กระบี่ ยกระดับมาตรการป้องกันโควิด เริ่ม 15 ก.ย. เกาะพีพี ปิดต่อ 7 วัน

จ.กระบี่-เกาะพีพี ประกาศยกระดับมาตรการป้องกันโควิด มีผล 15 ก.ย. นี้
ภาพจาก pixabay

จังหวัดกระบี่ เพิ่มระดับมาตรการป้องกันโควิด-19 มีผล 15 ก.ย. นี้ ด้านเกาะพีพี สั่งคุมเข้ม เข้า-ออก ขยายระยะเวลาปิดพื้นที่เกาะอีก 7 วัน

วันที่ 14 กันยายน 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วานนี้ (13 ก.ย.) สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดกระบี่ เผยแพร่ประกาศคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดกระบี่ฉบับที่ 60/2564 ระบุว่า จังหวัดกระบี่ได้กำหนดมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID 19) อย่างเข้มงวดก่อนหน้านี้และได้มีการผ่อนคลายมาระยะหนึ่งหลังจากสถานการณ์การแพร่ระบาดที่ลดลง

แต่สถานการณ์ปัจจุบันได้มีการแพร่ระบาดเป็นกลุ่มก้อนใหญ่ที่มีการกระจายไปหลายอำเภออีกทั้งมีผู้ติดเชื้อยืนยันที่เดินทางมาจากจังหวัดพื้นที่เสี่ยงอย่างต่อเนื่อง จังหวัดกระบี่จึงต้องยกระดับความเข้มข้นของมาตรการควบคุมป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19)

เพื่อให้สถานการณ์คลี่คลายลงโดยเร็วประชาชนในจังหวัดกระบี่ปลอดจากโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) โดยมีการบูรณาการให้เป็นไปอย่างเหมาะสมควบคู่กับการใช้มาตรการควบคุมโรคที่เข้มข้นเพื่อให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจและสังคมสามารถดำเนินไปได้อย่างต่อเนื่องควบคู่ไปกับมาตรการด้านสาธารณสุข

อาศัยอำนาจออกตามความในมาตรา 34 (1) (2) และมาตรา 35 (1) แห่งพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ. 2558 ประกอบข้อ 7 (1) ของข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 (ฉบับที่ 1) ลงวันที่ 25 มีนาคม พ.ศ. 2563 ข้อ 4 และข้อ 8 ของข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 (ฉบับที่ 24 ลงวันที่ 19 มิถุนายน พ.ศ. 2564 ข้อ 73)

และข้อ 10 ของข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 4 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 (ฉบับที่ 25 ลงวันที่ 26 มิถุนายน พ.ศ. 2564 ข้อ 9 ของข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 (ฉบับที่ 27) ลงวันที่ 10 กรกฎาคม พ.ศ. 2564 ผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่โดยความเห็นชอบของคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดกระบี่มีมติเมื่อวันที่ 12 กันยายน พ.ศ. 2564 จึงมีประกาศดังนี้

ข้อ 1 ยกเลิกความในประกาศคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดกระบี่ฉบับที่ 29/2564 เรื่องมาตรการเฝ้าระวังป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ลงวันที่ 11 กรกฎาคม พ.ศ. 2564, ประกาศคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดกระบี่ฉบับที่ 35/2564 เรื่องมาตรการเฝ้าระวังป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19 ลงวันที่ 26 กรกฎาคม พ.ศ. 2564,

ประกาศคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดกระบี่ฉบับที่ 49/2564 เรื่องมาตรการเฝ้าระวังป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ลงวันที่ 24 สิงหาคม พ.ศ. 2564 และประกาศคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดกระบี่ฉบับที่ 5/2564 เรื่องมาตรการเฝ้าระวังป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ลงวันที่ 31 สิงหาคม พ.ศ. 2564

ข้อ 2 มาตรการการเฝ้าระวังป้องกันและการตรวจคัดกรองผู้ที่เดินทางเข้าจังหวัดกระบี่โดยกำหนดให้การเดินทางเข้าพื้นที่จังหวัดกระบี่ต้องมีเอกสารยืนยันว่าเป็นผู้ที่ได้รับวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ที่ได้ขึ้นทะเบียนตามกฎหมายว่าด้วยยาหรือได้รับการรับรองจากองค์การอนามัยโลก (WHO) หรือตามที่กระทรวงสาธารณสุขรับรองครบตามจำนวนหรือวัคซีน Astrazeneca จำนวน 2 เข็มมาไม่น้อยกว่า 14 วัน

