เปิดเมืองสุโขทัย นำร่อง “ตำบลเมืองเก่า” หวังท่องเที่ยวปลายปีกระเตื้อง 30%

สุโขทัยเตรียมเปิดเมือง 1 ธันวาคม 2564 นำร่องพื้นที่ตำบลเมืองเก่า เน้นท่องเที่ยวเชิงคุณภาพ จัดโปรแกรมเที่ยวหวังเพิ่มอัตรการเข้าพักช่วงปลายปีกระเตื้องขึ้น 25-30% พร้อมขอความร่วมมือบุคลากรทางการแพทย์ อบรมพนักงานด่านหน้าในการตรวจ ATK หรือ RT-PCR เพื่อลดงานของแพทย์ พยาบาล คาดสถานการณ์ดีขึ้นในเดือนธันวาคมนี้

นายวิวัฒน์ ธาราวิวัฒน์ รักษาการประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวสุโขทัย เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า ภาพรวมการท่องเที่ยวเมืองสุโขทัยปัจจุบันมีอัตราการเข้าพักเฉลี่ย 10% จากโรงแรมทั้งหมด 120-150 แห่ง เพราะเปิดให้บริการเพียง 10-20% เท่านั่น และสุโขทัยเป็นอีก 1 จังหวัดที่อยู่ในกลุ่มที่จะต้องเปิดเมืองวันที่ 1 ธันวาคม 2564 จึงได้มีการเตรียมพื้นที่นำร่องรองรับสำหรับนักท่องเที่ยวคือ ตำบลเมืองเก่า เนื่องจากเป็นอุทยานประวัติศาสตร์ มีสถานประกอบที่พัก และส่วนใหญ่คนในพื้นที่ดังกล่าวมีการฉีดวัคซีนครบ 2 เข็มแล้ว

ทั้งนี้ โรงแรมที่ผ่าน SHA Puls ประมาณ 19 แห่ง มีโรงแรมที่ตั้งอยู่ในตำบลเมืองเก่า ประมาณ 12 แห่ง ซึ่งทาง ททท.ได้มีการรณรงค์ให้มีสถานประกอบที่ได้รับ SHA Puls มากขึ้นเรื่อย ๆ

ปัจจุบันสุโขทัยมีประชาชนได้รับการฉีดวัคซีนเข็มแรกไปแล้วกว่า 50% ส่วนเข็ม 2 อยู่ที่ 20-30% คาดหวังว่าหลังวันที่ 1 ธันวาคม 2564 น่าจะได้รับการฉีดเข็ม 2 ครบ 70%

ซึ่งจะสอดคล้องกับการเปิดเมืองพอดี นักท่องเที่ยวจะสามารถเดินทางไปในเส้นที่ได้มีการจัดโปรแกรมไว้ให้ เบื้องต้นทาง ททท.อยู่ระหว่างการเขียนโปรแกรม โดยจะมี 3 พื้นที่หลักคือ อำเภอเมือง อำเภอสวรรคโลก และอำเภอศรีสัชนาลัย

“จะมีการวางไว้ 2 รูปแแบบคือ ทริปเที่ยว 1 วันเต็ม และทริป 2 วัน 1 คืน โปรแกรมแหล่งท่องเที่ยวที่วางไว้คร่าว ๆ คือ อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย อุทยานประวัติศาสตร์ศรีสัชนาลัย ชุมชนย่านการค้าสถานีรถไฟสวรรคโลก

ชุมชนบ้านนาต้นจั่น เบื้องต้นสถานประกอบการ แหล่งท่องเที่ยว ร้านอาหาร และพื้นที่สุ่มเสี่ยงในการต้อนรับนักท่องเที่ยว ทางจังหวัดมีการจัดเตรียมให้มีการฉีดวัคซีนแล้ว

โดยทางภาคเอกชนได้ไปศึกษาดูงานที่จังหวัดภูเก็ต ทั้งสนามบินภูเก็ต ท่าเรือ รวมถึงโรงแรม เพื่อดูวิธีการรับมือกับวิธีการจัดการ ซึ่งคาดว่ามาตรการจะคล้าย ๆ กันกับจังหวัดอื่น ๆ ที่จะมีการเปิดเมืองก่อนสุโขทัย”

ด้านแผนรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ ที่เดินทางเข้ามาในประเทศและเที่ยวในเมืองอื่น ๆ ก่อนแล้ว เช่น กรุงเทพฯ ภูเก็ต สมุย เชียงใหม่ ทางจังหวัดก็มีข้อกังวลเล็กน้อยเกี่ยวกับผลตรวจ ATK

เพราะระยะเวลาอาจจะไม่สอดคล้องกับผลตรวจ จึงได้มีการพูดคุยกันว่าอาจจะขอความร่วมมือให้เจ้าหน้าที่สาธารณสุขจังหวัดอบรมบุคลากรของโรงแรมเพื่อที่จะสามารถตรวจ ATK หรือ RT-PCR ให้กับนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาพักในกรณีที่ไม่ได้ตรวจก่อนเดินทางเข้ามาจังหวัด

