สถานการณ์แพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ที่ยังส่งผลกระทบอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะภาคอุตสาหกรรมจังหวัดพระนครศรีอยุธยาถือว่าเป็นเมืองอุตสาหกรรมอีกหนึ่งแห่ง มีนิคมอุตสาหกรรมอยู่ 5 แห่งมีโรงงานทั้งหมด 2,700 โรง ภาครัฐและเอกชนก็ได้มีการวางแผนรับมือและตื่นตัวอยู่ตลอดเวลา
นางสาวบงกช แจ่มทวี ประธานสภาอุตสาหกรรมจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ภาครัฐกับเอกชนถือว่าให้ความร่วมมือกันดีจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19
- เรือสิงคโปร์ชนสะพานในสหรัฐ มีประวัติไม่ดีมาก่อน เรารู้อะไรแล้วบ้างตอนนี้ ?
- สถิติหวย ตรวจหวย ผลสลากกินแบ่งรัฐบาล งวด 1 เมษายน ย้อนหลัง 10 ปี
- หุ้นกู้ออกใหม่ 12 บริษัทแห่ขายเดือน เม.ย.นี้ จ่ายดอกเบี้ยสูงสุด 7.40%
ปัจจุบันจังหวัดพระนครศรีอยุธยามีนิคมอุตสาหกรรมทั้งหมด 5 แห่ง แบ่งออกเป็น นิคมอุตสาหกรรมของภาครัฐ 3 แห่ง ได้แก่ 1.นิคมอุตสาหกรรมบางปะอิน 2.นิคมอุตสาหกรรมไฮเทค บ้านหว้า
3.นิคมอุตสาหกรรมนครหลวง ส่วนของเอกชนมี 2 แห่ง ได้แก่ 1.นิคมอุตสาหกรรมโรจนะ และ 2.นิคมอุตสาหกรรมแฟคตอรี่แลนด์
มีโรงงานทั้งหมด 2,700 แห่ง ที่ผ่านมามีการประชุมหารือกันอย่างหนักสัปดาห์ละ 2 ครั้ง เพื่อหาทางแก้ไขและป้องกันปัญหาที่เกิดขึ้น ซึ่งทางนายภานุ แย้มนาม ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา
ก็ได้ให้แนวนโยบายว่า “สาธารณสุขต้องควบคู่กับเศรษฐกิจ” เพราะอยุธยาถือว่าเป็นจังหวัดในภาคอุตสาหกรรมและยังเป็นจังหวัดที่นำรายได้เข้ามาในประเทศระดับต้น ๆ จึงได้มีการจัดทำ “อยุธยาโมเดล”
เพื่อรองรับการทำแซนด์บอกซ์ในอนาคต ตอนนี้ก็ขยายไปในสถานประกอบการต่าง ๆ ล่าสุด ศูนย์กระจายพัสดุสาขาวังน้อย ได้รับเลือกเป็น 1 ใน 10 สถานประกอบกิจการที่ดีเยี่ยมจากสถานประกอบการทั้งหมด 2,700 แห่งในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา
ในส่วน factory sandbox เฟส 2 ได้มีการเตรียมความพร้อมโดยได้เชิญโรงงานส่งออกขนาดใหญ่เข้าร่วมประชุม เบื้องต้นมีอยู่ประมาณ 10 กว่าแห่ง และมีสถานประกอบหลายแห่งอยากเข้าร่วมโครงการ
แต่สำหรับโครงการ FAI ก็มีผู้ประกอบการที่ทำได้กับทำไม่ได้ เพราะโรงงานบางแห่งถึงจะมีขนาดใหญ่ แต่พื้นที่ตั้งโรงงานขึ้นไลน์การผลิตเท่านั้น ไม่มีพื้นที่เหลือเพียงพอตั้งโรงพยาบาลสนาม ทำให้พอเกิดโรคระบาดตั้งรับกันไม่ทัน
“หลายโรงงานที่ทำไม่ได้ ภาคเอกชนก็เลยลงขันร่วมกันสร้างเป็นโรงพยาบาลสนามส่วนกลางขนาดใหญ่ 1,000 เตียง”
โดยเป็นการร่วมมือของผู้ประกอบการกว่า 100 แห่งที่ได้ลงขันกันสร้างในพื้นที่ของบริษัทในเครือ ช.การช่าง ที่นิคมอุตสาหกรรมบางปะอิน รวมพื้นที่ 6,000 ตารางเมตร และมีทีมแพทย์ดูแลรักษาผู้ป่วย 24 ชม.
โดยผู้ป่วยที่เข้ารักษาจะอยู่ในอาการกลุ่มสีเขียว และกลุ่มสีเหลืองบางส่วน และถ้าหากเป็นกลุ่มสีเหลืองแก่และสีแดง จะมีการส่งผู้ป่วยเข้าไปรักษาในโรงพยาบาลที่เข้ามาดูแลในส่วนอีกด้วย โดยในวันที่ 28 กันยายน 2564 จะมีการเปิดโรงพยาบาล และคาดว่าจะเปิดใช้งานกลางเดือนตุลาคม 2564
อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ว่าตอนนี้สถิติการแพร่ระบาดจะลดลง แต่ก็ยังมีการระบาดต่อเนื่องและยังมีการเสียชีวิตอยู่ ฉะนั้นเราก็ต้องดูแลกันต่อไป แต่ไม่ค่อยกังวล เนื่องจากภาครัฐและเอกชนในจังหวัดค่อนข้างเหนียวแน่นในการป้อง รักษา เยียวยา