และต้องมีเอกสารยืนยันผลการตรวจไม่พบเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ด้วยวิธี RT-PCR หรือ Rapid antigen test ไม่เกิน 7 วันก่อนการเดินทางด้วยเว้นแต่กรณีผู้มีอายุต่ำกว่าปีที่ไม่อยู่ในเกณฑ์การได้รับวัคซีนจะต้องมีเอกสารยืนยันผลการตรวจไม่พบเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ด้วยวิธี RT-PCR หรือ Rapid antigen test ไม่เกิน 7 วันก่อนการเดินทาง

สำหรับกรณีเด็กอายุไม่เกิน 5 ปีไม่ต้องมีผลการตรวจหาเชื้อพร้อมทั้งลงทะเบียนผ่านระบบออนไลน์ตามแบบที่จังหวัดกระบี่กำหนด (COVID-19) และให้ดาวน์โหลดแอปพลิเคชั่น “หมอชนะ” เพื่อการติดตามตัวและให้มีการรายงานตัวต่อเจ้าหน้าที่ด่านตรวจท่าอากาศยานนานาชาติกระบี่ด่านตรวจชุมชนหรือด่านตรวจท่าเรือหรือกำนันผู้ใหญ่บ้านหรือเจ้าพนักงานควบคุมโรคในพื้นที่ที่เข้าพำนักหรือโรงแรมที่พำนักภายใน 24 ชั่วโมง

ข้อ 3 ห้ามเคลื่อนย้ายแรงงานต่างด้าวเข้า-ออกจังหวัดกระบี่จนกว่าสานการณ์จะคลี่คลาย

ข้อ 4 ให้นายอำเภอทุกอำเภอใช้ด่านชุมชนทำหน้าที่คัดกรองและอนุญาตการเดินทางเข้า-ออกโดยพิจารณาถึงเหตุผลความจำเป็นและความปลอดภัยในการยับยั้งการแพร่ระบาดของโรคเป็นสำคัญ

ข้อ 5 ให้ทุกอำเภอกำหนดการปิด-เปิดสถานบริการหรือสถานที่เสี่ยงต่อการแพร์โรคดังต่อไปนี้

  • 5.1 ร้านอาหารร้านจำหน่ายอาหารและเครื่องดื่มทุกประเภทมีข้อกำหนดดังนี้

5.1.1) อนุญาตให้นั่งรับประทานอาหารในร้านได้ไม่เกิน 25% ของพื้นที่นั่งทั้งหมดและให้เปิดได้ไม่เกินเวลา 20.00 น. ทั้งนี้ไม่อนุญาตให้ดื่มสุราหรือเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ในร้านและงดใช้เครื่องปรับอากาศโดยกำหนดให้คณะทำงานติดตามการประเมินการประกอบกิจการและวิถีชีวิตประชาชนตามคำสั่งจังหวัดกระบี่ที่ 3740/2563 ลงวันที่ 30 เมษายน พ.ศ. 2563 เป็นผู้ควบคุมกำกับและติดตามรายละเอียดแนบท้ายประกาศฉบับนี้

5.1.2) ในพื้นที่อำเภอคลองท่อมและอำเภอเหนือคลองไม่อนุญาตให้นั่งรับประทานอาหารในร้านให้ซื้อกลับได้เท่านั้น