“ตอนนี้แจ้งกับทางสาธารณสุขไปแล้วแต่ยังไม่รู้ว่าจะสามารถดำเนินการได้ไหม เพราะเขาก็มีการอบรม อสม.อยู่ เราก็ขอเพิ่มบุคลากรทางด้านการท่องเที่ยวเข้าไปอบรมด้วย ฝึกให้เขาตรวจและแยกชุดตรวจขยะที่เสี่ยงติดเชื้อเพราะจะช่วยลดปริมาณงานของบุคลากรทางการแพทย์ด้วย มีความคาดหวังว่าถ้าหากทำได้จริงอัตราการเข้าพักก็น่าจะขึ้นมาในระดับ 25-30% ในช่วงปลายปี

เพราะจากตัวเลขเดือนสุดท้ายก่อนสิ้นปีของปีที่แล้ว ตอนที่สถานการณ์โควิด-19 คลี่คลายมีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาในสุโขทัยเยอะมากจนสามารถทดแทนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่หายไปได้และปีนี้ก็คาดหวังว่าสุโขทัยจะยังเป็นเป้าหมายที่นักท่องเที่ยวสนใจและอยากเดินทางเข้ามาอยู่”

สำหรับนักท่องเที่ยวในประเทศ ปัจจุบันทางภาคเอกชนได้มีการเจรจากับทางศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) (ศบค.) จังหวัดสุโขทัย เรื่องการผ่อนปรนเงื่อนไขการเข้าเมืองต่าง ๆ ตอนนี้กำลังรอที่ประชุมของ ศบค.จังหวัดสุโขทัย คาดว่าภายในเดือนตุลาคมจะทราบความชัดเจน

“ทางภาคเอกชนกำลังพยายามกระตุ้นการเปิดเมือง เนื่องจากสุโขทัยเป็นจังหวัดที่อยู่ในกลุ่มที่จะต้องเปิดเมืองตามเดิมคือวันที่ 15 ตุลาคม 2564 แต่ด้วยข้อจำกัดหลาย ๆ อย่าง และความไม่พร้อม จึงมีความจำเป็นต้องเลื่อนออกไปเป็นวันที่ 1 ธันวาคม 2564 ซึ่งคาดว่าช่วงเดือนธันวาคมการท่องเที่ยวจะดียิ่งขึ้นอีกทั้งได้รับการกระตุ้นจากทางภาครัฐผ่านโครงการเราเที่ยวด้วยกัน เฟส 3 จะทำให้นักท่องเที่ยวกลุ่มเป้าหมายหลักคือกลุ่มที่อยู่กรุงเทพฯ-ปริมณฑล ซึ่งน่าจะได้รับวัคซีนครบแล้วการเดินทางเข้ามาในพื้นที่ง่ายมากขึ้น”

ขณะเดียวกัน โปรโมชั่นที่จะดึงดูดนักท่องเที่ยว ทางสถานประกอบการ และ ททท.ได้มีการพูดคุยกันคือ ใช้วิธีการเปิดเมืองแบบค่อยเป็นค่อยไป จะไม่ใช่การจัดแคมเปญลด แลก แจก แถม เรามองว่าอยากเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงคุณภาพ นักท่องเที่ยวอาจจะต้องปฏิบัติตามกฎระเบียบอย่างเคร่งครัด อาจจะมีการให้ incentive หรือสิ่งจูงใจกับนักท่องเที่ยวที่เข้ามาในพื้นที่และปฏิบัติตามเงื่อนไขของจังหวัดที่กำหนดไว้

อาจจะเป็นส่วนลดค่าห้องพัก หรือคูปองซื้อของที่ระลึก คูปองร้านอาหาร ซึ่งเราเคยทำมาแล้วช่วงมีการระบาดของโรคโควิด-19 เมื่อปี 2563 และได้ผลตอบรับที่ดี

นอกจากนี้ การจัดงานลอยกระทงที่จะเกิดในช่วงเดือนพฤศจิกายน จะต้องมีการหารือและวางแผนให้รัดกุมเพื่อไม่ก่อให้เกิดคลัสเตอร์ในการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19

ซึ่งทางจังหวัดให้ความสำคัญมาก ในแนวทางอาจจะมีการจัดกิจกรรมขนาดเล็กที่สามารถดูแลและควบคุมได้ง่าย ส่วนตัวเลขนักท่องเที่ยวที่สามารถรองรับได้ตอนนี้ไม่สามารถตอบได้

แต่เบื้องต้นจะไม่มีงานมหรสพต่าง ๆ เช่น การแสดงศิลปวัฒนธรรม การจุดพลุ เพื่อลดการสุ่มเสี่ยง การรวมตัวของคนจำนวนมาก แม้ว่าปีที่ผ่านมาจะมีนักท่องเที่ยวมาร่วมงาน 10 วัน กว่า 300,000 คน สร้างรายได้กว่า 700-800 ล้านบาท