เขื่อนสิริกิติ์ ยังวิกฤต น้ำน้อยกว่าปี’63 ย้ำเกษตรกรงดสูบน้ำเพื่อการเกษตร

เขื่อนสิริกิติ์ จ.อุตรดิตถ์ ยังวิกฤต เผยน้ำน้อยกว่าปี 2563 หวั่นภัยแล้ง ขอความร่วมมือเกษตรงดสูบน้ำเพื่อการเกษตร เน้นเก็บไว้อุปโภค-บริโภค

เมื่อวันที่ 11 ตุลาคม 2564 นายบรรจง ศรีสอาด ผู้ช่วยผู้อำนวยการเขื่อนสิริกิติ์-1 เปิดเผยว่า สถานการณ์น้ำในเขื่อนสิริกิติ์ ขณะนี้มีปริมาณน้ำไหลเข้าเขื่อนลดลงเรื่อย ๆ ประมาณวันละ 12 ล้านลูกบาศก์เมตรเท่านั้น พายุที่เข้ามาในประเทศไทยหลาย ๆ ลูกที่ผ่านมา ส่วนใหญ่จะตกลงท้ายเขื่อน ซึ่งปริมาณน้ำของปีนี้เทียบกับปี 2563 นั้น จะต่างกันอยู่ที่ระดับประมาณ 8 เมตร ซึ่งต้องดูอีกครั้งว่าพายุลูกใหม่ที่จะเข้ามานั้น จะตกเหนือเขื่อนหรือไม่ เพราะเขื่อนสิริกิติ์ยังสามารถรับพายุได้อีกประมาณ 5 ลูก หรือยังรับน้ำได้อีกกว่า 5,000 ล้านลูกบาศก์เมตร

ส่วนภาพรวมปริมาณน้ำทั้ง 4 เขื่อน รวมแล้วมีปริมาณมากนั้น เพราะทั้ง 3 เขื่อน คือ เขื่อนภูมิพล, เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ และเขื่อนแควน้อยบำรุงแดน มีปริมาณน้ำฝนตกลงมามาก ยกเว้นเขื่อนสิริกิติ์ฝนตกลงท้ายเขื่อน

ด้าน นายพันธุ์เทพ เเสงเก้ว หัวหน้าฝ่ายส่งน้ำเเละบำรุงรักษาผาจุก โครงการส่งน้ำเเละบำรุงรักษาผาจุก โรงสูบน้ำด้วยไฟฟ้าบ้านเกาะ ซึ่งเป็นหน่วยสูบน้ำให้กับเกษตรกรทำนาครอบคลุม 6 ตำบล เนื้อที่ 34,446 ไร่
เปิดเผยว่า ขณะนี้การทำนาของเกษตรกรช่วงนี้ให้เน้นใช้น้ำจากฝนเป็นหลัก เพราะสถานีสูบน้ำของกรมชลประทานที่มีอยู่ทุกสถานีในตอนนี้ ไม่สามารถสูบน้ำขึ้นมาให้ชาวนาได้

เนื่องจากเขื่อนสิริกิติ์มีปริมาณน้อยกว่าปีที่ผ่านมา ซึ่งที่ผ่านมาได้ทำหนังสือแจ้งหน่วยงานท้องถิ่นให้ทราบไปแล้วเพื่อขอความร่วมมืองดสูบน้ำอย่างเด็ดขาด เพื่อทางเขื่อนจะได้มีน้ำไว้ใช้ในฤดูแล้ง ด้านอุปโภค บริโภค และผลักดันน้ำเค็มในลุ่มน้ำเจ้าพระยาอีกด้วย