  • 5.2 ศูนย์การค้าห้างสรรพสินค้าให้เปิดดำเนินการได้จนถึงเวลา 20.00 น. โดย จำกัด จำนวนผู้ใช้บริการงดเว้นการจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายและงดการให้บริการส่วนที่เป็นตู้เกมเครื่องเล่นร้านเกมและสวนสนุกกรณีร้านอาหารไม่อนุญาตให้นั่งรับประทานอาหารในร้าน แต่ให้ซื้อกลับไปรับประทานที่บ้าน
  • 5.3 ร้านสะดวกซื้อ ซูเปอร์มาร์เก็ต ตลาด ตลาดนัด ถนนคนเดิน ตลาดโต้รุ่งเปิดให้บริการได้ตั้งแต่เวลา 05.00 น. ถึงเวลา 20.00 น. ทั้งนี้ไม่อนุญาตให้มีการนั่งรับประทานอาหารในตลาดโดยให้มีการจัดการระบายอากาศภายในให้โล่งและดำเนินการตามมาตรการป้องกันโรคตามที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนดอย่างเคร่งครัด
  • 5.4 ปิดร้านเกมร้านอินเทอร์เน็ตร้านประกอบกิจการอาบอบนวดรวมถึงกิจการอื่นที่มีลักษณะคล้ายกันทุกประเภท
  • 5.5 ปิดสถานที่ออกกำลังกายสนามกีฬายิมและฟิตเนส
  • 5.6 โรงเรียนและสถาบันการศึกษาทุกประเภทไม่อนุญาตให้ใช้อาคารหรือสถานที่เพื่อจัดการเรียนการสอนการสอบการฝึกอบรมหรือการทำกิจกรรมใด ๆ โดยให้มีการเรียนการสอนแบบ online เท่านั้น
  • 5.7 ปิดศูนย์พัฒนาเด็กเล็กและสถานที่รับเลี้ยงเด็ก
  • 5.8 ระบบขนส่งสาธารณะเปิดให้บริการตั้งแต่เวลา 04.00 น. ถึงเวลา 20.00 น. ให้ผู้ประกอบการขนส่งในแต่ละเส้นทางที่เดินรถมายังจังหวัดกระบี่จัดทำข้อมูลของผู้โดยสารที่เดินทางเข้ามายังจังหวัดกระบี่ตามแบบรายงานที่กำหนดและจัดส่งให้สำนักงานขนส่งจังหวัดกระบี่เป็นประจำทุกวันเพื่อจะได้จัดส่งให้ศูนย์ประสานงานเพื่อติดตามตรวจสอบต่อไปและจัดให้สถานีมีการจัดการระบายอากาศภายในให้โล่งและดำเนินการตามมาตรการป้องกันโรคตามที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนดอย่างเคร่งครัด

ข้อ 6 การดำเนินการหรือจัดกิจกรรมทางสังคมที่เสี่ยงต่อการแพร่โรค

  • 6.1 งดการจัดกิจกรรมที่มีคนรวมกลุ่มเป็น 5 คนเว้นแต่เป็นกิจกรรมที่ได้ประสานและเตรียมการไว้ล่วงหน้าซึ่งดำเนินการโดยหน่วยงานของรัฐหรือการจัดกิจกรรมในพื้นที่ที่กำหนดให้เป็นสถานที่กักกันทั้งนี้ให้ดำเนินการตามมาตรการของกระทรวงสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด
  • 6.2 งดการจัดกิจกรรมงานเลี้ยงสังสรรค์หรืองานรื่นเริงงานตามประเพณียกเว้นกรณีงานศพให้ดำเนินการได้ แต่ จำกัด ผู้ร่วมงานไม่เกิน ๒๐ คน และงดเว้นการจัดเลี้ยงอาหารอาหารว่างและเครื่องดื่มทุกชนิด ทั้งนี้ให้ดำเนินการตามมาตรการของกระทรวงสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด

ข้อ 7 ขอความร่วมมืองดออกจากบ้านในช่วงเวลา 21.00 น. ถึงเวลา 04.00 น.

ข้อ 8 การดำเนินรูปแบบการปฏิบัติงาน

  • 8.1 ให้เจ้าของกิจการผู้ประกอบการภาคเอกชนพิจารณาและดำเนินรูปแบบการปฏิบัติงานของบุคลากรให้เหมาะสมโดยอาจเป็นการปฏิบัติงานนอกสถานที่ตั้งการสลับวันทำงานหรือวิธีการอื่นใดที่เหมาะสมเพื่อลดโอกาสเสี่ยงจากการติดเชื้อ
  • 8.2 ให้หัวหน้าส่วนราชการหรือหัวหน้าหน่วยงานต้องจัดให้มีการปฏิบัติงานเหลื่อมเวลาหรือการปฏิบัติงานนอกสถานที่ตั้ง (Work From Home) ตามความเหมาะสมเพื่อประโยชน์ในการเฝ้าระวังป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19)

ข้อ 9 ผู้ที่อาศัยรวมถึงผู้ที่เดินทางเข้ามาในพื้นที่จังหวัดกระบี่ทุกคนต้องปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ได้แก่ D-M-H-T-T-A (D-Distancing เว้นระยะห่างระหว่างกัน, M-mask Wearing สวมหน้ากากผ้า / หน้ากากอนามัยเสมอ, H-Hand Washing ล้างมือบ่อย ๆ, T-Testing ตรวจวัดอุณหภูมิ, T-Thai cha na, A-Application ติดตั้งและสแกนแอปพลิเคชั่นไทยชนะและหมอชนะ)

