนวน 40 ราย จากจำนวนผู้ติดเชื้อกว่า 300 ราย ไปรักษาตัวที่ รพ.สิชล เพื่อระบายผู้ป่วยลดความแออัดของผู้ป่วยติดเชื้อจากคลัสเตอร์ตลาดในเขตเทศบาลเมืองปากพนังจำนวนมาก และยังมีแนวโน้มการติดเชื้อเพิ่มขึ้นอีก

นายศรัทธา ทองคำ นายอำเภอปากพนัง เปิดเผยว่า การติดเชื้อเกิดขึ้นในคลัสเตอร์ตลาดในเขตเทศบาลเมืองปากพนัง สืบเนื่องจากมีแม่ค้าติดเชื้อแต่ไม่รู้ตัว ได้มาขายของอยู่ในตลาด ซึ่งอยู่ในสภาพที่แออัด ไม่ถูกสุขลักษณะ ก่อใหเเกิดการแพร่กระจายเชื้อออกไปจำนวนมากทั้งในกลุ่มผู้ค้าและผู้ซื้อ กลายเป็นรังโรคขนาดใหญ่ โดยขณะนี้เจ้าหน้าที่ได้เร่งปฏิบัติการเชิงรุก เพื่อค้นหาผู้ติดเชื้ออย่างละเอียด ทำการตรวจเชิงรุกไปแล้วกว่า 6 พันราย พบผู้ติดเชื้อสูงถึงกว่า 300 ราย

อย่างไรก็ตามหลังจากเกิดคลัสเตอร์ขนาดใหญ่ในตัวเมืองปากพนัง ซึ่งมีประชากรประมาณ 1.9 หมื่นคน ส่งผลให้เมืองปากพนังที่เคยพลุกพล่านในแหล่งชุมชนเศรษฐกิจของอำเภอแทบกลายเป็นเมืองร้าง ผู้ประกอบการร้านค้าปิดตัวเองเกือบทั้งหมด และเข้าสู่การกักตัว เช่นเดียวกับกลุ่มแม่ค้า พ่อค้า ในขณะที่ผู้ซื้อที่อยู่ภายนอกเมืองต้องกักตัว และประสบปัญหาความเป็นอยู่เนื่องจากถูกกักตัวแบบฉับพลัน ไม่ได้มีการเตรียมอาหารสำรอง

ขณะที่นายนนทิวรรธน์ นนทภักดิ์ ชาวอำเภอปากพนัง ได้เรียกร้องว่าปัญหาเร่งด่วนขณะนี้คือเรื่องอาหารโดยเฉพาะกลุ่มประชาชนที่ยากจน ต้องขาดรายได้ ในเมื่อไม่มีรายได้รัฐควรเร่งช่วยเหลือ ไม่ควรทอดทิ้งให้ดูแลกันเอง หากันเองในช่วงฉุกเฉินเช่นนี้ แม้จะเป็นภาระของท้องถิ่นแต่ท้องถิ่นเองก็ทำด้วยความยากลำบากเพราะทั้งระเบียบขั้นตอนการเบิกจ่ายนั้นล่าช้า ดังนั้นควรเป็นนโยบายหลักของรัฐบาลที่ต้องสั่งการทั่วประเทศ


“เมื่อเกิดเหตุการณ์คลัสเตอร์ขนาดใหญ่เช่นพื้นที่ อ.ปากพนัง อันดับแรกถุงยังชีพต้องถึงครัวเรือนประชาชนที่ต้องถูกกักตัวทันทีเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้ได้” นายนนทิวรรธน์ฯ กล่าว