ข้อ 10 ให้ทุกอำเภอดำเนินการจัดทำ Community Isolation อำเภอละอย่างน้อย 1 แห่งและจัดทำ Home Isolation ให้เพียงพอในการรองรับผู้ป่วยในสถานการณ์การแพร่ระบาดให้แล้วเสร็จภายใน 6 สัปดาห์สำหรับอำเภอคลองท่อมและอำเภอเหนือคลองดำเนินการให้แล้วเสร็จภายใน 1 สัปดาห์

ผู้ใดฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามประกาศฉบับนี้อาจมีความผิดตามมาตรา 52 แห่งพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ. 2558 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งปีหรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาทหรือทั้งจำทั้งปรับและอาจมีความผิดตามมาตรา 18 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสองปีหรือปรับไม่เกินสี่หมื่นบาทหรือทั้งจำทั้งปรับ

ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 15 กันยายน พ.ศ. 2564 เป็นต้นไป

นอกจากนี้ ยังได้ประกาศคณะกรรมการควบคุมโรคติดต่อฯ จังหวัดกระบี่ ฉบับที่ 61 /2564 เรื่องกำหนดมาตรการในพื้นที่เสี่ยงเป็นการชั่วคราว ในพื้นที่เกาะพีพี อำเภอเมืองกระบี่ จังหวัดกระบี่ ระบุว่า ขยายเวลาปิดเกาะพีพี ตำบลอ่าวนาง อำเภอเมืองกระบี่ อีก 7 วัน ตั้งแต่วันที่ 18 – 24 กันยายน พ.ศ. 2564

มาตรการในการเข้าพื้นที่เกาะพีพี

นักท่องเที่ยวต่างชาติจากโครงการภูเก็ตแซนด์บอกซ์ 7+7

  • สามารถเข้าพื้นที่ได้หลังจากอยู่ในจังหวัดภูเก็ตครบ 7 วัน
  • จึงสามารถเข้าพื้นที่เกาะพีพีได้ในช่วงของวันที่ 8-14

และต้องแสดงผลการฉีดวัคซีนโควิด ครบ 2 เข็ม ตามที่กระทรวงสาธารณสุขรับรองและมีเอกสารยืนยันผลการตรวจไม่พบเชื้อโควิด ด้วยวิธี RT-PCR

  • ตรวจครั้งแรก (วันที่ 0) และตรวจเชื้อครั้งที่สอง (วันที่ 6)
  • ผลการตรวจไม่พบเชื้อภายใน 72 ชั่วโมง

ไม่อนุญาตให้บุคคลในกลุ่มอื่น ๆ เข้าพื้นที่โดยเด็ดขาด ยกเว้นได้รับอนุญาติจากเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อในพื้นที่

มาตรการในการออกพื้นที่เกาะพีพี

นักท่องเที่ยวต่างชาติจากโครงการภูเก็ตแซนด์บอกซ์ 7+7

  • สามารถออกจากพื้นที่ได้ตั้งแต่วันที่ 8 ของการพำนักแซนด์บอกซ์
  • หรือได้รับการตรวจเชื้อโควิด ด้วยวิธีการ RT-PCR ครั้งที่ 3 (วันที่ 12) ผลการตรวจไม่พบเชื้อ

นักท่องเที่ยวต่างชาติกลุ่มอื่น ๆ ที่มีเที่ยวบินเดินทางออกนอกประเทศ

  • สามารถออกจากพื้นที่ได้โดยต้องมีผลการตรวจไม่พบเชื้อโควิด-19 ด้วยวิธีการ RT-PCR หรือ ATK ไม่เกิน 72 ชั่วโมงก่อนการเดินทาง

ไม่อนุญาตให้บุคคลกลุ่มอื่น ๆ ออกนอกพื้นที่โดยเด็ดขาด ยกเว้นได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อในพื้นที่

ทั้งนี้ ให้มีด่านตรวจที่ท่าเรือเกาะพีพี และมีหน้าที่ตรวจคัดกรองและตรวจสอบเอกสารยืนยันอย่างเคร่งครัดหากพบว่าไม่มีเอกสารยืนยันดังกล่าว ไม่อนุญาตให้เข้า-ออกพื้นที่เกาะพีพี